1. หน้าแรก
  2. TTS
  3. ทางเลือกที่ดีที่สุดแทน ClaroRead?
TTS

ทางเลือกที่ดีที่สุดแทน ClaroRead?

Cliff Weitzman

คลิฟ ไวซ์แมน

ซีอีโอ/ผู้ก่อตั้ง Speechify

#1 โปรแกรมอ่าน Text to Speech.
ให้ Speechify อ่านให้คุณฟัง

รางวัลออกแบบ Apple 2025
ผู้ใช้กว่า 50 ล้านคน
ฟังบทความนี้ด้วย Speechify!
speechify logo

ClaroRead เป็นเทคโนโลยีช่วยเหลือที่ทรงพลัง มีชุดแอปพลิเคชันที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาในการอ่านและเขียน ด้วยหลายเวอร์ชันเช่น ClaroRead Plus, ClaroRead Pro และ ClaroRead SE ซอฟต์แวร์นี้เป็นที่นิยมสำหรับผู้ใช้หลายคน อย่างไรก็ตาม หากคุณกำลังมองหาทางเลือกที่มีฟังก์ชันคล้ายกันและอาจตอบสนองความต้องการเฉพาะของคุณได้ดีกว่า บทความนี้จะนำเสนอซอฟต์แวร์ 8 ตัวเลือกที่คุณสามารถพิจารณาได้

ก่อนที่เราจะเจาะลึกถึงทางเลือก มาดูชุด ClaroRead กันก่อน

  1. ClaroRead Plus: ราคาอยู่ที่ประมาณ $158 ณ กลางปี 2023 ClaroRead Plus เป็นซอฟต์แวร์แปลงข้อความเป็นเสียงที่ครอบคลุม ช่วยให้ผู้ใช้สามารถอ่านออกเสียงข้อความจาก Microsoft Word, Google Chrome, ไฟล์ PDF และแหล่งอื่น ๆ มีฟีเจอร์คาดเดาคำและตรวจสอบการสะกด ทำให้การเขียนข้อความภาษาอังกฤษง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีเสียงคุณภาพสูงในสำเนียงและภาษาต่าง ๆ
  2. ClaroRead Pro: เวอร์ชันนี้รวมฟีเจอร์ทั้งหมดของ ClaroRead Plus พร้อมด้วยการรู้จำอักขระด้วยแสง (OCR) OCR ช่วยในการแปลงเอกสารสแกนและภาพเป็นข้อความที่แก้ไขได้ ClaroRead Pro ยังมีฟีเจอร์ 'ScreenRuler' ที่ช่วยให้ผู้ใช้โฟกัสที่บรรทัดข้อความแต่ละบรรทัด
  3. ClaroRead SE: รุ่นที่เรียบง่ายออกแบบมาพร้อมฟีเจอร์น้อยลงสำหรับผู้ที่ต้องการซอฟต์แวร์ช่วยเหลือที่ง่ายขึ้น ClaroRead SE มีฟีเจอร์อ่านออกเสียงหลักพร้อมเสียงคุณภาพสูงให้เลือก

ตอนนี้ มาค้นพบทางเลือก ClaroRead ที่ดีที่สุดกัน:

  1. Microsoft's Immersive Reader: เป็นเครื่องมือฟรีจาก Microsoft ที่รวมอยู่ในผลิตภัณฑ์หลายตัวของพวกเขา เช่น Microsoft Word มีฟังก์ชันแปลงข้อความเป็นเสียง คาดเดาคำ และตัวเลือกการปรับแต่งต่าง ๆ ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและบุคคลทั่วไป
  2. TextHelp's Read&Write: ซอฟต์แวร์การรู้หนังสือที่หลากหลาย Read&Write มีฟังก์ชันเช่น แปลงข้อความเป็นเสียง ตรวจสอบการสะกด และคาดเดาคำ เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีปัญหาดิสเล็กเซียและผู้เรียนภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ยังมีแถบเครื่องมือเพื่อให้การใช้งานง่ายขึ้น
  3. Natural Reader: ซอฟต์แวร์ที่มีทั้งเวอร์ชันฟรีและเสียเงิน ฟังก์ชันแปลงข้อความเป็นเสียงคุณภาพสูง OCR และการพิมพ์ด้วยเสียงทำให้เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมแทน Claro รองรับหน้าเว็บและรูปแบบเอกสารต่าง ๆ
  4. Kurzweil 3000: โซลูชันแบบ SaaS ที่ให้ความช่วยเหลือในการอ่าน เขียน และการเรียนรู้สำหรับบุคคลที่มีปัญหาการเรียนรู้ มีการตรวจสอบการสะกดแบบเรียลไทม์และฟีเจอร์ 'templates' ที่ช่วยในการสร้างเอกสารที่มีโครงสร้าง
  5. Ghotit Real Writer & Reader: ออกแบบมาสำหรับบุคคลที่มีปัญหาดิสเล็กเซีย Ghotit มีการตรวจสอบการสะกดและไวยากรณ์ขั้นสูง ผู้ช่วยการอ่าน และฟีเจอร์คาดเดาคำที่รวมอยู่
  6. Speechify: แอปพลิเคชันบนมือถือและเดสก์ท็อปที่รองรับ Android และ Mac Speechify มีฟังก์ชันแปลงข้อความเป็นเสียงด้วยเสียงคุณภาพสูง นอกจากนี้ยังมีการรวมเข้ากับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเช่น LinkedIn
  7. ReadSpeaker: โซลูชันบนเว็บที่มีเทคโนโลยีแปลงข้อความเป็นเสียงคุณภาพสูงเพื่ออ่านเนื้อหาเว็บออกเสียงแบบเรียลไทม์ มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่ต้องการทำให้เนื้อหาเว็บของตนเข้าถึงได้มากขึ้น
  8. NVDA (NonVisual Desktop Access): โปรแกรมอ่านหน้าจอแบบโอเพ่นซอร์สที่ให้การแปลงข้อความเป็นเสียงและเอาต์พุตอักษรเบรลล์ ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับผู้ใช้ที่มีปัญหาทางสายตา

สรุปแล้ว แม้ว่า ClaroRead จะมีชุดเครื่องมือช่วยเหลือที่ครอบคลุม แต่ก็มีทางเลือกมากมายที่มีให้เลือก ซึ่งมีตั้งแต่โซลูชันคุณภาพสูงที่ต้องเสียเงินไปจนถึงซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สฟรี การเลือกขึ้นอยู่กับความต้องการและการพิจารณาราคาเฉพาะบุคคล ตั้งแต่การช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาดิสเล็กเซียไปจนถึงการช่วยในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ เครื่องมือเหล่านี้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานส่วนบุคคลและธุรกิจขนาดเล็กได้

เพลิดเพลินกับเสียง AI ที่ล้ำสมัยที่สุด ไฟล์ไม่จำกัด และการสนับสนุนตลอด 24/7

ทดลองฟรี
tts banner for blog

แชร์บทความนี้

Cliff Weitzman

คลิฟ ไวซ์แมน

ซีอีโอ/ผู้ก่อตั้ง Speechify

คลิฟ ไวซ์แมน เป็นผู้สนับสนุนผู้มีภาวะดิสเล็กเซียและซีอีโอผู้ก่อตั้ง Speechify แอปพลิเคชันแปลงข้อความเป็นเสียงอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งได้รับรีวิว 5 ดาวมากกว่า 100,000 ครั้ง และครองอันดับหนึ่งในหมวดข่าวและนิตยสารบน App Store ในปี 2017 ไวซ์แมนได้รับการยกย่องในรายชื่อ Forbes 30 under 30 จากผลงานของเขาที่ทำให้อินเทอร์เน็ตเข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องในการเรียนรู้ คลิฟ ไวซ์แมน ได้รับการนำเสนอในสื่อชั้นนำต่างๆ เช่น EdSurge, Inc., PC Mag, Entrepreneur, Mashable เป็นต้น