Social Proof

วิธีแปลงเอกสาร Word เป็นหนังสือเสียง

Speechify เป็นโปรแกรมอ่านเสียงอันดับ 1 ของโลก อ่านหนังสือ เอกสาร บทความ PDF อีเมล - ทุกอย่างที่คุณอ่าน - ได้เร็วขึ้น

แนะนำใน

forbes logocbs logotime magazine logonew york times logowall street logo
ฟังบทความนี้ด้วย Speechify!
Speechify

การแปลงเอกสาร Microsoft Word ของคุณเป็นหนังสือเสียงไม่ใช่แค่เทคนิคดิจิทัลที่น่าสนใจเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงวิธีการรับข้อมูลขณะเดินทาง ทำให้เนื้อหาเข้าถึงได้ง่ายขึ้น หรือแค่ให้ดวงตาของคุณได้พักผ่อน...

การแปลงเอกสาร Microsoft Word ของคุณเป็นหนังสือเสียงไม่ใช่แค่เทคนิคดิจิทัลที่น่าสนใจเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงวิธีการรับข้อมูลขณะเดินทาง ทำให้เนื้อหาเข้าถึงได้ง่ายขึ้น หรือแค่ให้ดวงตาของคุณได้พักผ่อน นี่คือคำแนะนำง่ายๆ ในการเปลี่ยนไฟล์ข้อความเหล่านั้นเป็นรูปแบบเสียง ไม่ว่าคุณจะใช้ Mac, Windows, Android หรือ iOS

สิ่งที่คุณต้องมี:

  1. เอกสาร Microsoft Word (DOC หรือ DOCX): ก่อนอื่น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเนื้อหาของคุณอยู่ในเอกสาร Word ซึ่งอาจเป็นไฟล์ DOC หรือ DOCX มาตรฐาน Microsoft Word มีความหลากหลายอย่างมาก ไม่เพียงแต่สำหรับการสร้างเอกสารเท่านั้น แต่ยังสำหรับการเตรียมเอกสารเพื่อแปลงเป็นเสียงด้วย
  2. ซอฟต์แวร์แปลงข้อความเป็นเสียง: มีซอฟต์แวร์แปลงข้อความเป็นเสียง (TTS) หลายตัวที่สามารถอ่านไฟล์ Word ของคุณออกเสียงและแปลงเป็นไฟล์เสียง เช่น MP3, WAV, WMA หรือ OGG ตัวเลือกยอดนิยมได้แก่ NaturalReader, ฟีเจอร์แปลงข้อความเป็นเสียงของ Google Docs และฟังก์ชัน Read Aloud ใน Microsoft Word เอง

ขั้นตอนการแปลงทีละขั้น:

สำหรับผู้ใช้ Windows:

  1. การใช้ NaturalReader:
    1. ดาวน์โหลดและติดตั้ง NaturalReader จากเว็บไซต์ทางการ
    2. เปิด NaturalReader และคลิก ‘Add Text’ เพื่ออัปโหลดเอกสาร Word ของคุณ
    3. เลือกเสียงและความเร็วในการอ่านที่ต้องการ NaturalReader มีเสียงหลากหลายที่ให้ผลลัพธ์เสียงคุณภาพสูง
    4. เลือกรูปแบบเอาต์พุต (เช่น MP3 หรือ WAV) และกด ‘Convert’ เสร็จแล้ว! เอกสาร Word ของคุณกลายเป็นหนังสือเสียงแล้ว
  2. การใช้ฟังก์ชัน Read Aloud ของ Microsoft Word:
    1. เปิดเอกสารของคุณใน Microsoft Word
    2. คลิกที่ ‘Review’ แล้วเลือก ‘Read Aloud’
    3. ฟังเอกสารเพื่อให้แน่ใจว่าตรงตามความคาดหวังของคุณ ปรับความเร็วในการอ่านตามความจำเป็น

สำหรับผู้ใช้ Mac:

  1. การใช้ Text-to-Speech ของ macOS:
    1. เปิดไฟล์ DOCX ของคุณใน Microsoft Word บน Mac ของคุณ
    2. ไปที่ ‘System Preferences’ > ‘Accessibility’ > ‘Speech’ เลือกเสียงและปรับอัตราการพูด
    3. เมื่อเอกสารเปิดอยู่ ให้เลือกข้อความที่คุณต้องการแปลงหรือกด Command + A เพื่อเลือกทั้งหมด
    4. คลิกขวาและเลือก ‘Speech’ > ‘Start Speaking’

สำหรับผู้ใช้ iOS และ Android:

  1. การใช้แอป:
    1. ดาวน์โหลดแอปแปลงข้อความเป็นเสียง เช่น NaturalReader ซึ่งมีให้สำหรับทั้ง iOS และ Android
    2. อัปโหลดไฟล์ Word ของคุณหรือซิงค์จากบริการเช่น Google Docs
    3. เลือกการตั้งค่าและรูปแบบเอาต์พุตที่ต้องการ จากนั้นแปลง
  2. การใช้ฟีเจอร์ Read Aloud:
    1. ผู้ใช้ iOS สามารถใช้ฟีเจอร์ 'Speak Screen' โดยการปัดลงด้วยสองนิ้วจากด้านบนของหน้าจอเมื่อเอกสารเปิดอยู่
    2. ผู้ใช้ Android สามารถใช้ Google Text-to-Speech โดยเปิดใช้งานในการตั้งค่า ‘Accessibility’ และใช้ในแอปที่รองรับการเลือกข้อความ

การแปลงไฟล์ประเภทอื่น:

หากเนื้อหาของคุณไม่ได้อยู่ในเอกสาร Word แต่เป็นไฟล์ประเภทอื่น เช่น PDF, HTML, EPUB, MOBI หรือแม้แต่ PowerPoint กระบวนการยังคงเหมือนเดิม แอปอย่าง NaturalReader และ Google Docs สามารถจัดการไฟล์หลายประเภทได้ เพียงเปิดไฟล์ในแอปและทำตามขั้นตอนที่คล้ายกันเพื่อแปลงเป็นไฟล์เสียง

เคล็ดลับเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด:

  1. ตรวจสอบเอกสารของคุณ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีข้อผิดพลาดในการพิมพ์หรือการจัดรูปแบบในเอกสารของคุณที่อาจทำให้ซอฟต์แวร์ TTS สับสน
  2. เลือกเสียงที่เป็นธรรมชาติ: เลือกเสียงที่มีคุณภาพสูงและฟังดูเป็นธรรมชาติเพื่อเพิ่มประสบการณ์การฟัง
  3. ทดสอบรูปแบบต่างๆ: รูปแบบเสียงบางประเภท (เช่น MP3 หรือ OGG) อาจทำงานได้ดีกับเครื่องเล่นหนังสือเสียงของคุณมากกว่ารูปแบบอื่น

ใช้ Speechify เพื่อแปลงเอกสาร Word ของคุณเป็นหนังสือเสียง

ด้วย Speechify Voiceover คุณสามารถนำเข้าเอกสาร Word ของคุณ เลือกจากเสียง AI กว่า 100 เสียง และยังเพิ่มเพลงพื้นหลังที่ไม่มีลิขสิทธิ์ได้อีกด้วย นั่นแหละ Speechify เป็นโปรแกรมสร้างเสียงพากย์ AI ชั้นนำที่มีเสียงที่สมจริงและเหมือนมนุษย์มากที่สุด

ลองใช้ฟรีวันนี้.

การแปลงเอกสาร Word เป็นหนังสือเสียงสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและการเข้าถึงได้อย่างมาก ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเรียนที่ต้องการเรียนรู้ขณะเดินทาง มืออาชีพที่ต้องการทบทวนเอกสารขณะเดินทาง หรือใครก็ตามที่ต้องการการสนับสนุนทางการฟัง เครื่องมือเหล่านี้ทำให้การแปลงข้อความเป็นเสียงง่ายกว่าที่เคยและเพลิดเพลินกับการฟังเอกสารของคุณออกเสียง สนุกกับหนังสือเสียงใหม่ของคุณ!

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการแปลงเอกสาร Word เป็นหนังสือเสียง

ในการแปลงเอกสาร Word เป็นหนังสือเสียง ใช้ซอฟต์แวร์แปลงข้อความเป็นเสียง เช่น NaturalReader หรือฟีเจอร์ Read Aloud ของ Microsoft Word เพียงเปิดเอกสารของคุณในแอปพลิเคชัน เลือกข้อความ และเลือกเสียงและรูปแบบสำหรับการส่งออกเสียง

ได้ คุณสามารถแปลงเอกสาร Word เป็นไฟล์เสียงได้ ใช้เครื่องมือแปลงข้อความเป็นเสียง เช่น NaturalReader หรือใช้ฟีเจอร์ในตัวใน Microsoft Word และระบบปฏิบัติการเช่น Windows และ macOS เพื่อส่งออกข้อความที่พูดเป็นไฟล์ MP3 หรือ WAV

ในการแปลงคำเป็นเสียง เปิดเอกสารของคุณในซอฟต์แวร์แปลงข้อความเป็นเสียง เลือกข้อความที่คุณต้องการแปลง เลือกเสียงและความเร็ว จากนั้นบันทึกการส่งออกเสียงในรูปแบบที่คุณต้องการ

ได้ Microsoft Word สามารถแปลงข้อความเป็นเสียงได้โดยใช้ฟีเจอร์ Read Aloud ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ภายใต้แท็บ Review ฟีเจอร์นี้จะอ่านข้อความออกเสียงและเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับการตรวจสอบหรือทำงานหลายอย่างพร้อมกัน

Cliff Weitzman

คลิฟ ไวซ์แมน

คลิฟ ไวซ์แมน เป็นผู้สนับสนุนด้านดิสเล็กเซียและเป็น CEO และผู้ก่อตั้ง Speechify แอปพลิเคชันแปลงข้อความเป็นเสียงอันดับ 1 ของโลก ที่มีรีวิว 5 ดาวมากกว่า 100,000 รีวิว และครองอันดับหนึ่งใน App Store ในหมวดข่าวและนิตยสาร ในปี 2017 ไวซ์แมนได้รับการยกย่องในรายชื่อ Forbes 30 under 30 จากผลงานของเขาในการทำให้อินเทอร์เน็ตเข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องในการเรียนรู้ คลิฟ ไวซ์แมน ได้รับการนำเสนอใน EdSurge, Inc., PC Mag, Entrepreneur, Mashable และสื่อชั้นนำอื่น ๆ