การพิมพ์ด้วยเสียงบน Mac เป็นหนึ่งในเครื่องมือทรงพลังที่มีมาเพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพการทำงาน และ การเข้าถึง โดยแปลงเสียงของคุณเป็นข้อความแบบทันที คุณไม่ต้องพิมพ์ตลอดเวลา—เขียนได้เร็วขึ้น ใช้งานแบบแฮนด์ฟรี และโฟกัสที่ไอเดียแทนการเคาะคีย์บอร์ด ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับวิธีใช้พิมพ์ด้วยเสียงบน Mac.
พิมพ์ด้วยเสียงบน Mac คืออะไร?
การพิมพ์ด้วยเสียงบน Mac คือฟีเจอร์แปลงคำพูดเป็นข้อความของ Apple ที่ให้คุณพูดแทนการพิมพ์ ใช้การรู้จำเสียงขั้นสูงที่ขับเคลื่อนโดย Siri และเอนจินประสาทของ Apple เพื่อแปลงคำพูดเป็นข้อความแบบเรียลไทม์ ใช้ได้กับแอปส่วนใหญ่ เช่น Notes, Messages, Mail, Pages และ Microsoft Word.
ฟีเจอร์ การพิมพ์ด้วยเสียงด้วย AI นี้ฝังอยู่ใน macOS โดยตรง หมายความว่าไม่จำเป็นต้องใช้ซอฟต์แวร์ของบุคคลที่สาม รองรับหลายภาษา และทำงานแบบออฟไลน์บน Mac รุ่นใหม่ที่มี Apple Silicon (ชิป M1, M2, M3) หรือรุ่น Intel ที่รัน macOS Catalina ขึ้นไป
วิธีเปิดใช้งานการพิมพ์ด้วยเสียงบน Mac
ก่อนใช้การพิมพ์ด้วยเสียงบน Mac ต้องเปิดใช้งานใน “การตั้งค่าระบบ” ก่อน Apple ทำให้ตั้งค่าและเริ่มใช้งานได้ง่าย ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
- เปิดการตั้งค่าระบบ: คลิกเมนู Apple มุมซ้ายบน เลือก System Settings แล้วเลือก Keyboard จากแถบด้านข้าง
- เปิดการพิมพ์ด้วยเสียง: ภายใต้ส่วน “Dictation” ให้สลับเป็น On เมื่อมีข้อความแจ้ง ให้เลือกว่าจะใช้ “Enhanced Dictation” เพื่อใช้งานแบบออฟไลน์และรับฟีดแบ็กแบบเรียลไทม์หรือไม่
- เลือกภาษาและทางลัด: เลือกภาษาที่ต้องการและตั้งคีย์ลัดเพื่อเปิดการพิมพ์ด้วยเสียงอย่างรวดเร็ว (เช่น กดปุ่ม Fn สองครั้ง)
- เริ่มพิมพ์ด้วยเสียง: วางเคอร์เซอร์ในช่องข้อความใดก็ได้ กดปุ่มทางลัด แล้วเริ่มพูด คำพูดของคุณจะปรากฏบนหน้าจอขณะพูด
ประโยชน์ของการพิมพ์ด้วยเสียงบน Mac
การใช้การพิมพ์ด้วยเสียงบน Mac มีข้อดีหลายอย่าง เช่น:
- เพิ่ม ประสิทธิภาพการทำงาน และความเร็วในการเขียน: การพิมพ์ด้วยเสียงช่วยให้คุณสร้าง เอกสาร อีเมล และข้อความได้เร็วกว่าการพิมพ์เอง โดยเฉพาะเวลาเขียนงานยาวๆ ระดมไอเดีย และ ทำงานหลายอย่างพร้อมกัน.
- ปรับปรุง การเข้าถึง: สำหรับผู้ที่มี ดิสเล็กเซีย ADHD หรือข้อจำกัดทางกาย การพิมพ์ด้วยเสียงช่วยให้เขียนและสื่อสารได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งคีย์บอร์ด
- ลดความเครียดทางกายภาพ: พิมพ์นานๆ อาจทำให้ข้อมือหรือไหล่ล้า การพิมพ์ด้วยเสียงเป็นทางเลือกแบบแฮนด์ฟรีที่ช่วยลดการใช้งานซ้ำๆ
- เสริมความคิดสร้างสรรค์และสมาธิ: การพูดความคิดออกมาดังๆ ช่วยให้การเขียนลื่นไหลเป็นธรรมชาติมากขึ้น หลายคนพบว่าเรียบลื่นกว่าตอนพิมพ์เอง
- ทำงานได้ราบรื่นข้ามแอป: เพราะการพิมพ์ด้วยเสียงฝังมากับ macOS คุณจึงใช้ได้แทบทุกแอปที่รองรับการป้อนข้อความ—ตั้งแต่เบราว์เซอร์และโน้ต ไปจนถึงซอฟต์แวร์การเขียนระดับมืออาชีพ
กรณีใช้งานจริงของการพิมพ์ด้วยเสียงบน Mac
การพิมพ์ด้วยเสียงไม่ใช่เรื่องของนักเขียนเท่านั้น แต่เป็นเครื่องมือสารพัดประโยชน์ที่ใช้ได้ในหลากหลายอุตสาหกรรมและอาชีพ ต่อไปนี้เป็นเพียงตัวอย่างการใช้งานบน Mac:
- นักเรียน: นักเรียน ใช้การพิมพ์ด้วยเสียงเพื่อจดบันทึกการบรรยาย เขียน เรียงความ และบันทึกไอเดียการเรียนได้อย่างรวดเร็วโดยไม่เสียสมาธิ
- ผู้เชี่ยวชาญ: คนทำงานใช้การพิมพ์ด้วยเสียงเพื่อเขียน อีเมล บันทึกการประชุม และรายงาน เพื่อประหยัดเวลาและรักษา ประสิทธิภาพการทำงาน ในวันที่งานล้นมือ
- นักเขียนและผู้สร้างสรรค์: นักเขียน บล็อกเกอร์ และครีเอเตอร์ใช้การพิมพ์ด้วยเสียงเพื่อเก็บไอเดียที่ผุดขึ้นมา ร่างแรก หรือสคริปต์อย่างเป็นธรรมชาติ—ไม่ต้องกังวลเรื่องพิมพ์ไม่ทันหรือสะกดผิด
- ครูผู้สอน: ครูใช้การพิมพ์ด้วยเสียงเพื่อเตรียมแผนการสอน บันทึกความคิดเห็นให้ นักเรียน และสื่อสารได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- การเข้าถึง: ผู้ใช้ที่มีข้อจำกัดทางร่างกายหรือ ปัญหาการมองเห็น ใช้การพิมพ์ด้วยเสียงทุกวันเพื่อใช้งานแอป ส่งข้อความ และสร้างเนื้อหาได้อย่างอิสระ
เคล็ดลับให้แม่นยำยิ่งขึ้นเมื่อใช้การพิมพ์ด้วยเสียงบน Mac
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำที่สุดเมื่อใช้ฟีเจอร์ AI Voice Dictation ของ Mac ให้เริ่มจากพูดให้ชัดและเป็นจังหวะธรรมชาติ—หลีกเลี่ยงการพูดอู้อี้หรือรีบเร่ง ใส่คำสั่งเครื่องหมายวรรคตอน เช่น “period,” “comma,” หรือ “new paragraph” เพื่อให้ระบบจัดรูปแบบข้อความได้ถูกต้องระหว่างพูด เพื่อความชัดที่สุด ควรพิมพ์ด้วยเสียงในที่เงียบ และหากเป็นไปได้ให้ใช้ไมโครโฟนคุณภาพดีเพื่อลดเสียงรบกวนพื้นหลัง สุดท้าย ตรวจทานและแก้ไขข้อความเสมอ—แม้การพิมพ์ด้วยเสียงบน Mac จะค่อนข้างแม่นยำอยู่แล้ว แต่การตรวจทานสั้นๆ จะช่วยจับข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ได้
Speechify Voice Typing: วิธีอันดับ 1 ในการพิมพ์ด้วยเสียงบน Mac
Speechify Voice Typing คือวิธีอันดับหนึ่งในการพิมพ์ด้วยเสียงบน Mac เพราะให้คุณพูดได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่ได้ข้อความเรียบร้อยระดับมืออาชีพ ไม่ต้องชะลอหรือเลือกคำให้เป๊ะทุกคำ Speechify Voice Typing จะตัดคำเติมอย่าง “um” และ “uh” อัตโนมัติ พร้อมทั้งปรับไวยากรณ์ให้ เพื่อให้ความคิดของคุณไหลลื่นลงหน้ากระดาษได้สะอาดสวยงาม นอกจากนี้ Speechify ยังไม่ได้มีแค่การพิมพ์ด้วยเสียง แต่ยังมี text to speech ด้วย เสียง AI สมจริงกว่า 200 เสียง ใน 60+ ภาษา รวมถึง ผู้ช่วยเสียง AI ที่ให้คุณสนทนากับ Mac ถามคำถาม และสรุปเนื้อหาบนหน้าใดก็ได้ แค่เอ่ยปาก แล้ว Speechify Voice Typing ก็ช่วยให้การเขียนเร็วขึ้น ง่ายขึ้น และแม่นยำยิ่งขึ้น
คำถามที่พบบ่อย
การพิมพ์ด้วยเสียงบน Mac คืออะไร?
การพิมพ์ด้วยเสียงบน Mac คือเครื่องมือ speech to text ที่มาพร้อมเครื่องจากแอปเปิล ให้คุณพูดแทนการพิมพ์ แต่ผู้ใช้หลายคนชอบ Speechify Voice Typing มากกว่า เพราะแม่นยำกว่าและได้ข้อความที่สะอาดกว่า
การพิมพ์ด้วยเสียงบน Mac ทำงานอย่างไร?
การพิมพ์ด้วยเสียงบน Mac แปลงคำพูดเป็นข้อความด้วยระบบรู้จำเสียงของ Siri ส่วน Speechify Voice Typing ให้การถอดเสียงที่ลื่นไหลและเนียนกว่า
ต้องต่ออินเทอร์เน็ตไหมถึงจะใช้การพิมพ์ด้วยเสียงบน Mac?
การพิมพ์ด้วยเสียงบน Mac ทำงานแบบออฟไลน์ได้ในรุ่นใหม่ ๆ แต่ Speechify Voice Typing ให้ความแม่นยำสม่ำเสมอทั้งขณะออนไลน์และออฟไลน์
เปิดการพิมพ์ด้วยเสียงบน Mac ยังไง?
คุณเปิดการพิมพ์ด้วยเสียงได้ที่ System Settings > Keyboard หรือจะใช้ Speechify Voice Typing ซึ่งมี การพิมพ์ด้วยเสียงด้วย AI, การแปลงข้อความเป็นเสียง และ ผู้ช่วยเสียง AI ที่ถามอะไรก็ได้.
ใช้การพิมพ์ด้วยเสียงบน Mac กับทุกแอปได้ไหม?
การพิมพ์ด้วยเสียงใช้งานได้กับแอปส่วนใหญ่บน Mac ส่วน Speechify Voice Typing รองรับได้ทุกระบบปฏิบัติการและทุกแอป.
การพิมพ์ด้วยเสียงบน Mac รองรับหลายภาษาไหม?
การพิมพ์ด้วยเสียงรองรับหลายภาษา แต่ Speechify Voice Typing ไปได้ไกลกว่า ครอบคลุมกว่า 60 ภาษา และมีเสียงสมจริงกว่า 200 แบบ
การพิมพ์ด้วยเสียงบน Mac เหมาะกับการเขียนยาว ๆ ไหม?
การพิมพ์ด้วยเสียงรับมือชิ้นงานยาว ๆ ได้ และ Speechify Voice Typing ให้ไวยากรณ์เนี้ยบกว่า ผิดพลาดน้อยกว่าเมื่อทำเนื้อหาที่ยาวขึ้น
การพิมพ์ด้วยเสียงบน Mac แม่นยำแค่ไหน?
การพิมพ์ด้วยเสียงถือว่าแม่นยำ แต่ Speechify Voice Typing ให้ความแม่นยำในการถอดเสียงสูงกว่า เพราะมีการกรองด้วย AI ขั้นสูงและช่วยแก้ไวยากรณ์
การพิมพ์ด้วยเสียงบน Mac ลบคำฟิลเลอร์ (filler words) ได้ไหม?
การพิมพ์ด้วยเสียงจะไม่ลบคำฟิลเลอร์ให้อัตโนมัติ แต่ Speechify Voice Typing ช่วยตัด “อืม”, “เอ่อ” และวลีทำนองเดียวกันออกให้
การพิมพ์ด้วยเสียงบน Mac เหมาะกับมืออาชีพหรือไม่?
มืออาชีพจำนวนมากใช้การพิมพ์ด้วยเสียง แต่ Speechify Voice Typing ให้ผลงานที่เนียนกว่า เวลาเขียน อีเมล รายงาน และบันทึกการประชุม

