การพิมพ์ด้วยเสียงของ Google เป็นเครื่องมือ แปลงเสียงเป็นข้อความ และ รับคำสั่งด้วยเสียงแบบ AI ที่ช่วยเปลี่ยนคำพูดให้เป็นข้อความได้ทันที ถูกรวมอยู่ในระบบนิเวศของ Google ออกแบบมาสำหรับคนที่อยากพิมพ์ให้เร็วขึ้น ทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือแก้ข้อจำกัดเรื่องการพิมพ์ ไม่ว่าจะกำลังเขียนอีเมล ร่างเอกสาร หรือจดบันทึก การพิมพ์ด้วยเสียงของ Google ให้ความสะดวกแบบแฮนด์ฟรี ความแม่นยำที่น่าประทับใจ และทำงานร่วมกับแอปของ Google อย่างลื่นไหล เช่น Docs และ Gmail มาดูกันว่ามีอะไรที่ควรรู้บ้าง
การพิมพ์ด้วยเสียงของ Google คืออะไร?
การพิมพ์ด้วยเสียงของ Google เป็น เครื่องมือรับคำสั่งด้วยเสียงแบบ AI ที่มีให้ใช้งานภายใน Google Docs บันทึกผู้บรรยายของ Google Slides และคีย์บอร์ด Gboard บน Android ใช้การประมวลผลเสียงด้วย AI และความเข้าใจภาษาธรรมชาติเพื่อถอดคำพูดของคุณเป็นข้อความด้วยความแม่นยำใกล้เคียงมนุษย์ ระบบจะรับเสียงผ่านไมโครโฟน แล้วอัลกอริทึมของ Google จะแปลงคำพูดเป็นข้อความ พร้อมใส่เครื่องหมายวรรคตอน ขึ้นต้นตัวพิมพ์ใหญ่ และจัดรูปแบบให้อัตโนมัติ รองรับมากกว่า 100 ภาษา ฟีเจอร์นี้เหมาะกับผู้ที่อยากใช้ประโยชน์จาก รับคำสั่งด้วยเสียงแบบ AI เพื่อการสื่อสารที่รวดเร็วและเข้าถึงง่ายขึ้น
วิธีเปิดใช้งานการพิมพ์ด้วยเสียงของ Google โดยตรง
ข้อดีอย่างหนึ่งของฟีเจอร์เสียงจาก Google คือมีติดมาพร้อมกับเครื่องมือ Google Workspace ของคุณอยู่แล้ว นี่คือวิธีเปิดใช้งานและใช้งานบนแพลตฟอร์มต่างๆ
เปิดใช้การพิมพ์ด้วยเสียงใน Google Docs (เดสก์ท็อป)
- เปิดเอกสารของคุณใน Google Docs ด้วย Google Chrome (ฟีเจอร์นี้ใช้ได้เฉพาะใน Chrome)
- ไปที่เมนูด้านบน เลือก Tools > Voice Typing
- ไอคอนไมโครโฟนจะปรากฏ—คลิกเพื่อเริ่มถอดคำ
- พูดตามปกติแล้วดูคำของคุณโผล่มาทันที คุณสามารถออกคำสั่งเครื่องหมายวรรคตอน เช่น “period,” “comma,” หรือ “new paragraph.”
เปิดใช้การพิมพ์ด้วยเสียงบน Android (Gboard)
- เปิดแอปที่มีช่องให้พิมพ์ (Gmail, Notes, Docs ฯลฯ)
- แตะไอคอนไมโครโฟนบนคีย์บอร์ดของคุณ
- พูดให้ชัด ระบบรู้จำเสียงของ Google จะถอดคำพูดของคุณแบบเรียลไทม์
เปิดใช้การพิมพ์ด้วยเสียงบน Chromebook
- ไปที่ Settings > Accessibility > Dictation (พูดเพื่อพิมพ์)
- เปิดใช้งาน Dictation แล้วคลิกไอคอนไมโครโฟนเมื่อคุณต้องการพูดแทนการพิมพ์
ประโยชน์ของการใช้การพิมพ์ด้วยเสียงของ Google
การใช้การพิมพ์ด้วยเสียงของ Google ไม่ได้เป็นแค่วิธีพิมพ์ที่เร็วขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้สื่อสารได้ฉลาดขึ้น ครอบคลุมกว่า และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ข้อดีเด่นๆ มีดังนี้:
- เขียนและแก้ไขได้เร็วขึ้น: พูดเร็วกว่าพิมพ์ถึงสามเท่า ด้วย การถอดเสียงด้วย AI คุณจะร่าง เรียงความ รายงาน และข้อความได้ในพริบตา
- ยกระดับ การเข้าถึง และความครอบคลุม: เครื่องมือถอดเสียงด้วย AI ช่วยให้ผู้ที่มีข้อจำกัดการเคลื่อนไหว ผู้มีภาวะ ดิสเล็กเซีย หรือบกพร่องทางการมองเห็น สร้างข้อความได้ง่าย โดยไม่ต้องพึ่งคีย์บอร์ด
- ลดอาการล้าและการบาดเจ็บ: แทนที่การพิมพ์ด้วยมือด้วย การถอดเสียงด้วย AI ช่วยป้องกันอาการปวดตึงที่ข้อมือ มือ หรือไหล่—เหมาะกับงานเขียนยาว ๆ
- ต่อยอดความคิดสร้างสรรค์และสมาธิ: การพูดออกมาช่วยให้ไอเดียไหลลื่นเป็นธรรมชาติ ผู้ใช้จำนวนมากพบว่า การถอดเสียงด้วย AI ช่วยรักษาโมเมนตัมทางความคิดและลดภาวะตันไอเดียของผู้เขียน
- รองรับหลายภาษา: เทคโนโลยีจดจำเสียงของ Google รองรับมากกว่า 100 ภาษาและสำเนียง ทำให้เป็นหนึ่งในเครื่องมือ การถอดเสียงด้วย AI ที่ยืดหยุ่นที่สุด
- ทำงานลื่นไหลข้ามอุปกรณ์: ตั้งแต่เดสก์ท็อปไปจนถึงสมาร์ทโฟน ฟีเจอร์เสียงของ Google ซิงก์ได้อย่างไร้รอยต่อ ให้คุณเริ่มถอดเสียงได้ทุกที่ที่คุณอยู่
กรณีใช้งานจริงของการพิมพ์ด้วยเสียงของ Google
การพิมพ์ด้วยเสียงของ Google กำลังยกระดับ ประสิทธิภาพการทำงาน ในชีวิตประจำวันของหลากหลายอุตสาหกรรมและอาชีพ มาดูกรณีใช้งานยอดนิยมของการพิมพ์ด้วยเสียงของ Google กัน:
- นักเรียน และครู: นักเรียน ใช้ การถอดเสียงด้วย AI เพื่อจดบันทึก เขียน เรียงความ และทำ สรุปบทเรียน ส่วนครูสามารถทำแผนการสอนและให้ข้อเสนอแนะแบบมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- นักเขียนและผู้สร้างเนื้อหา: นักเขียนและบล็อกเกอร์ถอดเสียงเรื่องราวและร่างงานได้อย่างเป็นธรรมชาติ เปลี่ยนไอเดียให้เป็นตัวหนังสือได้ลื่นไหล โดยไม่เสียโทนหรือจังหวะการเล่า
- มืออาชีพและผู้บริหาร: ผู้ใช้ในธุรกิจพึ่งพาการถอดเสียงด้วย AI เพื่อร่าง อีเมล สรุปการประชุม และทำรายงานแบบแฮนด์ฟรี แม้ในตารางงานแน่น
- นักวิจัยและนักวิชาการ: ใช้การพิมพ์ด้วยเสียงของ Google เพื่อ ถอดเสียง การสัมภาษณ์ บรรยาย และระดมความคิดแบบเรียลไทม์
- ผู้ใช้ด้านการเข้าถึง: ผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกายหรือ การมองเห็นจำกัด ใช้การพิมพ์ด้วยเสียง AI เพื่อคงความเป็นอิสระและสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เคล็ดลับเพื่อให้การถอดเสียงด้วย AI มีความแม่นยำสูงสุด
แม้เทคโนโลยีเสียงของ Google จะล้ำหน้า แต่การปฏิบัติบางอย่างยังช่วยเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพได้
- พูดให้ชัดและเป็นธรรมชาติ: รักษาจังหวะสม่ำเสมอ ออกเสียงให้ชัด เพื่อให้ระบบจดจำได้ดีที่สุด
- ใช้คำสั่งเสียงสำหรับเครื่องหมายวรรคตอน: พูดชื่อเครื่องหมายวรรคตอน (เช่น “คอมมา”, “จุด”, “เครื่องหมายคำถาม”) เพื่อให้ข้อความเป็นระเบียบและอ่านง่าย
- ทำงานในที่เงียบ: เสียงรบกวนรอบข้างรบกวนการจดจำได้ พยายามถอดเสียงในสภาพแวดล้อมที่เงียบเมื่อทำได้
- ทบทวนและแก้ไข: ตรวจทานเอกสารเสมอ เพื่อเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ และปรับรูปแบบหลังถอดเสียง
- เชื่อมต่อออนไลน์เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด: การประมวลผลเสียงด้วย AI ในการพิมพ์ด้วยเสียงของ Google ต้องการการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อความแม่นยำแบบเรียลไทม์
Speechify Voice Typing: ตัวเลือกอันดับ 1 แทนการพิมพ์ด้วยเสียงของ Google
Speechify การพิมพ์ด้วยเสียง (Voice Typing) โดดเด่นในฐานะตัวเลือกอันดับหนึ่งแทน Google Voice Typing มอบประสบการณ์ถอดเสียงที่ล้ำหน้ากว่าสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการทั้งความเร็ว ความแม่นยำ และความยืดหยุ่น ต่างจากเครื่องมือพิมพ์ด้วยเสียงทั่วไป Speechify ช่วยให้คุณพูดได้เป็นธรรมชาติแบบไม่ต้องคอยเว้นจังหวะเพื่อจัดคำ—AI ที่ฉลาดของเรา จะลบคำเติมอย่าง “um” และ “uh” แก้ไวยากรณ์ และส่งมอบข้อความที่สะอาด ดูเป็นมืออาชีพได้ทันที นอกจากการถอดเสียงแล้ว Speechify ยังช่วยยกระดับ ประสิทธิภาพการทำงาน ให้ไกลยิ่งขึ้นด้วย ข้อความเป็นเสียง (text to speech) กว่า 200 เสียง AI แบบมนุษย์ ครอบคลุม กว่า 60 ภาษา พร้อมผู้ช่วย Voice AI ในตัวที่สรุป อธิบาย หรือโต้ตอบกับหน้าเว็บหรือเอกสารใดก็ได้ ไม่ว่าคุณจะกำลังเขียน อีเมล รายงาน หรือคอนเทนต์สร้างสรรค์ Speechify การพิมพ์ด้วยเสียง จะเปลี่ยนเสียงของคุณให้เป็นงานเขียนที่เนี๊ยบ ได้เร็วและง่ายกว่าที่เคย
คำถามที่พบบ่อย
ฉันสามารถใช้ Google Voice Typing ได้ที่ไหนบ้าง?
Google Voice Typing ใช้งานได้ใน Google Docs, Slides และ Gboard แต่ Speechify การพิมพ์ด้วยเสียง ใช้งานได้บนทุกหน้าเว็บ พร้อมความแม่นยำที่เหนือกว่า
ฉันจะเปิดใช้งาน Google Voice Typing ใน Google Docs ได้อย่างไร?
คุณสามารถเปิดใช้งาน Google Voice Typing ได้ผ่านเมนู Tools > Voice Typing หรือดาวน์โหลด Speechify การพิมพ์ด้วยเสียง เพื่อใช้บริการถอดเสียงที่ทำงานได้บนหน้าเว็บใด ๆ โดยไม่ต้องจำกัดแค่ผลิตภัณฑ์ของ Google.
Google Voice Typing ใช้งานบน Android ได้หรือไม่?
ได้ Google Voice Typing ใช้งานบน Android ผ่าน Gboard และ Speechify การพิมพ์ด้วยเสียง ให้ความแม่นยำในการถอดเสียงด้วย AI ที่ดียิ่งขึ้นในแอป Android ต่าง ๆ
ฉันสามารถใช้ Google Voice Typing บน Chromebook ได้ไหม?
คุณสามารถเปิด Google Voice Typing ได้จากการตั้งค่า การช่วยการเข้าถึง (Accessibility) แต่ Speechify การพิมพ์ด้วยเสียง ให้การทำงานที่ลื่นไหลกว่าในแอปบน Chromebook
Google Voice Typing รองรับคำสั่งวรรคตอนหรือไม่?
รองรับ แต่ Speechify การพิมพ์ด้วยเสียง มีระบบใส่วรรคตอนอัตโนมัติ พร้อมแก้ไวยากรณ์และตัดคำเติม เพื่อให้ข้อความถอดเสียงด้วย AI สะอาด ชัดเจน อ่านลื่นกว่าเดิม
Google Voice Typing แม่นยำหรือไม่?
Google Voice Typing มีความแม่นยำสูง แต่ Speechify การพิมพ์ด้วยเสียง ยิ่งแม่นยำขึ้นด้วยการแก้ไวยากรณ์ด้วย AI และการตัดคำเติม
Google Voice Typing เร็วกว่าการพิมพ์หรือไม่?
ใช่ แต่ Speechify การพิมพ์ด้วยเสียง ช่วยให้คุณทำงานได้เร็วกว่าเดิม เพราะให้พูดได้อย่างเป็นธรรมชาติแบบไม่ต้องหยุด พร้อมแก้ไวยากรณ์ให้อัตโนมัติ.
นักเรียนสามารถใช้ Google Voice Typing ทำการบ้านหรืองานโรงเรียนได้หรือไม่?
นักเรียน ได้ประโยชน์จากการพิมพ์ด้วยเสียงของ Google เวลาเขียน เรียงความ และจดบันทึก ทั้งยังมี Speechify Voice Typing ให้ผลลัพธ์ลื่นไหลและเป็นระเบียบยิ่งกว่า
ต้องต่ออินเทอร์เน็ตถึงจะใช้การพิมพ์ด้วยเสียงของ Google ได้ไหม?
ใช่ ฟีเจอร์การพิมพ์ด้วยเสียงของ Google ต้องใช้อินเทอร์เน็ต ส่วน Speechify Voice Typing ให้ความแม่นยำด้วย การถอดเสียงด้วย AI บนคลาวด์ ระดับยอดเยี่ยม
ตัวเลือกที่ดีที่สุดแทนการพิมพ์ด้วยเสียงของ Google คืออะไร?
Speechify Voice Typing คือทางเลือกที่ดีกว่าการพิมพ์ด้วยเสียงของ Google เพราะลบคำฟุ่มเฟือยและแก้ไวยากรณ์ได้ แถมยังมีฟีเจอร์ แปลงข้อความเป็นเสียง และ ผู้ช่วยด้วยเสียง AI

