1. หน้าหลัก
  2. การพิมพ์ด้วยเสียง
  3. วิธีใช้คำสั่งเสียง (Dictate) ใน Microsoft Word

วิธีใช้คำสั่งเสียง (Dictate) ใน Microsoft Word

Cliff Weitzman

Cliff Weitzman

ซีอีโอ/ผู้ก่อตั้ง Speechify

#1 โปรแกรมอ่านข้อความเป็นเสียง
ให้ Speechify อ่านให้คุณฟัง

apple logoรางวัล Apple Design Award 2025
ผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านคน

การใช้คำสั่งเสียงใน Microsoft Word กลายเป็นฟีเจอร์ยอดนิยมอันดับต้น ๆ สำหรับ นักเรียน, มืออาชีพ และทุกคนที่อยากเขียนงานให้เสร็จเร็วขึ้นโดยไม่ต้องพิมพ์เองแบบเดิม ๆ ปัจจุบัน Word รองรับ การพิมพ์ด้วยเสียงที่แม่นยำสูง ช่วยให้คุณร่าง เอกสาร, เขียน อีเมล, จดบันทึก และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้เต็มที่ โดยเฉพาะเวลามือไม่ว่างหรือเมื่อยล้า คู่มือฉบับนี้จะอธิบายวิธีใช้คำสั่งเสียงใน Microsoft Word, ข้อดีของการใช้เสียงพูด และเคล็ดลับสำคัญในการเพิ่มทั้งความแม่นยำและประสิทธิภาพให้ได้สูงสุด

Dictation หรือคำสั่งเสียงใน Microsoft Word คืออะไร?

เครื่องมือคำสั่งเสียงของ Microsoft Word จะเปลี่ยนคำพูดของคุณเป็นข้อความ ทำให้คุณสร้าง เอกสารได้โดยไม่ต้องใช้มือ ด้วยระบบรู้จำเสียงพูดบนคลาวด์ของ Microsoft จึงรองรับภาษาพูดแบบธรรมชาติ ใส่เครื่องหมายวรรคตอนอัตโนมัติ และใช้คำสั่งเสียงได้แบบเรียลไทม์ ไม่ว่าคุณจะเขียนเรียงความหรือร่างรายงาน การพิมพ์ด้วยเสียงช่วยให้ทำงานเร็วขึ้นและลดอาการล้าจากการพิมพ์ได้มาก

ทำไมต้องใช้การพิมพ์ด้วยเสียงใน Microsoft Word?

การใช้คำสั่งเสียงใน Word ไม่ได้แค่สะดวก แต่ยังเปลี่ยนวิธี ทำงานให้มีประสิทธิภาพของคุณไปเลย คุณเพียงพูดตามปกติแล้ว Word จะถอดเสียงลงหน้าเอกสารทันที ข้อดีหลักของ การพิมพ์ด้วยเสียงและการสั่งงานด้วยเสียงใน Microsoft ได้แก่: 

  • เขียนได้เร็วขึ้น: ส่วนใหญ่พูดได้เร็วกว่าพิมพ์มาก ทำให้ การสั่งงานด้วยเสียง AIเหมาะกับเอกสารฉบับยาว.
  • เพิ่มประสิทธิภาพแบบไม่ใช้มือ Productivity: พิมพ์ด้วยเสียง ช่วยให้คุณเขียนขณะ ทำหลายอย่างพร้อมกัน, จดบันทึก หรือพักมือจากการใช้คีย์บอร์ด
  • มีสมาธิและลื่นไหลมากขึ้น: AI voice dictationช่วยให้พูดได้เป็นธรรมชาติ ดึงไอเดียออกมาได้ต่อเนื่องแบบไม่สะดุด
  • การเข้าถึงสำหรับทุกคน: AI dictation เหมาะสำหรับผู้มี ดิสเล็กเซีย, เด็กหรือผู้ที่มีข้อจำกัดการเคลื่อนไหว หรือปวดข้อมือ
  • ใส่วรรคตอนและจัดรูปแบบอัตโนมัติ: Microsoft Word เข้าใจคำสั่ง เช่น “คอมมา”, “ขึ้นบรรทัดใหม่”, “จุด” ทำให้การเขียนของคุณดูเป็นระเบียบสะอาดตา

วิธีใช้คำสั่งเสียงใน Microsoft Word: แนะนำทีละขั้นตอน

การใช้ พิมพ์ด้วยเสียงใน Word นั้นง่ายและใช้ได้ทั้งบน Windows และ macOS แค่มีไมโครโฟนและเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต จากนั้นทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อเริ่มใช้ AI dictation: 

  1. เปิดเอกสารของคุณ: เข้า Microsoft Word แล้วเลือกเอกสารที่ต้องการใช้คำสั่งเสียง
  2. หาปุ่ม Dictate: คลิกเมนู Home แล้วหาปุ่ม Dictate ที่ด้านขวาสุดของแถบเครื่องมือ
  3. เปิดใช้งานไมโครโฟน: คลิก Dictate เพื่อเปิดเครื่องมือและอนุญาตการเข้าถึงไมโครโฟนหากมีการร้องขอ
  4. เริ่มพูด: พูดตามปกติ Word จะเปลี่ยนเสียงของคุณเป็นข้อความแบบเรียลไทม์
  5. ใช้คำสั่งเสียง: ใช้คำสั่งเช่น “คอมมา”, “ขึ้นบรรทัดใหม่”, “ลบนั้น” เพื่อจัดรูปแบบและแก้ไขข้อความแบบไม่ใช้มือ
  6. หยุดการใช้เสียง: คลิกปุ่ม Dictate อีกครั้งเพื่อปิดไมโครโฟนเมื่อเสร็จสิ้น

เคล็ดลับเพิ่มความแม่นยำในการสั่งงานด้วยเสียงใน Word

แม้ว่า การพิมพ์ด้วยเสียงของ Word จะทรงพลังอยู่แล้ว คุณยังเพิ่มความแม่นยำได้อีกด้วยเคล็ดลับเหล่านี้: 

  • ใช้ไมโครโฟนคุณภาพดีเพื่อให้ Word จับเสียงของคุณได้ชัดเจนโดยไม่มีเสียงรบกวน
  • พูดชัด ๆ ในจังหวะเป็นธรรมชาติเพื่อให้ระบบรู้จำได้ต่อเนื่อง
  • ลดเสียงรบกวนรอบข้าง โดยปิดประตูหรือใช้หูฟังตัดเสียงรบกวน
  • ตรวจทานและแก้ไขข้อความหลังสั่งงานด้วยเสียงเพื่อเก็บรายละเอียดข้อผิดพลาดเล็กน้อย
  • ฝึกใช้คำสั่งเสียงเพื่อจัดรูปแบบ เพื่อลดการกลับมาแก้ด้วยมือ

แก้ปัญหาทั่วไปในการพิมพ์ด้วยเสียงใน Microsoft Word 

ถ้า การพิมพ์ด้วยเสียงหรือคำสั่งเสียงใน Word ของคุณไม่ทำงาน ลองทำตามแนวทางแก้ไขเหล่านี้

  • ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เพราะ Word ใช้ระบบประมวลผลเสียงออนไลน์
  • ปิดแล้วเปิด Word ใหม่หากปุ่ม Dictate เป็นสีเทา
  • อัปเดต Microsoft 365 เพราะเวอร์ชันเก่าอาจไม่มีฟีเจอร์ครบ
  • ตรวจสอบว่าได้เลือกไมโครโฟนใน Windows หรือ Mac แล้วในตั้งค่าเสียง
  • เช็กการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวว่าแอปเข้าถึงไมโครโฟนได้

Speechify Voice Typing: เครื่องมือสั่งงานด้วยเสียงที่ดีที่สุดสำหรับ Microsoft Word

Speechify Voice Typing โดดเด่นในฐานะ เครื่องมือสั่งงานด้วยเสียง AIที่ดีที่สุดสำหรับ Microsoft Word เพราะให้มากกว่าแค่ฟีเจอร์ แปลงเสียงเป็นข้อความขั้นพื้นฐาน ด้วยการพิมพ์ด้วยเสียงที่รวดเร็วและแม่นยำ ใส่วรรคตอนอัตโนมัติ ตรวจไวยากรณ์ และกำจัดคำฟุ่มเฟือย Speechify ให้คุณสั่งงานด้วยเสียงได้อย่างเป็นธรรมชาติ ได้เอกสารดูดีแบบมืออาชีพโดยไม่ต้องออกแรงมาก จุดเด่นคืออีโคซิสเต็ม voice-first ที่ครบวงจร: มีระบบ แปลงข้อความเป็นเสียงในตัว เลือกเสียง AI สมจริงกว่า 200 เสียงใน 60+ ภาษาเพื่อฟังงานหรือฟังขณะตรวจแก้ พร้อม ผู้ช่วย Voice AI คอยสรุป อธิบาย หรือดึงประเด็นสำคัญจากเอกสารหรือเว็บได้ทันที รวมทุกอย่างทั้งสั่งงาน ฟัง และ AI ไว้ในที่เดียว ช่วยให้ Microsoft Word กลายเป็นพื้นที่เขียนงานที่ฉลาด เร็ว และใช้งานง่ายกว่าเดิม

คำถามที่พบบ่อย

จะใช้คำสั่งเสียงพิมพ์ข้อความใน Microsoft Word แบบไม่แตะแป้นพิมพ์ได้อย่างไร?

คุณสามารถพูดให้ Microsoft Word พิมพ์ตามได้ด้วย Speechify Voice Typing ช่วยให้เขียนงานได้เร็วและแม่นยำขึ้นโดยแทบไม่ต้องใช้มือ

Dictation ใน Microsoft Word คืออะไรและทำงานอย่างไร?

คำสั่งเสียงของ Microsoft Word จะเปลี่ยนเสียงพูดของคุณเป็นข้อความด้วยเทคโนโลยีรู้จำเสียง ขณะที่ Speechify Voice Typing เสริมด้วยความฉลาดในการเกลาภาษา จัดรูปแบบ และลบคำฟุ่มเฟือยให้อัตโนมัติ

Dictation ของ Word แม่นยำสำหรับเอกสารยาวหรือไม่?

คำสั่งเสียงของ Word แม่นยำเพียงพอสำหรับงานพื้นฐาน แต่ Speechify Voice Typing จะเหมาะกับเอกสาร ยาวมากกว่า เพราะช่วยตรวจไวยากรณ์และลบคำฟุ่มเฟือยให้อัตโนมัติ

ทำไมการพิมพ์ด้วยเสียงถึงเร็วกว่าใน Microsoft Word?

การพิมพ์ด้วยเสียง เร็วกว่าเพราะคนส่วนใหญ่พูดเร็วกว่าพิมพ์มาก และ Speechify Voice Typing จะจับเสียงพูดธรรมชาติของคุณแบบเรียลไทม์

ใช้คำสั่งเสียงใส่วรรคตอนใน Microsoft Word ได้หรือไม่?

ได้ Word รองรับคำสั่งวรรคตอนด้วยเสียง และ Speechify Voice Typing ยังใส่วรรคตอนให้อัตโนมัติโดยที่คุณไม่ต้องสั่งด้วยเสียงเลย

พิมพ์ด้วยเสียงบน Microsoft Word ใช้ได้ทั้ง Windows และ Mac หรือไม่?

ใช่ Microsoft Word รองรับการพิมพ์ด้วยเสียงทั้งบน Windows และ Mac และยังใช้ร่วมกับ Speechify Voice Typing ที่ทำงานได้ข้ามทุกแพลตฟอร์มและเบราว์เซอร์

จะเพิ่มความแม่นยำของการสั่งงานด้วยเสียงใน Microsoft Word ได้อย่างไร?

เพียงพูดให้ชัดเจน และใช้ Speechify Voice Typing ที่ช่วยตรวจไวยากรณ์และจัดรูปแบบให้อัตโนมัติ ความแม่นยำก็เพิ่มขึ้นได้ทันที

มีเครื่องมือสั่งงานด้วยเสียงที่ดีกว่า Microsoft Word หรือไม่?

ผู้ใช้จำนวนมากชอบ Speechify Voice Typing เพราะให้ผลลัพธ์เอกสาร ที่สวยเนี๊ยบกว่าและแทบไม่ต้องกลับมาแก้ไขภายหลัง

ทำอีเมลหรือรายงานใน Word ด้วยการสั่งเสียงได้โดยตรงไหม?

ได้ คุณใช้เสียงพูดพิมพ์เอกสารได้แทบทุกแบบใน Word และ Speechify Voice Typing ก็ช่วยให้ลื่นไหลและทำงานได้เร็วขึ้นอีกขั้น

Speechify ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสั่งงานด้วยเสียงใน Microsoft Word อย่างไร?

Speechify Voice Typing ช่วยอัปเกรด Word ทั้งในด้านความแม่นยำของการแปลงเสียงเป็นข้อความ การตรวจไวยากรณ์ แปลงข้อความเป็นเสียง และยังมี AI ช่วยจัดการงานเขียนให้ครบในที่เดียว

เพลิดเพลินกับเสียง AI ที่ล้ำสมัยที่สุด ไฟล์ไม่จำกัด และการสนับสนุนตลอด 24/7

ทดลองฟรี
tts banner for blog

แชร์บทความนี้

Cliff Weitzman

Cliff Weitzman

ซีอีโอ/ผู้ก่อตั้ง Speechify

คลิฟฟ์ ไวท์ซ์แมน เป็นผู้ขับเคลื่อนสิทธิผู้มีภาวะดิสเล็กเซีย และดำรงตำแหน่งซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Speechify แอปแปลงข้อความเป็นเสียงอันดับ 1 ของโลก ที่กวาดรีวิว 5 ดาวกว่า 100,000 รายการ และเคยครองอันดับ 1 ใน App Store หมวดข่าวสารและนิตยสาร ในปี 2017 ไวท์ซ์แมนติดโผ Forbes 30 Under 30 จากผลงานผลักดันให้โลกออนไลน์เข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับผู้มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ผลงานของคลิฟฟ์ ไวท์ซ์แมนถูกกล่าวถึงในสื่อชั้นนำอย่าง EdSurge, Inc., PC Mag, Entrepreneur, Mashable และอีกมากมาย

speechify logo

เกี่ยวกับ Speechify

#1 โปรแกรมอ่านข้อความเป็นเสียง

Speechify เป็นแพลตฟอร์ม แปลงข้อความเป็นเสียง ชั้นนำของโลกที่มีผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านคน และได้รับรีวิวระดับ 5 ดาวมากกว่า 500,000 รีวิวในแอปพลิเคชัน iOS, Android, Chrome Extension, เว็บแอป และ แอปบน Mac ในปี 2025 Apple ได้มอบรางวัล Apple Design Award อันทรงเกียรติให้กับ Speechify ในงาน WWDC โดยกล่าวว่าเป็น “ทรัพยากรสำคัญที่ช่วยให้ผู้คนใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น” Speechify มีเสียงธรรมชาติกว่า 1,000 เสียงใน 60+ ภาษา และมีผู้ใช้งานในเกือบ 200 ประเทศ เสียงคนดังที่มีให้เลือกใช้งาน เช่น Snoop Dogg, Mr. Beast และ Gwyneth Paltrow สำหรับผู้สร้างสรรค์และธุรกิจ Speechify Studio มีเครื่องมือขั้นสูง เช่น AI Voice Generator, AI Voice Cloning, AI Dubbing และ AI Voice Changer Speechify ยังสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชั้นนำด้วย Text to Speech API ที่มีคุณภาพสูงและคุ้มค่า นอกจากนี้ยังได้รับการนำเสนอใน The Wall Street Journal, CNBC, Forbes, TechCrunch และสื่อชั้นนำอื่น ๆ Speechify เป็นผู้ให้บริการแปลงข้อความเป็นเสียงที่ใหญ่ที่สุดในโลก เยี่ยมชม speechify.com/news, speechify.com/blog และ speechify.com/press เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม