Social Proof

เทคโนโลยีแปลงข้อความเป็นเสียง: สิ่งที่คุณควรรู้

Speechify เป็นโปรแกรมอ่านเสียงอันดับ 1 ของโลก อ่านหนังสือ เอกสาร บทความ PDF อีเมล - ทุกอย่างที่คุณอ่าน - ได้เร็วขึ้น

แนะนำใน

forbes logocbs logotime magazine logonew york times logowall street logo

ฟังบทความนี้ด้วย Speechify!
Speechify

เทคโนโลยีแปลงข้อความเป็นเสียง (TTS) ในช่วงปี 2000 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการที่มนุษย์มีปฏิสัมพันธ์กับเครื่องจักร ช่วงเวลานี้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว...

เทคโนโลยีแปลงข้อความเป็นเสียง (TTS) ในช่วงปี 2000 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการที่มนุษย์มีปฏิสัมพันธ์กับเครื่องจักร ช่วงเวลานี้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วจากเสียงหุ่นยนต์ไปสู่เสียงที่ฟังดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งมีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่อหลายด้านของเทคโนโลยีและสังคม

ช่วงต้นปี 2000: รากฐานของ TTS

ผู้เล่นหลัก: Microsoft, Apple และอื่นๆ

Microsoft Sam และ Windows XP: ความก้าวหน้าในด้านการสังเคราะห์เสียง Microsoft Sam กลายเป็นที่รู้จักในฐานะ TTS ยุคแรก

Apple's VoiceOver: ปฏิวัติการเข้าถึงสำหรับผู้ที่มีความพิการ Apple ได้แนะนำ VoiceOver ซึ่งเป็นโปรแกรมอ่านหน้าจอที่มีความสามารถ TTS

ช่วงกลางปี 2000: การพัฒนาและขยายตัว

การปรับปรุงในด้านภาษาและคุณภาพ

การสนับสนุนหลายภาษา: เทคโนโลยี TTS ขยายไปสู่ภาษาหลักๆ เช่น ฝรั่งเศส สเปน จีน และอื่นๆ

เสียงคุณภาพสูง: การแสวงหาเสียงที่ฟังดูเป็นธรรมชาตินำไปสู่การพัฒนาเสียงที่เหมือนมนุษย์มากขึ้น

การรู้จำและสังเคราะห์เสียง

การผสานรวมกับการรู้จำเสียง: TTS เริ่มผสานรวมกับระบบการรู้จำเสียง เพิ่มประสิทธิภาพการโต้ตอบของผู้ใช้

ช่วงปลายปี 2000: การเพิ่มขึ้นของ AI และการประยุกต์ใช้ที่หลากหลาย

เสียง AI และการสังเคราะห์ขั้นสูง

การเกิดขึ้นของเสียง AI: AI เริ่มมีบทบาทสำคัญในการสร้างเสียงที่สมจริงมากขึ้น

การพัฒนา Speech API: การสร้าง Speech API ช่วยให้การประยุกต์ใช้และการปรับแต่งกว้างขวางขึ้น

การประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน

บทเรียนการศึกษา: บทเรียนในหลายภาษาใช้ TTS เพื่อทำให้การเรียนรู้เข้าถึงได้มากขึ้น

ความบันเทิงและสื่อ: จากพอดแคสต์ถึงอนิเมะ เสียง TTS เริ่มปรากฏในรูปแบบสื่อต่างๆ

การบรรยายและการเข้าถึง: โปรแกรมอ่านหน้าจอและผู้บรรยายกลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับผู้ที่มีความพิการ

ปี 2000 และต่อไป: TTS ในโลกสมัยใหม่

การผสานรวมกับแพลตฟอร์มยอดนิยม

สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต: ด้วยการมาของ iOS และ Android, TTS กลายเป็นสิ่งจำเป็นในเทคโนโลยีมือถือ

อิทธิพลของโซเชียลมีเดีย: แพลตฟอร์มอย่าง TikTok ใช้ TTS ในการสร้างเนื้อหาที่สร้างสรรค์

อนาคตของ TTS

การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง: การเดินทางสู่การเลียนแบบเสียงมนุษย์อย่างสมบูรณ์ยังคงดำเนินต่อไป

การขยายขอบเขต: TTS คาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในเทคโนโลยีและวิธีการสื่อสารในอนาคต

ปี 2000 เป็นยุคที่กำหนดสำหรับเทคโนโลยีแปลงข้อความเป็นเสียง จากเสียงหุ่นยนต์พื้นฐานไปสู่เสียงที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่เป็นธรรมชาติ TTS ได้เปลี่ยนแปลงวิธีที่เรามีปฏิสัมพันธ์กับเทคโนโลยี ทำให้การสื่อสารดิจิทัลเข้าถึงได้และหลากหลายมากขึ้นกว่าเดิม

Speechify แปลงข้อความเป็นเสียง

ค่าใช้จ่าย: ทดลองใช้งานฟรี

Speechify แปลงข้อความเป็นเสียง เป็นเครื่องมือที่ปฏิวัติวิธีที่บุคคลบริโภคเนื้อหาที่เป็นข้อความ ด้วยการใช้เทคโนโลยีแปลงข้อความเป็นเสียงขั้นสูง Speechify แปลงข้อความที่เขียนเป็นคำพูดที่เหมือนจริง ทำให้มีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องในการอ่าน การมองเห็น หรือเพียงแค่ผู้ที่ชอบการเรียนรู้ด้วยการฟัง ความสามารถในการปรับตัวของมันทำให้สามารถผสานรวมได้อย่างราบรื่นกับอุปกรณ์และแพลตฟอร์มที่หลากหลาย มอบความยืดหยุ่นให้กับผู้ใช้ในการฟังขณะเดินทาง

5 คุณสมบัติเด่นของ Speechify TTS:

เสียงคุณภาพสูง: Speechify มีเสียงที่หลากหลายและสมจริงในหลายภาษา เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การฟังที่เป็นธรรมชาติ ทำให้เข้าใจและมีส่วนร่วมกับเนื้อหาได้ง่ายขึ้น

การผสานรวมที่ราบรื่น: Speechify สามารถผสานรวมกับแพลตฟอร์มและอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เว็บเบราว์เซอร์ สมาร์ทโฟน และอื่นๆ ทำให้ผู้ใช้สามารถแปลงข้อความจากเว็บไซต์ อีเมล PDF และแหล่งอื่นๆ เป็นเสียงได้อย่างรวดเร็ว

การควบคุมความเร็ว: ผู้ใช้สามารถปรับความเร็วในการเล่นตามความต้องการ ทำให้สามารถฟังเนื้อหาได้อย่างรวดเร็วหรือเจาะลึกในจังหวะที่ช้าลง

การฟังแบบออฟไลน์: หนึ่งในคุณสมบัติสำคัญของ Speechify คือความสามารถในการบันทึกและฟังข้อความที่แปลงแล้วแบบออฟไลน์ ทำให้สามารถเข้าถึงเนื้อหาได้อย่างต่อเนื่องแม้ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

การเน้นข้อความ: ขณะที่ข้อความถูกอ่านออกเสียง Speechify จะเน้นส่วนที่สอดคล้องกัน ทำให้ผู้ใช้สามารถติดตามเนื้อหาที่ถูกพูดได้อย่างง่ายดาย การรับข้อมูลทั้งทางสายตาและการฟังพร้อมกันนี้สามารถช่วยเพิ่มความเข้าใจและการจดจำสำหรับผู้ใช้หลายคน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเทคโนโลยีแปลงข้อความเป็นเสียง

โปรแกรมแปลงข้อความเป็นเสียงแรกคืออะไร?

ระบบแปลงข้อความเป็นเสียงแรกคือ Voder พัฒนาโดย Homer Dudley ที่ Bell Labs ในปี 1939 เป็นเครื่องสังเคราะห์เสียงที่ทำงานด้วยมือ

ระบบแปลงข้อความเป็นเสียงที่สมจริงที่สุดคืออะไร?

จากข้อมูลล่าสุด ระบบแปลงข้อความเป็นเสียงที่สมจริงที่สุดบางระบบได้แก่ Google's WaveNet และ Amazon's Polly ซึ่งมีเสียงที่ฟังดูเป็นธรรมชาติและความสามารถของเสียง AI

BonziBuddy ใช้ระบบแปลงข้อความเป็นเสียงอะไร?

BonziBuddy ใช้เทคโนโลยี Microsoft Agent กับเสียงแปลงข้อความเป็นเสียง 'Peedy' ซึ่งเป็นตัวละครนกแก้วที่ได้รับความนิยมในระบบ Windows

ระบบแปลงข้อความเป็นเสียงที่ใช้ในมีมคืออะไร?

มีมหลายๆ อันใช้เสียง Daniel UK หรือเสียง Microsoft Sam ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในอินเทอร์เน็ต

โปรแกรมแปลงข้อความเป็นเสียงที่เก่าแก่ที่สุดคืออะไร?

Voder ที่แสดงในปี 1939 ถือเป็นโปรแกรมแปลงข้อความเป็นเสียงที่เก่าแก่ที่สุด

ระบบแปลงข้อความเป็นเสียงแรกคืออะไร?

ระบบแปลงข้อความเป็นเสียงแรกคือ Voder ที่เปิดตัวในงาน World's Fair ปี 1939

ใครสร้างระบบแปลงข้อความเป็นเสียงในปี 2005?

ในปี 2005 มีหลายองค์กรที่พัฒนาเทคโนโลยีแปลงข้อความเป็นเสียง รวมถึงบริษัทใหญ่ๆ อย่าง Microsoft และ Apple ไม่มีผู้สร้างคนเดียวที่สามารถระบุได้ในปีนี้

บทความ "Text to Speech 2000s" ใช้ระบบแปลงข้อความเป็นเสียงอะไร?

บทความ "Text to Speech 2000s" อาจอ้างถึงเทคโนโลยี TTS ต่างๆ จากยุคนั้น รวมถึง Microsoft Sam บน Windows XP และ VoiceOver บนระบบ Apple

ระบบแปลงข้อความเป็นเสียงแรกที่รองรับหลายภาษาคืออะไร?

IBM's MoviTalker ที่พัฒนาในปี 1980s เป็นหนึ่งในระบบแรกที่รองรับหลายภาษา รวมถึงภาษาอังกฤษและสเปน

ระบบแปลงข้อความเป็นเสียงที่ใช้ในภาพยนตร์ "2001: A Space Odyssey" คืออะไร?

เสียงของคอมพิวเตอร์ HAL 9000 ใน "2001: A Space Odyssey" ไม่ใช่ระบบแปลงข้อความเป็นเสียง แต่เป็นการแสดงโดยนักแสดง Douglas Rain ภาพยนตร์นี้เกิดขึ้นก่อนเทคโนโลยี TTS สมัยใหม่

Cliff Weitzman

คลิฟ ไวซ์แมน

คลิฟ ไวซ์แมน เป็นผู้สนับสนุนด้านดิสเล็กเซียและเป็น CEO และผู้ก่อตั้ง Speechify แอปพลิเคชันแปลงข้อความเป็นเสียงอันดับ 1 ของโลก ที่มีรีวิว 5 ดาวมากกว่า 100,000 รีวิว และครองอันดับหนึ่งใน App Store ในหมวดข่าวและนิตยสาร ในปี 2017 ไวซ์แมนได้รับการยกย่องในรายชื่อ Forbes 30 under 30 จากผลงานของเขาในการทำให้อินเทอร์เน็ตเข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องในการเรียนรู้ คลิฟ ไวซ์แมน ได้รับการนำเสนอใน EdSurge, Inc., PC Mag, Entrepreneur, Mashable และสื่อชั้นนำอื่น ๆ