1. หน้าแรก
  2. TTSO
  3. การใช้ TTS ในงานบริการลูกค้า: คู่มือสำหรับธุรกิจ
TTSO

การใช้ TTS ในงานบริการลูกค้า: คู่มือสำหรับธุรกิจ

Cliff Weitzman

คลิฟ ไวซ์แมน

ซีอีโอ/ผู้ก่อตั้ง Speechify

#1 โปรแกรมอ่านข้อความเป็นเสียง
ให้ Speechify อ่านให้คุณฟัง

apple logoรางวัล Apple Design Award 2025
ผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านคน

ความคาดหวังของลูกค้าสูงกว่าที่เคย ผู้บริโภคยุคนี้ต้องการการสนับสนุนที่รวดเร็ว เป็นส่วนตัว และเข้าถึงได้ผ่านหลายช่องทาง ไม่ว่าจะโทรเข้าคอลเซ็นเตอร์ แชทกับผู้ช่วย AI หรือโต้ตอบผ่านแอปมือถือ เพื่อรองรับความต้องการเหล่านี้ ธุรกิจจำนวนมากจึงหันมาใช้ text to speech (TTS) เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การบริการลูกค้าสมัยใหม่.

ด้วยการแปลงข้อความเป็นเสียงที่เป็นธรรมชาติใกล้เคียงเสียงมนุษย์, text to speech ช่วยเชื่อมช่องว่างระหว่างระบบอัตโนมัติกับความเป็นส่วนบุคคล ตั้งแต่ทำคอลเซ็นเตอร์ให้ทำงานอัตโนมัติได้ตลอด 24/7 ไปจนถึงรองรับหลายภาษา, TTS กำลังพลิกโฉมวิธีที่ธุรกิจส่งมอบบริการในสเกลใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

คู่มือนี้จะพาไปสำรวจบทบาทของ TTS ในการบริการลูกค้า กรณีใช้งานจริง แนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการผสานระบบ และวิธีที่บริษัทสามารถนำไปใช้อย่างรับผิดชอบเพื่อยกระดับทั้งประสิทธิภาพและความพึงพอใจของลูกค้า.

เหตุใด Text to Speech จึงสำคัญต่อการบริการลูกค้า

สำหรับธุรกิจแล้ว, text to speech มอบส่วนผสมอันทรงพลังของการขยายสเกล การเข้าถึง และการยกระดับประสบการณ์ลูกค้า:

  • การเข้าถึง: TTS ช่วยให้ลูกค้าที่มีความบกพร่องทางการมองเห็น ดิสเล็กเซีย หรือมีปัญหาในการอ่าน สามารถโต้ตอบกับระบบดิจิทัลและการช่วยเหลืออัตโนมัติได้สะดวกขึ้น.
  • คุ้มค่าเรื่องต้นทุน: ระบบ TTS อัตโนมัติช่วยลดการพึ่งพาทีมเอเจนต์จำนวนมาก ลดต้นทุนการดำเนินงาน พร้อมให้บริการได้ตลอดเวลา.
  • ความสม่ำเสมอ: TTS คงโทนเสียงแบรนด์ให้สม่ำเสมอในทุกจุดสัมผัสกับลูกค้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ตัวแทนมนุษย์อาจทำได้ไม่เสมอไป.
  • รองรับหลายภาษา: ธุรกิจสามารถปรับใช้ TTS ได้หลากหลายภาษา ช่วยขยายการเข้าถึงและความครอบคลุมได้ทันที.
  • การปรับขนาด: TTS รองรับการโต้ตอบพร้อมกันได้เป็นพันรายการ เหมาะสำหรับองค์กรที่มีฐานลูกค้าทั่วโลก.

กรณีการใช้งาน: ธุรกิจใช้ Text to Speech ในการบริการลูกค้าอย่างไร

Text to speech ถูกนำไปใช้หลากหลายรูปแบบในงานสนับสนุนลูกค้า ตัวอย่างทั่วไปได้แก่:

  • Interactive Voice Response (IVR): Text to speech ขับเคลื่อนเมนูและคำตอบอัตโนมัติในคอลเซ็นเตอร์ ช่วยลดเวลารอและพาลูกค้าไปยังช่องทางที่เหมาะสมได้เร็วขึ้น.
  • ผู้ช่วยเสมือนและแชทบอท: เมื่อติดเสียงจาก text to speech ให้กับแชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วย AI ธุรกิจจะสร้างอินเทอร์เฟซสนทนาที่เป็นธรรมชาติและน่าสนใจยิ่งขึ้น.
  • การติดตามหลังการโทร: ระบบ text to speech อัตโนมัติสามารถส่งแบบสำรวจความพึงพอใจแบบส่วนบุคคล เตือนความจำ หรืออัปเดตบัญชีให้ลูกค้าหลังรับบริการ.
  • พอร์ทัลบริการตนเอง: ธนาคาร สถานพยาบาล และบริษัทโทรคมนาคมใช้ text to speech เพื่ออ่านยอดบัญชี รายละเอียดนัดหมาย หรือนโยบายให้ฟัง.
  • สายช่วยเหลือหลายภาษา: ธุรกิจระดับโลกใช้ text to speech เพื่อให้บริการเป็นภาษาท้องถิ่นหลายสิบภาษา โดยไม่ต้องมีทีมแปลขนาดใหญ่.

แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการนำ Text to Speech ไปใช้ในการบริการลูกค้า

เพื่อให้คุ้มค่าสูงสุด ธุรกิจควรปฏิบัติตามแนวทางการนำไปใช้ที่ชัดเจน:

  • ให้ความสำคัญกับคุณภาพเสียง: เลือกเสียงที่ฟังเป็นธรรมชาติ สื่อเอกลักษณ์แบรนด์ และลดความรู้สึกว่า “เหมือนหุ่นยนต์”
  • ออกแบบโดยคำนึงถึง การเข้าถึง: ตรวจให้แน่ใจว่าระบบแปลงข้อความเป็นเสียงปฏิบัติตามมาตรฐาน ADA, Section 508 และ WCAG เพื่อให้บริการได้อย่างครอบคลุม
  • ผสานรวมอย่างราบรื่น: ฝังระบบแปลงข้อความเป็นเสียงเข้าไปใน CRM, IVR และระบบแชทบอตที่มีอยู่ เพื่อยกระดับขั้นตอนการทำงาน
  • เปิดให้ปรับแต่ง: ให้ลูกค้าตั้งค่าความเร็วการเล่น โทนเสียง หรือภาษา เพื่อประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น
  • ปรับสมดุลงานอัตโนมัติกับการส่งต่อปัญหา: ควรมีทางให้ติดต่อเจ้าหน้าที่มนุษย์ได้เสมอสำหรับเคสที่ซับซ้อนหรือละเอียดอ่อน
  • ติดตามผลลัพธ์: วัดความพึงพอใจของลูกค้า อัตราการจบการโทร และการใช้งานระบบแปลงข้อความเป็นเสียงผ่านการวิเคราะห์ เพื่อนำไปปรับปรุงการใช้งาน

วัดความสำเร็จ: วิเคราะห์ TTS สำหรับงานบริการลูกค้า

ผลกระทบของTTSต่อการบริการลูกค้าควรวัดด้วยตัวชี้วัดที่ชัดเจน:

  • เวลาเฉลี่ยต่อการจัดการ (AHT): TTSช่วยให้เวลาจัดการต่อสายสั้นลงหรือยาวขึ้น?
  • ความพึงพอใจของลูกค้า (CSAT): ลูกค้ามองการโต้ตอบอัตโนมัติในแง่บวกเมื่อเทียบกับการคุยกับเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่?
  • อัตราการยอมรับ: ลูกค้ามีส่วนร่วมกับบริการที่ใช้TTSบ่อยแค่ไหน เมื่อเทียบกับช่องทางแบบดั้งเดิม?
  • อัตราข้อผิดพลาด: การออกเสียงเพี้ยนหรือการตอบที่ไม่ถูกต้องสร้างความสับสนหรือไม่?
  • สัดส่วนการส่งต่อ: ลูกค้าต้องย้ายจากTTSไปยังเจ้าหน้าที่มนุษย์บ่อยแค่ไหน?

การวิเคราะห์ช่วยให้องค์กรจูนกระบวนงานTTSเพื่อให้มั่นใจว่าได้ ROI จริง ควบคู่กับการยกระดับคุณภาพการบริการ

อนาคตของการแปลงข้อความเป็นเสียงในการบริการลูกค้า

อนาคตของการแปลงข้อความเป็นเสียงในการบริการลูกค้ากำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็วด้วยนวัตกรรมที่ผลักดันเทคโนโลยีไปอีกขั้น เสียงที่รับรู้อารมณ์ (emotion-aware) ช่วยให้ AI ปรับโทนและสไตล์ตามอารมณ์ของลูกค้า ทำให้บทสนทนาดูเป็นธรรมชาติและมีความเห็นอกเห็นใจมากขึ้น บริษัทต่างๆ ยังสร้างเสียงแบรนด์เฉพาะ—เสียงสังเคราะห์ที่ถ่ายทอดเอกลักษณ์และค่านิยมของแบรนด์ได้ ในอนาคตการแปลงข้อความเป็นเสียงจะกลายเป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานด้านบริการลูกค้า เปลี่ยนวิธีที่ธุรกิจสื่อสารและสร้างความผูกพันกับลูกค้าทั่วโลก

สร้างบริการลูกค้าที่ชาญฉลาดและครอบคลุมมากขึ้นด้วยการแปลงข้อความเป็นเสียง

สำหรับธุรกิจการแปลงข้อความเป็นเสียงคือข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ ด้วยการทำให้การโต้ตอบแบบรูทีนอัตโนมัติ รองรับหลายภาษา และรับรองการเข้าถึงTTSช่วยให้บริษัทตอบสนองความคาดหวังที่สูงขึ้นของลูกค้า ขณะเดียวกันก็ลดต้นทุนการดำเนินงาน การใช้งานที่ประสบความสำเร็จที่สุดจะผสานงานอัตโนมัติเข้ากับความเห็นอกเห็นใจของมนุษย์ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกถูกรับฟังและมีคุณค่าเสมอ ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและการใช้งานอย่างมีจริยธรรมTTSจะยังคงเป็นเสาหลักของนวัตกรรมด้านบริการลูกค้า

เพลิดเพลินกับเสียง AI ที่ล้ำสมัยที่สุด ไฟล์ไม่จำกัด และการสนับสนุนตลอด 24/7

ทดลองฟรี
tts banner for blog

แชร์บทความนี้

Cliff Weitzman

คลิฟ ไวซ์แมน

ซีอีโอ/ผู้ก่อตั้ง Speechify

คลิฟ ไวซ์แมน เป็นผู้สนับสนุนผู้มีภาวะดิสเล็กเซียและซีอีโอผู้ก่อตั้ง Speechify แอปพลิเคชันแปลงข้อความเป็นเสียงอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งได้รับรีวิว 5 ดาวมากกว่า 100,000 ครั้ง และครองอันดับหนึ่งในหมวดข่าวและนิตยสารบน App Store ในปี 2017 ไวซ์แมนได้รับการยกย่องในรายชื่อ Forbes 30 under 30 จากผลงานของเขาที่ทำให้อินเทอร์เน็ตเข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องในการเรียนรู้ คลิฟ ไวซ์แมน ได้รับการนำเสนอในสื่อชั้นนำต่างๆ เช่น EdSurge, Inc., PC Mag, Entrepreneur, Mashable เป็นต้น

speechify logo

เกี่ยวกับ Speechify

#1 โปรแกรมอ่านข้อความเป็นเสียง

Speechify เป็นแพลตฟอร์ม แปลงข้อความเป็นเสียง ชั้นนำของโลกที่มีผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านคน และได้รับรีวิวระดับ 5 ดาวมากกว่า 500,000 รีวิวในแอปพลิเคชัน iOS, Android, Chrome Extension, เว็บแอป และ แอปบน Mac ในปี 2025 Apple ได้มอบรางวัล Apple Design Award อันทรงเกียรติให้กับ Speechify ในงาน WWDC โดยกล่าวว่าเป็น “ทรัพยากรสำคัญที่ช่วยให้ผู้คนใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น” Speechify มีเสียงธรรมชาติกว่า 1,000 เสียงใน 60+ ภาษา และมีผู้ใช้งานในเกือบ 200 ประเทศ เสียงคนดังที่มีให้เลือกใช้งาน เช่น Snoop Dogg, Mr. Beast และ Gwyneth Paltrow สำหรับผู้สร้างสรรค์และธุรกิจ Speechify Studio มีเครื่องมือขั้นสูง เช่น AI Voice Generator, AI Voice Cloning, AI Dubbing และ AI Voice Changer Speechify ยังสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชั้นนำด้วย Text to Speech API ที่มีคุณภาพสูงและคุ้มค่า นอกจากนี้ยังได้รับการนำเสนอใน The Wall Street Journal, CNBC, Forbes, TechCrunch และสื่อชั้นนำอื่น ๆ Speechify เป็นผู้ให้บริการแปลงข้อความเป็นเสียงที่ใหญ่ที่สุดในโลก เยี่ยมชม speechify.com/news, speechify.com/blog และ speechify.com/press เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม