1. หน้าหลัก
  2. การพิมพ์ด้วยเสียง
  3. แอปแปลงเสียงเป็นข้อความ
การพิมพ์ด้วยเสียง

แอปแปลงเสียงเป็นข้อความ

Cliff Weitzman

Cliff Weitzman

ซีอีโอ/ผู้ก่อตั้ง Speechify

#1 โปรแกรมอ่านข้อความเป็นเสียง
ให้ Speechify อ่านให้คุณฟัง

apple logoรางวัล Apple Design Award 2025
ผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านคน

การพิมพ์ทุกอย่างด้วยมืออาจทำให้คุณช้าลง ไม่ว่าคุณจะเป็นนักศึกษาที่จดบันทึกการบรรยาย มืออาชีพที่เขียนรายงาน หรือคนที่ต้องจัดการงานประจำวัน แอปแปลงเสียงเป็นข้อความช่วยยกระดับทั้งการสร้างสรรค์และการสื่อสารของคุณ บทความนี้จะพาคุณไปดูว่าแอปแปลงเสียงเป็นข้อความช่วยคุณประหยัดเวลา ปรับปรุง การเข้าถึง และ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ด้วย การถอดเสียงด้วย AI

แอปแปลงเสียงเป็นข้อความทำงานอย่างไร

แอปแปลงเสียงเป็นข้อความ หรือที่เรียกว่า speech to text ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อเปลี่ยนคำพูดเป็นข้อความ เมื่อคุณพูด แอป การพิมพ์ด้วยเสียง จะบันทึกเสียงของคุณ วิเคราะห์สัญญาณเสียง และแยกเป็นคำที่ระบบจดจำได้ด้วยการประมวลผลภาษาธรรมชาติ การถอดเสียงด้วย AI จากนั้นก็แปลงคำเหล่านั้นเป็นข้อความบนหน้าจอของคุณเกือบจะทันที การพิมพ์ด้วยเสียง ช่วยให้ผู้ใช้เขียนได้โดยไม่ต้องแตะแป้นพิมพ์เลย. 

ประโยชน์ของการใช้แอปแปลงเสียงเป็นข้อความ

แอปแปลงเสียงเป็นข้อความไม่ใช่แค่สะดวก แต่ยังเปลี่ยนวิธีที่เราทำงาน เรียนรู้ และใช้ชีวิต ต่อไปนี้คือข้อดีเด่น ๆ ของ การพิมพ์ด้วยเสียง

กรณีศึกษาในชีวิตจริง

เพื่อให้เห็นภาพผลกระทบจริงของ เทคโนโลยีถอดเสียงด้วย AI ต่อไปนี้คือตัวอย่างจริงหลายกรณีที่แอปแปลงเสียงเป็นข้อความช่วยยกระดับประสิทธิภาพ การเข้าถึง และความสร้างสรรค์ในหลากหลายสาขา 

ยกระดับประสิทธิภาพในระบบสาธารณสุข

ในวงการสุขภาพ เวลาคือทรัพยากรที่มีค่ายิ่ง แพทย์เวชปฏิบัติในชิคาโกบางรายเริ่มใช้แอปแปลงเสียงเป็นข้อความระหว่างตรวจผู้ป่วย เพื่อถอดบันทึกทางการแพทย์แบบเรียลไทม์ แทนจะมาพิมพ์ทีหลังทุกเคส แพทย์พูดคุยตามธรรมชาติพร้อมรักษาการสบตากับผู้ป่วย แอปจะแปลงเสียงเป็นข้อความที่มีโครงสร้างทันที ช่วยลดเวลาเอกสารได้เกือบ 40% ประสิทธิภาพนี้ทำให้แพทย์โฟกัสกับปฏิสัมพันธ์กับผู้ป่วย ความแม่นยำในการวินิจฉัย และคุณภาพการดูแลโดยรวมได้มากขึ้น 

เสริมความสำเร็จทางการศึกษาสำหรับนักเรียนดิสเล็กเซีย

แอปแปลงเสียงเป็นข้อความพลิกเกมสำหรับ นักเรียน ที่มีความแตกต่างทางการเรียนรู้ เช่น ดิสเล็กเซีย ตัวอย่างเช่น นักศึกษาวิทยาลัยคนหนึ่งใช้ แอปถอดเสียงด้วย AI เพื่อร่าง เรียงความ จดโน้ต และโครงงานวิจัยด้วยการพูด แทนที่จะต้องฝืนพิมพ์ เพียงพูดตามธรรมชาติ เธอเหนื่อยน้อยลงและสื่อสารได้ลื่นไหลขึ้น ทั้งการฟังย้อนและการถอดคำแบบเรียลไทม์ไม่เพียงช่วยให้ผลการเรียนดีขึ้น แต่ยังเสริมความมั่นใจในตนเองด้วย 

งานข่าวเคลื่อนที่

ในสภาพแวดล้อมข่าวสาร ทุกวินาทีมีค่า ผู้สื่อข่าวภาคสนามที่รายงานเหตุการณ์สดใช้ แอปแปลงเสียงเป็นข้อความ เพื่อบันทึกการสัมภาษณ์และถอดคำพูดทันที ไม่ว่าจะรายงานจากงานแถลงข่าว การประท้วง หรือการแข่งขันกีฬา เธอสามารถจดโน้ตด้วยเสียงลงโทรศัพท์และพร้อมให้แก้ไขในไม่กี่นาที เวิร์กโฟลว์แบบเรียลไทม์นี้ช่วยย่นเวลาส่งข่าวด่วน ลดการถอดเสียงด้วยมือ และคงความถูกต้องของคำพูดอ้างอิงไว้ 

ยกระดับประสิทธิภาพการทำงานในองค์กร

ผู้บริหารฝ่ายการตลาดที่ใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมงต่อสัปดาห์ ตอนนี้ใช้ แอปแปลงเสียงเป็นข้อความ เพื่อร่าง อีเมล สรุปแคมเปญ และบันทึกการประชุมระหว่างเดินทาง การใช้งานแบบแฮนด์ฟรีของแอปทำให้เขายังทำงานได้ในสภาพแวดล้อมที่การพิมพ์ไม่ปลอดภัยหรือไม่สะดวก ด้วยการถอดข้อความและซิงค์ข้ามอุปกรณ์ เขาจัดการงานได้มีประสิทธิภาพขึ้น และกลับเข้าออฟฟิศพร้อม เอกสาร ที่พร้อมส่ง ผลลัพธ์คือเวิร์กโฟลว์ที่ลื่นไหล การบริหารเวลาได้ดีขึ้น และ ประสิทธิภาพ โดยรวมที่สูงขึ้น

ปลดล็อกอิสรภาพในการเขียนเชิงสร้างสรรค์

สำหรับนักเขียนและศิลปิน แรงบันดาลใจไม่ได้มาเฉพาะตอนนั่งโต๊ะ ผู้แต่งที่กำลังร่างนวนิยายใหม่ใช้แอปแปลงเสียงเป็นข้อความเพื่อถอดฉาก บทสนทนาตัวละคร และบันทึกแนวเรื่องทันทีที่ไอเดียผุดขึ้น—ไม่ว่าจะระหว่างเดินหรือดึกดื่น การพูดอย่างอิสระช่วยให้เธอจับโทนอารมณ์และจังหวะที่อาจสูญหายหากต้องพิมพ์ เธอบอกว่าแอปทำให้ประสบการณ์การเขียนรู้สึกเป็นอิสระ และช่วยให้แรงส่งทางความคิดสร้างสรรค์ไหลลื่นต่อเนื่อง 

คุณสมบัติที่ควรมองหาในแอปแปลงเสียงเป็นข้อความที่ดีที่สุด

เมื่อจะเลือกแอปที่ไว้ใจได้ มีคุณสมบัติบางอย่างที่ช่วยการันตีความแม่นยำ ความง่ายในการใช้งาน และการปรับให้เข้ากับเวิร์กโฟลว์ของคุณ ต่อไปนี้คือคุณสมบัติสำคัญที่ควรมองหาในแอปแปลงเสียงเป็นข้อความ:

  • อัตราความแม่นยำสูง: แอปเปลี่ยนเสียงเป็นข้อความที่ดีที่สุดใช้การถอดเสียงด้วย AI เพื่อจดจำสำเนียง โทนเสียง และรูปแบบการพูดที่หลากหลาย ให้ผลลัพธ์การถอดความที่แม่นยำ 
  • การถอดความแบบเรียลไทม์: สร้างข้อความได้ทันทีระหว่างพูด ช่วยให้การจดด้วยเสียงเร็วขึ้นและได้ฟีดแบ็กทันใจ เหมาะมากสำหรับการประชุม ห้องเรียน หรือการสัมภาษณ์
  • รองรับหลายภาษา: มองหาแอปเปลี่ยนเสียงเป็นข้อความที่รองรับได้ทั้งหลายภาษาและหลายสำเนียง โดยเฉพาะหากคุณใช้หลายภาษา 
  • ใช้งานได้แบบออฟไลน์: แอปเปลี่ยนเสียงเป็นข้อความที่ดีควรทำงานได้แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต ให้คุณบันทึกด้วยเสียงระหว่างเดินทางโดยไม่ต้องห่วงเรื่อง Wi‑Fi หรือสัญญาณข้อมูล
  • สั่งงานด้วยเสียง: เลือกแอปที่เข้าใจคำสั่งเสียงอย่าง “ขึ้นบรรทัดใหม่,” “คอมมา,” หรือ “ลบอันนั้น” เพื่อให้ขั้นตอนการพิมพ์ลื่นไหลขึ้น
  • ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล: เพราะการบันทึกเสียงอาจมีข้อมูลอ่อนไหว ควรเลือกแอปที่มีการเข้ารหัสแข็งแกร่งและนโยบายความเป็นส่วนตัวชัดเจน

ยกระดับการสื่อสารด้วยการแปลงเสียงเป็นข้อความ

แอปเปลี่ยนเสียงเป็นข้อความช่วยเชื่อมช่องว่างระหว่างการสื่อสารของมนุษย์กับประสิทธิภาพแบบดิจิทัล ทำให้การสื่อสารเป็นธรรมชาติ เข้าถึงง่าย และได้ผลยิ่งขึ้นในทุกมิติของชีวิต ไม่ว่าคุณจะเป็นมืออาชีพที่อยากเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน หรือนักเรียนที่อยากปรับนิสัยการเรียน การใช้แอปเปลี่ยนเสียงเป็นข้อความหรือการแปลงเสียงเป็นข้อความ สามารถพลิกวิธีที่คุณจับไอเดียและส่งต่อสู่โลกได้อย่างมาก

Speechify: แอปเปลี่ยนเสียงเป็นข้อความที่ควรมีติดเครื่อง

Speechify เป็นแพลตฟอร์มเสียง AI ครบวงจรชั้นนำ โดยฟีเจอร์แปลงเสียงเป็นข้อความของแพลตฟอร์มนี้ตั้งมาตรฐานเรื่องความแม่นยำและใช้งานง่าย ด้วยฟีเจอร์แปลงเสียงเป็นข้อความของ Speechify คุณสามารถพูดแล้วให้ระบบถอดเป็นข้อความ ทำให้คุณร่างเอกสาร ส่งข้อความ หรือจดบันทึกได้โดยไม่ต้องขยับนิ้ว นอกจากการถอดความแล้ว Speechify ยังมีระบบแปลงข้อความเป็นเสียง ให้คุณฟังหน้าเว็บ PDF หรือเอกสารใด ๆ ด้วยความเร็วสูงสุด 4.5x พร้อมกว่า 200เสียง AI เสมือนจริง ครอบคลุมมากกว่า 60 ภาษา ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยผู้ช่วยเสียง AI คุณสามารถโต้ตอบกับหน้าเว็บโดยตรงเพื่อถามคำถาม รับคำตอบทันที หรือขอสรุป อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเรียน มืออาชีพ หรือครีเอทีฟ แอปเปลี่ยนเสียงเป็นข้อความ ของ Speechify ช่วยให้คุณทำงานได้เร็วขึ้น ฉลาดขึ้น และแบบแฮนด์ฟรี

คำถามที่พบบ่อย

แอปเปลี่ยนเสียงเป็นข้อความคืออะไร?

แอปเปลี่ยนเสียงเป็นข้อความจะแปลงคำพูดของคุณเป็นข้อความแบบเรียลไทม์โดยใช้การถอดเสียงด้วย AI เช่น Speechify Voice Typing.

แอปเปลี่ยนเสียงเป็นข้อความทำงานอย่างไร?

แอปเหล่านี้ เช่น Speechify Voice Typing จะบันทึกเสียงของคุณ วิเคราะห์รูปแบบการพูดด้วย AI แล้วแสดงผลการถอดความที่แม่นยำบนหน้าจอทันที

แอปเปลี่ยนเสียงเป็นข้อความแม่นยำหรือไม่?

ใช่ แอปอย่าง Speechify ให้ความแม่นยำยอดเยี่ยม โดยใช้ AI ประสิทธิภาพสูงที่ได้รับการฝึกให้จดจำสำเนียง โทนเสียง และเครื่องหมายวรรคตอน

ฉันสามารถใช้แอปเปลี่ยนเสียงเป็นข้อความสำหรับอีเมลและรายงานได้ไหม?

ได้แน่นอน แอปอย่าง Speechify Voice Typing ช่วยให้คุณบอกเล่าแล้วถอดความเป็นอีเมล บันทึกย่อ และเอกสาร ทั้งฉบับได้แบบแฮนด์ฟรี

การเปลี่ยนเสียงเป็นข้อความเร็วกว่าการพิมพ์แค่ไหน?

การแปลงเสียงเป็นข้อความ เช่น Speechify Voice Typing อาจเร็วกว่าการพิมพ์ถึงสามเท่า ช่วยให้งานเขียนเสร็จไวขึ้นแบบเห็นได้ชัด

แอปแปลงเสียงเป็นข้อความช่วยผู้ที่มีภาวะดิสเล็กเซียหรือ ADHD ได้ไหม?

ใช่ แอปแปลงเสียงเป็นข้อความ เช่น Speechify Voice Typing ช่วยให้การอ่านเขียนง่ายขึ้นสำหรับผู้ที่มี ดิสเล็กเซีย หรือ ADHD โดยให้ผู้ใช้พูดแทนการพิมพ์ และฟังข้อความของตัวเองแบบอ่านออกเสียง

แอปแปลงเสียงเป็นข้อความมีประโยชน์สำหรับมืออาชีพหรือไม่?

ใช่ แอปแปลงเสียงเป็นข้อความอย่าง Speechify ช่วยให้มืออาชีพถอดเสียงการประชุม พูดบันทึกรายงาน และจดไอเดียได้อย่างมีประสิทธิภาพในขณะที่ ทำงานหลายอย่างพร้อมกัน.

นักเรียนสามารถใช้แอปแปลงเสียงเป็นข้อความในการเรียนได้ไหม?

แน่นอน Speechify Voice Typing ช่วยให้ นักเรียน จดบันทึก เขียน เรียงความ และเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วยการสั่งงานด้วยเสียง

ฉันสามารถใช้ Speechify Voice Typing ขณะทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้ไหม?

ใช่ Speechify Voice Typing ให้คุณพิมพ์หรือจดบันทึกขณะทำงานอื่นๆ ได้แบบแฮนด์ฟรีเต็มรูปแบบ

ฉันจะเริ่มใช้ฟีเจอร์แปลงเสียงเป็นข้อความของ Speechify ได้อย่างไร?

ในการใช้ฟีเจอร์ แปลงเสียงเป็นข้อความ ของ Speechify ที่เรียกว่า Voice Typing ให้ติดตั้ง Chrome Extension ของ Speechify แอป iOS หรือแอป Android ของ Speechify จากนั้นคลิกไอคอนรูปไมโครโฟน อนุญาตการเข้าถึง แล้วเริ่มพูดตามปกติ


เพลิดเพลินกับเสียง AI ที่ล้ำสมัยที่สุด ไฟล์ไม่จำกัด และการสนับสนุนตลอด 24/7

ทดลองฟรี
tts banner for blog

แชร์บทความนี้

Cliff Weitzman

Cliff Weitzman

ซีอีโอ/ผู้ก่อตั้ง Speechify

คลิฟฟ์ ไวท์ซ์แมน เป็นผู้ขับเคลื่อนสิทธิผู้มีภาวะดิสเล็กเซีย และดำรงตำแหน่งซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Speechify แอปแปลงข้อความเป็นเสียงอันดับ 1 ของโลก ที่กวาดรีวิว 5 ดาวกว่า 100,000 รายการ และเคยครองอันดับ 1 ใน App Store หมวดข่าวสารและนิตยสาร ในปี 2017 ไวท์ซ์แมนติดโผ Forbes 30 Under 30 จากผลงานผลักดันให้โลกออนไลน์เข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับผู้มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ผลงานของคลิฟฟ์ ไวท์ซ์แมนถูกกล่าวถึงในสื่อชั้นนำอย่าง EdSurge, Inc., PC Mag, Entrepreneur, Mashable และอีกมากมาย

speechify logo

เกี่ยวกับ Speechify

#1 โปรแกรมอ่านข้อความเป็นเสียง

Speechify เป็นแพลตฟอร์ม แปลงข้อความเป็นเสียง ชั้นนำของโลกที่มีผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านคน และได้รับรีวิวระดับ 5 ดาวมากกว่า 500,000 รีวิวในแอปพลิเคชัน iOS, Android, Chrome Extension, เว็บแอป และ แอปบน Mac ในปี 2025 Apple ได้มอบรางวัล Apple Design Award อันทรงเกียรติให้กับ Speechify ในงาน WWDC โดยกล่าวว่าเป็น “ทรัพยากรสำคัญที่ช่วยให้ผู้คนใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น” Speechify มีเสียงธรรมชาติกว่า 1,000 เสียงใน 60+ ภาษา และมีผู้ใช้งานในเกือบ 200 ประเทศ เสียงคนดังที่มีให้เลือกใช้งาน เช่น Snoop Dogg, Mr. Beast และ Gwyneth Paltrow สำหรับผู้สร้างสรรค์และธุรกิจ Speechify Studio มีเครื่องมือขั้นสูง เช่น AI Voice Generator, AI Voice Cloning, AI Dubbing และ AI Voice Changer Speechify ยังสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชั้นนำด้วย Text to Speech API ที่มีคุณภาพสูงและคุ้มค่า นอกจากนี้ยังได้รับการนำเสนอใน The Wall Street Journal, CNBC, Forbes, TechCrunch และสื่อชั้นนำอื่น ๆ Speechify เป็นผู้ให้บริการแปลงข้อความเป็นเสียงที่ใหญ่ที่สุดในโลก เยี่ยมชม speechify.com/news, speechify.com/blog และ speechify.com/press เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม