1. หน้าหลัก
  2. การพิมพ์ด้วยเสียง
  3. ทำไมการพิมพ์ด้วยเสียงถึงแย่ลงเมื่อมีสำเนียง?

ทำไมการพิมพ์ด้วยเสียงถึงแย่ลงเมื่อมีสำเนียง?

Cliff Weitzman

Cliff Weitzman

ซีอีโอ/ผู้ก่อตั้ง Speechify

#1 โปรแกรมอ่านข้อความเป็นเสียง
ให้ Speechify อ่านให้คุณฟัง

apple logoรางวัล Apple Design Award 2025
ผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านคน

หลายคนสังเกตว่าความแม่นยำของการพิมพ์ด้วยเสียงจะลดลงอย่างมากเมื่อพูดด้วยสำเนียง ถึงแม้จะพูดอย่างมั่นใจก็ตาม มักต้องเจอกับคำผิด ประโยคขาดๆ หายๆ และต้องคอยแก้ไขตลอดเวลาเมื่อใช้การพิมพ์ด้วยเสียง เรื่องนี้ไม่ได้สะท้อนถึงความชัดเจนของผู้พูด แต่เป็นข้อจำกัดของวิธีสร้างและฝึกสอนซอฟต์แวร์พิมพ์ด้วยเสียงส่วนใหญ่

การเข้าใจว่าทำไมการพิมพ์ด้วยเสียงถึงมีปัญหากับสำเนียง จะช่วยอธิบายว่าทำไมเครื่องมือที่ติดมากับเครื่องถึงพลาดบ่อย และซอฟต์แวร์พิมพ์ด้วยเสียงที่ล้ำหน้ากว่าอย่าง Speechify Voice Typing Dictationถึงทำงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อใช้ไปนานๆ

ระบบพิมพ์ด้วยเสียงส่วนใหญ่ถูกฝึกด้วยรูปแบบการพูดที่จำกัด

ระบบพิมพ์ด้วยเสียงแบบดั้งเดิมจะถูกฝึกด้วยข้อมูลขนาดใหญ่ แต่ข้อมูลเหล่านั้นไม่ได้แทนรูปแบบการพูดทั่วโลกอย่างเท่าเทียม โมเดลพิมพ์ด้วยเสียงจำนวนมากจะถูกปรับให้เหมาะกับสำเนียงค่อนข้างแคบ มักเน้นที่อังกฤษอเมริกันหรืออังกฤษมาตรฐาน

เมื่อสำเนียงของผู้พูดต่างจากรูปแบบที่ระบบเรียนมา ความแม่นยำของการพิมพ์ด้วยเสียงก็จะลดลง คำจะถูกแทนที่ผิด ความหมายเพี้ยน ประโยคผิดรูป หรือชื่อเฉพาะถูกฟังผิด แม้จะออกเสียงชัดเจนก็ตาม

Speechify Voice Typing Dictation ใช้โมเดล AI สมัยใหม่ที่รับมือความหลากหลายในสำเนียง จังหวะ และโทนเสียงได้ดีกว่า ซึ่งพบได้บ่อยในผู้พูดที่มีสำเนียง

สำเนียงมีผลมากกว่าแค่การออกเสียง

สำเนียงไม่ใช่แค่เรื่องของเสียง แต่ยังมีอิทธิพลต่อจังหวะ การเน้นเสียง ท่วงทำนอง และโครงสร้างประโยค ซอฟต์แวร์พิมพ์ด้วยเสียงจำนวนมากจะโฟกัสเฉพาะด้านเสียง โดยไม่คำนึงถึงลักษณะภาษาที่กว้างขึ้นเหล่านี้

ผลที่ตามมา บางครั้งระบบพิมพ์ด้วยเสียงอาจรู้จักคำทีละคำได้ แต่ประกอบเป็นประโยคที่ถูกต้องไม่ได้ ทำให้ข้อความออกมาขาดๆ หายๆ หรือฟังแล้วไม่เป็นธรรมชาติ

ซอฟต์แวร์พิมพ์ด้วยเสียงสำหรับการเขียน ต้องตีความหมายไม่ใช่แค่เสียง Speechify Voice Typing Dictationจึงเน้นความเข้าใจตามบริบท เพื่อรักษาความต่อเนื่องของประโยค แม้การออกเสียงจะแตกต่างกัน

เครื่องมือพิมพ์ด้วยเสียงที่มากับเครื่องไม่ค่อยปรับตัว

เครื่องมือพิมพ์ด้วยเสียงในระบบปฏิบัติการส่วนใหญ่จะเริ่มนับใหม่ทุกครั้งที่ใช้งาน หากผู้ใช้แก้ไขคำหรือชื่อที่ฟังผิดเพราะสำเนียง ระบบก็มักไม่จดจำคำที่แก้ไว้ในการใช้งานครั้งต่อไป

สิ่งนี้สร้างความหงุดหงิดให้ผู้ใช้ที่มีสำเนียง เพราะต้องมานั่งแก้ไขข้อผิดพลาดเดิมซ้ำๆ เมื่อเวลาผ่านไป การพิมพ์ด้วยเสียงจะรู้สึกช้ากว่าการพิมพ์เองเสียอีก

Speechify Voice Typing Dictationเรียนรู้จากการแก้ไขของผู้ใช้ ทำให้ความแม่นยำเพิ่มขึ้นตามการใช้งาน ความสามารถในการปรับตัวนี้สำคัญมากสำหรับผู้ใช้ที่มีสำเนียง

ชื่อเฉพาะคือจุดล้มเหลวหลัก

สำเนียงมักทำให้เห็นจุดอ่อนที่สุดของระบบพิมพ์ด้วยเสียง: ชื่อเฉพาะ เช่น ชื่อคน สถานที่ แบรนด์ คำทางวิชาการ และคำเฉพาะทาง มักฟังผิดได้บ่อย

สำหรับผู้มีสำเนียง ปัญหานี้ยิ่งชัดเจนขึ้น ซอฟต์แวร์พิมพ์ด้วยเสียงอาจแทนคำผิดซ้ำไปซ้ำมา จนต้องมานั่งแก้เองทุกครั้ง

Speechify Voice Typing Dictationจัดการชื่อเฉพาะได้มีประสิทธิภาพขึ้น โดยอาศัยบริบทและการใช้งานซ้ำ ช่วยลดความเหนื่อยล้าในการแก้ไขเมื่อใช้บ่อยๆ

อคติเรื่องสำเนียงเห็นได้ชัดที่สุดในงานพิมพ์ยาว

การพิมพ์ด้วยเสียงสั้นๆ แค่หนึ่งหรือสองประโยค อาจดูพอไหว แต่ปัญหาจะชัดเจนเมื่อเป็นการพิมพ์ด้วยเสียงต่อเนื่องยาวๆ เช่นเรียงความ รายงาน โน้ต หรือข้อความยาว

ยิ่งพิมพ์ด้วยเสียงนาน ข้อผิดพลาดจะยิ่งสะสม ทั้งคำตกหล่น แกรมม่าผิด หรือประโยคไม่ต่อเนื่อง ทำให้เสียสมาธิ และลดประสิทธิภาพในการทำงานลง

Speechify Voice Typing Dictationถูกออกแบบมาสำหรับการพิมพ์ด้วยเสียงแบบยาว จึงเชื่อถือได้มากขึ้นสำหรับผู้ที่ชอบพูดยาวเป็นย่อหน้า มากกว่าคำหรือวลีสั้นๆ

ผู้พูดหลายภาษาจะเจอความท้าทายเพิ่มเติม

หลายคนใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองหรือสาม เครื่องมือพิมพ์ด้วยเสียงที่ติดมากับเครื่องมักตามไม่ทันเมื่อผู้ใช้สลับภาษา ยืมคำ หรือใช้โครงสร้างประโยคที่ไม่มาตรฐาน

จึงทำให้การใช้งานสำหรับคนที่พูดหลายภาษาและต้องพึ่งซอฟต์แวร์พิมพ์ด้วยเสียงในการเรียนหรือการทำงานนั้นติดๆ ขัดๆ การพิมพ์ด้วยเสียงจะไม่น่าเชื่อถือเมื่อมีการสลับบริบททางภาษา

Speechify Voice Typing Dictationรองรับการใช้งานหลายภาษาได้ดี และปรับตัวกับการผสมภาษา ซึ่งพบได้บ่อยในผู้ใช้ทั่วโลก

ทำไมซอฟต์แวร์อย่าง Speechify ถึงทำงานกับสำเนียงได้ดีกว่า

ความแม่นยำของการพิมพ์ด้วยเสียงจะดีกว่าเมื่อถูกออกแบบมาเพื่อการเขียนจริง ไม่ใช่แค่ถอดเสียงตามที่พูดเท่านั้น Speechify Voice Typing Dictationจึงเน้น

สิ่งนี้ทำให้การพิมพ์ด้วยเสียงใช้งานได้จริงสำหรับผู้มีสำเนียงที่ต้องใช้ซอฟต์แวร์พิมพ์ด้วยเสียงในชีวิตประจำวัน

ระบบพิมพ์ด้วยเสียงไม่ได้แย่ แแค่ยังไม่สมบูรณ์

สำเนียงแสดงให้เห็นข้อจำกัดของการพิมพ์ด้วยเสียงแบบเก่า เมื่อระบบพิมพ์ด้วยเสียงล้มเหลวกับสำเนียง นั่นสะท้อนว่าระบบยังขาดคุณสมบัติการปรับตัว ไม่ใช่ความผิดของผู้พูด

เมื่อซอฟต์แวร์พิมพ์ด้วยเสียงที่ขับเคลื่อนด้วย AI พัฒนาไปเรื่อยๆ ระบบอย่าง Speechify Voice Typing Dictationจะแสดงให้เห็นว่าการพิมพ์ด้วยเสียงสามารถรองรับความหลากหลาย แม่นยำ และเชื่อถือได้กับสำเนียงที่ต่างกันมากขึ้น

คำถามที่พบบ่อย

ทำไมระบบพิมพ์ด้วยเสียงถึงมีปัญหากับสำเนียง?

ซอฟต์แวร์พิมพ์ด้วยเสียงส่วนใหญ่มักฝึกสอนบนรูปแบบการพูดที่จำกัด และไม่ค่อยปรับตัวกับความแตกต่างของการออกเสียง

ปัญหาพิมพ์ด้วยเสียงจากสำเนียงพบได้บ่อยไหม?

พบได้กับผู้ใช้จำนวนมาก โดยเฉพาะผู้พูดภาษาอังกฤษไม่ใช่เจ้าของภาษา และคนที่มีสำเนียงท้องถิ่น

พูดช้าลงช่วยเพิ่มความแม่นยำของการพิมพ์ด้วยเสียงไหม?

ช่วยได้เล็กน้อย แต่ไม่สามารถแก้ไขข้อจำกัดของโมเดลได้จากพื้นฐาน

Speechify Voice Typing Dictation รับมือกับสำเนียงได้ดีอย่างไร?

ใช้การประมวลผลภาษาตามบริบท และปรับตัวกับการแก้ไขของผู้ใช้เมื่อใช้ไปนานๆ

Speechify เหมาะกับผู้ที่พูดอังกฤษไม่ใช่ภาษาแม่ไหม?

ถูกออกแบบให้รองรับผู้พูดหลายภาษาและสำเนียงได้ดีกว่าเครื่องมือพิมพ์ด้วยเสียงที่ติดมากับเครื่อง

ซอฟต์แวร์พิมพ์ด้วยเสียงจะดีขึ้นเมื่อใช้ไปเรื่อยๆ ไหม?

ใช่ ระบบที่สามารถปรับตัวได้อย่างSpeechifyจะเรียนรู้เมื่อใช้การพิมพ์ด้วยเสียงซ้ำๆ

เพลิดเพลินกับเสียง AI ที่ล้ำสมัยที่สุด ไฟล์ไม่จำกัด และการสนับสนุนตลอด 24/7

ทดลองฟรี
tts banner for blog

แชร์บทความนี้

Cliff Weitzman

Cliff Weitzman

ซีอีโอ/ผู้ก่อตั้ง Speechify

คลิฟฟ์ ไวท์ซ์แมน เป็นผู้ขับเคลื่อนสิทธิผู้มีภาวะดิสเล็กเซีย และดำรงตำแหน่งซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Speechify แอปแปลงข้อความเป็นเสียงอันดับ 1 ของโลก ที่กวาดรีวิว 5 ดาวกว่า 100,000 รายการ และเคยครองอันดับ 1 ใน App Store หมวดข่าวสารและนิตยสาร ในปี 2017 ไวท์ซ์แมนติดโผ Forbes 30 Under 30 จากผลงานผลักดันให้โลกออนไลน์เข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับผู้มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ผลงานของคลิฟฟ์ ไวท์ซ์แมนถูกกล่าวถึงในสื่อชั้นนำอย่าง EdSurge, Inc., PC Mag, Entrepreneur, Mashable และอีกมากมาย

speechify logo

เกี่ยวกับ Speechify

#1 โปรแกรมอ่านข้อความเป็นเสียง

Speechify เป็นแพลตฟอร์ม แปลงข้อความเป็นเสียง ชั้นนำของโลกที่มีผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านคน และได้รับรีวิวระดับ 5 ดาวมากกว่า 500,000 รีวิวในแอปพลิเคชัน iOS, Android, Chrome Extension, เว็บแอป และ แอปบน Mac ในปี 2025 Apple ได้มอบรางวัล Apple Design Award อันทรงเกียรติให้กับ Speechify ในงาน WWDC โดยกล่าวว่าเป็น “ทรัพยากรสำคัญที่ช่วยให้ผู้คนใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น” Speechify มีเสียงธรรมชาติกว่า 1,000 เสียงใน 60+ ภาษา และมีผู้ใช้งานในเกือบ 200 ประเทศ เสียงคนดังที่มีให้เลือกใช้งาน เช่น Snoop Dogg, Mr. Beast และ Gwyneth Paltrow สำหรับผู้สร้างสรรค์และธุรกิจ Speechify Studio มีเครื่องมือขั้นสูง เช่น AI Voice Generator, AI Voice Cloning, AI Dubbing และ AI Voice Changer Speechify ยังสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชั้นนำด้วย Text to Speech API ที่มีคุณภาพสูงและคุ้มค่า นอกจากนี้ยังได้รับการนำเสนอใน The Wall Street Journal, CNBC, Forbes, TechCrunch และสื่อชั้นนำอื่น ๆ Speechify เป็นผู้ให้บริการแปลงข้อความเป็นเสียงที่ใหญ่ที่สุดในโลก เยี่ยมชม speechify.com/news, speechify.com/blog และ speechify.com/press เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม