1. หน้าแรก
  2. สมาธิสั้น (ADHD)
  3. แอปสำหรับผู้มี ADHD
สมาธิสั้น (ADHD)

แอปสำหรับผู้มี ADHD

Cliff Weitzman

Cliff Weitzman

ซีอีโอ/ผู้ก่อตั้ง Speechify

#1 โปรแกรมอ่านข้อความเป็นเสียง
ให้ Speechify อ่านให้คุณฟัง

apple logoรางวัล Apple Design Award 2025
ผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านคน

แอปที่ใช่ช่วยเปลี่ยนความวุ่นวายให้เป็นระบบ ทำให้การโฟกัส วางแผน และจัดการงานประจำวันง่ายขึ้นสำหรับ ผู้ที่มี ADHD ในคู่มือนี้ เราจะพาไปดูแอปเทคโนโลยีสำหรับ ADHD ยอดนิยมที่ช่วยเพิ่มสมาธิ เพิ่ม ประสิทธิผล และทำให้ชีวิตจัดการง่ายขึ้นอีกนิด

Speechify 

Speechify ช่วยให้ผู้ที่มี ADHD เปลี่ยนบล็อกข้อความดิจิทัลหรือข้อความเขียนจำนวนมากให้เป็นเสียงที่ฟังเพลิน แอปอ่านข้อความใด ๆ ออกเสียงด้วย เสียง AI ที่เป็นธรรมชาติ ฟังแล้วเหมือนมนุษย์ ช่วยลดความล้าในการอ่านและช่วยโฟกัส นอกจากนี้ยังไฮไลต์ตามคำอ่านแบบเรียลไทม์เพื่อให้สายตาไม่หลุด แม้เมื่อความคิดล่องลอย ด้วยการควบคุมความเร็วที่ปรับได้ ผู้ฟังสามารถปรับสปีดให้เข้ากับจังหวะของตัวเอง ทำให้การอ่านมีประสิทธิภาพขึ้นและไม่เหนื่อยล้า อีกทั้งยังมีเครื่องมือแชท AI สรุป และแบบทดสอบเพื่อเสริมการเรียนรู้อีกด้วย 

Saner.ai

Saner.ai เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะสำหรับผู้มี ADHD ที่รวมการจดบันทึก การจัดการงาน และตัวช่วยความจำไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเก็บตกความคิดที่แล่นผ่าน จัดระเบียบสิ่งที่ต้องทำ และติดตามไอเดียจาก อีเมล การประชุม และชีวิตประจำวัน โดยไม่ต้องพะวงกับการจำทุกอย่าง สำหรับผู้ที่มี ADHD การสลับหลายเครื่องมือและหลายบริบททำให้รู้สึกล้นได้ง่าย Saner.ai ช่วยลดภาระนั้นด้วยการจัดระเบียบเนื้อหาให้อัตโนมัติ และผุดสิ่งที่เกี่ยวข้องขึ้นมาให้ตรงเวลา ลดความล้าในการตัดสินใจ ช่วยให้นึกย้อนข้อมูลได้ไว และเปิดทางให้ผู้ใช้โฟกัสที่การลงมือทำ แทนการเอาแต่จำว่างานถัดไปคืออะไร

Tiimo

Tiimo เป็นแอปวางแผนและตารางแบบภาพที่สร้างขึ้นโดยคำนึงถึงผู้ที่มีความหลากหลายทางระบบประสาท โดยเฉพาะผู้ที่มี ADHD และออทิสติก แปลงเวลาให้อยู่ในภาพที่ดูออกทันที ช่วยให้ผู้ใช้เห็นภาพรวมของวันได้ชัด และติดตามได้ด้วยการเตือนแบบนุ่มนวลและรูทีนที่ปรับได้ Tiimo มีเช็กลิสต์ด้วย AI ไทม์ไลน์แยกสี และการจัดตารางที่ยืดหยุ่น ช่วยลดความวุ่นวายช่วงเปลี่ยนกิจกรรมและปัญหาเรื่องการรับรู้เวลา เพราะหลายคนที่มี ADHD ประสบกับ “การไม่รับรู้เวลา” หรือความยากในการรับรู้การผ่านไปของเวลา Tiimo จึงทำให้เวลาเป็นสิ่งที่จับต้องได้และไม่ดูน่ากลัว ผลลัพธ์คือวันสงบขึ้น เป็นระบบขึ้น และผู้ใช้สามารถโฟกัสทีละสเต็ป แทนที่จะรู้สึกท่วมท้นกับภาพรวมทั้งหมด

Goblin.tools

Goblin.tools เป็นชุดเครื่องมือจิ๋วที่ชาญฉลาด ออกแบบมาเพื่อรับมือความท้าทายด้านทักษะหน้าที่บริหารที่ผู้มี ADHD มักเจอ คุณสมบัติเด่น “Magic ToDo” จะแตกงานที่คลุมเครือและชวนท่วมท้นให้เป็นขั้นตอนย่อยที่ทำได้จริงแบบอัตโนมัติ เครื่องมืออื่น ๆ อย่าง “Formalizer,” “Judge,” และ “Chef” ช่วยเรียบเรียงข้อความ ประเมินโทน หรือวางแผนสูตรอาหาร ด้วยความเรียบง่ายที่เป็นมิตรต่อผู้มี ADHD สำหรับหลายคน การเริ่มต้นหรือจัดระเบียบงานที่ซับซ้อนคือด่านยาก ดังนั้น Goblin.tools จึงเข้ามาช่วยลดแรงเสียดทานด้วยการแตกงานให้เรียบร้อย เมื่อเปลี่ยนงานชวนหวั่นใจให้เป็นลิสต์ที่ย่อยได้ ก็เกิดความรู้สึกก้าวหน้าที่กระตุ้นโดพามีน และจุดไฟแรงฮึดแทนความถอดใจ

Mindgrasp.ai

Mindgrasp.ai เป็นผู้ช่วยการเรียนรู้ด้วย AI ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้เรียนซึมซับและจดจำข้อมูลได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มี ADHD หรือมีความยากลำบากในการเรียนรู้ สามารถแปลงเนื้อหาแน่น ๆ บทบรรยาย และวิดีโอให้เป็น สรุป แฟลชการ์ด แบบทดสอบ และบันทึก ทำให้การเรียนมีความโต้ตอบมากขึ้นและไม่เหนื่อยล้า ทั้งผู้มี ADHD และ นักเรียน มักมีปัญหาในการโฟกัสเมื่อเจอเนื้อหาที่ยาวหรือซับซ้อน แต่ Mindgrasp ช่วยให้พวกเขามีส่วนร่วมมากขึ้นด้วยการนำเสนอหลายรูปแบบที่ช่วยเสริมความเข้าใจ เหมือนมีติวเตอร์ส่วนตัวที่พร้อมตลอดเวลา ปรับให้เข้ากับจังหวะสมาธิของคุณ เปลี่ยนการเรียน จากเรื่องชวนเครียดให้กลายเป็นกระบวนการที่คล่องตัวและคุ้มค่ากว่าเดิม.

Motion 

Motion เป็นแอปด้าน ประสิทธิภาพการทำงาน ที่ทรงพลัง ใช้ปัญญาประดิษฐ์วางแผนวันของผู้ใช้อัตโนมัติ—จัดตารางประชุม เลื่อนงาน และบาลานซ์ลำดับความสำคัญ สำหรับผู้ที่มี ADHD ซึ่งมักลำบากกับการบริหารเวลา การผัดวันประกันพรุ่ง และการตัดสินใจ Motion ทำหน้าที่เสมือนผู้ช่วยผู้บริหารดิจิทัล ลดภาระการต้องวางแผนตลอดเวลา มันจะปรับตามปฏิทินให้เองเมื่อแผนในวันนั้นเปลี่ยน เพื่อให้มั่นใจว่างานสำคัญยังเดินหน้าต่อได้ เมื่อโอนงานจัดตารางและจัดลำดับความสำคัญให้ระบบ ผู้ใช้ ADHD สามารถทุ่มพลังไปกับการลงมือทำจริง แทนที่จะมัวกังวลว่าจะเริ่มเมื่อไหร่และอย่างไร.

Coconote

Coconote เป็นแพลตฟอร์มจดบันทึกด้วย AI ที่แปลงการบรรยาย การประชุม หรือ เอกสาร ให้เป็นบันทึกที่จัดระเบียบแล้ว, แบบทดสอบ แฟลชการ์ด และสรุปเสียง สำหรับผู้ใช้ ADHD ที่พบว่าการ ทำหลายอย่างพร้อมกัน ระหว่างการฟังและการจดเป็นเรื่องยาก, Coconote จะจับสาระและจัดรูปใหม่เป็นชิ้นส่วนที่ย่อยง่าย ซึ่งไม่เพียงช่วยกันไม่ให้ประเด็นสำคัญหลุดหาย แต่ยังทำให้ผู้ใช้ย้อนกลับไปทบทวนในรูปแบบที่ตรงกับสไตล์การเรียนรู้ของตนเองได้ Coconote โดยพื้นฐานเชื่อมช่องว่างระหว่างการฟังกับการเข้าใจ จึงเป็นเครื่องมือที่มีคุณค่าสำหรับผู้ที่มักเผลอใจลอยหรือประมวลผลข้อมูลเป็นช่วง ๆ.

Penseum

Penseum เป็นผู้ช่วยการเรียนด้วย AI ที่เปลี่ยนวิดีโอ เนื้อหาอ่าน และการบรรยายให้เป็นบทเรียนที่มีโครงสร้าง แฟลชการ์ด และ แบบทดสอบ จุดเด่นที่ทำให้เหมาะกับผู้มี ADHD คือ “โหมดโฟกัส” ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมการเรียนที่เรียบง่าย เป็นมิตรต่อโดพามีน และกันสิ่งรบกวนออกจากสายตา โดยการนำเสนอเนื้อหาเป็นชิ้นเล็ก ๆ และโต้ตอบได้, Penseum ช่วยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมต่อเนื่องโดยไม่เกิดภาระทางความคิดเกินไป สำหรับผู้ใช้ ADHD ที่ต้องการสิ่งเร้าแต่เสียสมาธิง่าย การผสมผสานระหว่างความเรียบง่ายกับความโต้ตอบนี้ สร้างบรรยากาศที่เหมาะกับการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและการ การจดจำ.

Rewind

Rewind.ai เปรียบเสมือน “ความทรงจำดิจิทัล” ที่บันทึกกิจกรรมบนหน้าจอ ทั้งการประชุม การท่องเว็บ และบทสนทนา แล้วค้นหาได้ทันที สำหรับคนที่มี ADHD ซึ่งมักลืมรายละเอียดหรือจำไม่ได้ว่าเห็นอะไรไว้ที่ไหน Rewind คือผู้ช่วยชีวิตจริงๆ แทนที่จะนั่งพยายามนึกเอง คุณแค่ค้นหาไทม์ไลน์ดิจิทัลของตัวเองเพื่อดึงข้อมูลขึ้นมาได้ทันที ช่วยลดความกังวลเรื่องการลืม และทำให้ผู้ใช้โฟกัสกับงานตรงหน้าได้ เพราะรู้ว่าสามารถ “rewind” เพื่อย้อนทบทวนสิ่งสำคัญที่อาจพลาดไปเมื่อไรก็ได้ 

Neurolist

Neurolist เป็นแอปจัดการงานที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้ที่มีความแตกต่างทางประสาท โดยโฟกัสเป็นพิเศษกับ ADHD แอปผสานการประมาณเวลา การจัดหมวดหมู่อัจฉริยะ และ “งานย่อยวิเศษ” ที่สร้างโดย AI ซึ่งจะแบ่งโปรเจกต์ใหญ่ให้เป็นขั้นตอนที่ทำได้จริง ด้วยการทำให้โครงสร้างงานเป็นอัตโนมัติ ซึ่งสมองแบบ ADHD มักรักษาไว้ได้ยาก Neurolist จึงเปลี่ยนความสับสนให้กลายเป็นความชัดเจน ช่วยให้ผู้ใช้มองเห็นความคืบหน้า จัดลำดับความสำคัญอย่างมีประสิทธิภาพ และรักษาแรงฮึดโดยไม่รู้สึกท่วมท้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดการงานบ้านหรือโปรเจกต์งานมืออาชีพ Neurolist มอบกรอบงานที่ช่วยติดตามผลและลดการผัดวันประกันพรุ่ง

MyMinutes

MyMinutes.ai เป็นผู้ช่วยบันทึกและถอดความอัจฉริยะสำหรับการประชุม บรรยาย และการระดมความคิด สำหรับผู้ที่มี ADHD การโฟกัสฟังบทสนทนายาวๆ หรือจำทุกประเด็นภายหลังอาจเป็นเรื่องท้าทาย MyMinutes จะบันทึกการสนทนาโดยอัตโนมัติ ไฮไลต์ประเด็นสำคัญ และจัดระเบียบไว้ให้ทบทวนภายหลัง ช่วยให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมกับบทสนทนาได้เต็มที่โดยไม่ต้องกังวลว่าจะพลาดรายละเอียด ผู้ใช้จำนวนมากที่มี ADHD บอกว่ามันเป็น “ตัวเปลี่ยนเกม” ที่ลดภาระทางความคิดจากการจดบันทึกตลอดเวลา พร้อมทั้งมั่นใจได้ว่าไม่พลาดเรื่องสำคัญ

Perplexity Comet

เบราว์เซอร์ Comet ของ Perplexity ผสาน AI เข้ากับการท่องเว็บโดยตรง ช่วยให้การค้นคว้า สรุป และจัดระเบียบสิ่งที่อ่านออนไลน์ง่ายขึ้น สำหรับผู้ใช้ ADHD ที่ชอบเปิดแท็บพรึบและหลงทางในความรกดิจิทัล Comet ทำหน้าที่เหมือนไกด์ส่วนตัว ช่วยโฟกัสและดึงข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องมือสรุปและใส่บริบทในตัวทำให้เรื่องซับซ้อนเข้าใจง่าย ลดแรงกระตุ้นให้กระโดดไปๆ มาๆ ระหว่างหน้าที่ไม่เกี่ยวข้อง แม้จะไม่ได้ออกแบบมาสำหรับ ADHD โดยตรง แต่วิธีใช้งานที่เป็นธรรมชาติและระบบสนับสนุนด้วย AI ทำให้มันเป็นคู่หูชั้นดีสำหรับใครก็ตามที่เจอปัญหาวอกแวกและข้อมูลถาโถม

Genio

Genio เป็นแพลตฟอร์มจดโน้ตด้วย AI ที่ให้ผู้ใช้บันทึกเสียง ใส่คำอธิบายบนสไลด์ และสร้างคำถอดความกับโครงร่างโดยอัตโนมัติ ฟีเจอร์ “Quiz Me” และ “AI Outline” ทำให้การ ศึกษา และการทบทวนเนื้อหามีความโต้ตอบมากขึ้น สำหรับ นักเรียน หรือผู้เชี่ยวชาญที่มี ADHD มันช่วยลดภาระจากการต้องฟัง ทำความเข้าใจ และจดไปพร้อมกัน แทนที่จะต้องทำแบบนั้น Genio จะจัดระเบียบข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่กลับมาดูซ้ำได้ง่าย และเสริมการเรียนรู้ผ่านการทบทวนและการมีส่วนร่วม เหมาะกับผู้เรียนสายฟังหรือสายตาที่ได้ประโยชน์จากการทวนข้อมูลอีกครั้งในรูปแบบที่เป็นระบบ

Endel 

Endel ใช้ซาวด์สเคปที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อสร้างเสียงพื้นหลังที่ปรับให้เข้ากับแต่ละคนสำหรับการโฟกัส การผ่อนคลาย และการนอน “โหมดโฟกัส” ของมันสร้างเสียงนิ่งๆ ไม่กวนสมาธิ ออกแบบตามหลักวิทยาศาสตร์เพื่อพยุงการจดจ่อ ผู้ใช้ที่เป็น ADHD มักตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ยาก หรือจำเป็นต้องมีสิ่งกระตุ้นพื้นหลังที่คงที่เพื่อทำงานต่อเนื่อง—Endel ตอบโจทย์นี้ได้ตรงๆ ด้วยการสร้างบรรยากาศเสียงที่ช่วยพยุงสมาธิแทนที่จะไปรบกวน Endel ช่วยลดโอเวอร์สติมูเลชัน เกลี่ยความคิดที่วุ่นวายให้สงบ และพาเข้าสู่ภาวะโฟลว์ระหว่างทำงานหรือเรียน

Leantime

Leantime เป็นเครื่องมือจัดการโครงการแบบโอเพนซอร์สที่ตั้งใจออกแบบมาให้เข้ากับ ADHD และวิธีคิดของผู้มีความหลากหลายทางประสาท อินเทอร์เฟซเลี่ยงความรกตาและอาศัยหลักจิตวิทยาพฤติกรรม—เช่น รางวัลโดปามีนเล็กๆ และการเห็นความก้าวหน้าได้ชัด—เพื่อคงแรงจูงใจให้สูง แพลตฟอร์มผสานการตั้งเป้าหมาย กระดานไอเดีย และการติดตามความคืบหน้าไว้ในรูปแบบที่ใช้ง่ายเป็นธรรมชาติ ไม่ชวนรู้สึกท่วมท้น สำหรับผู้ที่มี ADHD ที่ติดขัดเวลาเริ่มงานหรือรักษาโมเมนตัม Leantime มอบโครงสร้างที่อ่อนโยนและการเสริมแรงเชิงบวกเพื่อพาความสม่ำเสมอให้เกิดขึ้น ทำให้การ ผลิตภาพ รู้สึกจับต้องได้ และถึงขั้นเพลิดเพลิน

FAQ

แอปประเภทใดที่มีประโยชน์ที่สุดสำหรับคนที่มี ADHD?

แอปที่รวมโครงสร้าง ระบบอัตโนมัติ และตัวช่วยโฟกัส เช่น ตัววางแผน การจดบันทึก และ การแปลงข้อความเป็นเสียง อย่าง Speechify จะมีประโยชน์เป็นพิเศษสำหรับ ผู้ใช้ที่เป็น ADHD.

เทคโนโลยีช่วยเพิ่มสมาธิและผลิตภาพสำหรับ ADHD ได้อย่างไร?

เครื่องมือ AI อย่าง Speechify และ Motion ช่วยลดภาระสมองด้วยการทำงานวางแผน การอ่านข้อความออกเสียง และการจัดตารางให้เป็นอัตโนมัติ เพื่อให้ผู้ใช้ได้โฟกัสกับการลงมือทำมากกว่าการจำ

มีแอปสำหรับ ADHD ที่ช่วยในการอ่านและการเรียนรู้ไหม?

มี เช่น Speechify แปลงข้อความเป็นเสียงเพื่อเพิ่มสมาธิและ ความเข้าใจ ขณะที่ Mindgrasp และ Coconote ช่วยสรุปเนื้อหา ให้การ ศึกษา ง่ายขึ้น

ฉันควรมองหาอะไรในแอปเพิ่มผลิตภาพสำหรับ ADHD?

ลองมองหาระบบอัตโนมัติ โครงสร้างเชิงภาพ การเตือน และฟีเจอร์ การเข้าถึง—คุณสมบัติที่มีในเครื่องมือเชื่อถือได้อย่าง Speechify, Tiimo และ Saner.ai.

เทคโนโลยีการแปลงข้อความเป็นเสียงจะช่วยให้อ่านง่ายขึ้นสำหรับผู้ที่เป็น ADHD ได้จริงหรือ?

แน่นอน Speechify มี เสียง AI สมจริง และการไฮไลต์ที่ช่วยให้ ผู้ใช้ที่เป็น ADHD โฟกัสได้นานขึ้น เปลี่ยนจากการอ่านเป็นประสบการณ์การฟังที่สงบและไม่วอกแวก

เพลิดเพลินกับเสียง AI ที่ล้ำสมัยที่สุด ไฟล์ไม่จำกัด และการสนับสนุนตลอด 24/7

ทดลองฟรี
tts banner for blog

แชร์บทความนี้

Cliff Weitzman

Cliff Weitzman

ซีอีโอ/ผู้ก่อตั้ง Speechify

คลิฟฟ์ ไวท์ซ์แมน เป็นผู้ขับเคลื่อนสิทธิผู้มีภาวะดิสเล็กเซีย และดำรงตำแหน่งซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Speechify แอปแปลงข้อความเป็นเสียงอันดับ 1 ของโลก ที่กวาดรีวิว 5 ดาวกว่า 100,000 รายการ และเคยครองอันดับ 1 ใน App Store หมวดข่าวสารและนิตยสาร ในปี 2017 ไวท์ซ์แมนติดโผ Forbes 30 Under 30 จากผลงานผลักดันให้โลกออนไลน์เข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับผู้มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ผลงานของคลิฟฟ์ ไวท์ซ์แมนถูกกล่าวถึงในสื่อชั้นนำอย่าง EdSurge, Inc., PC Mag, Entrepreneur, Mashable และอีกมากมาย

speechify logo

เกี่ยวกับ Speechify

#1 โปรแกรมอ่านข้อความเป็นเสียง

Speechify เป็นแพลตฟอร์ม แปลงข้อความเป็นเสียง ชั้นนำของโลกที่มีผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านคน และได้รับรีวิวระดับ 5 ดาวมากกว่า 500,000 รีวิวในแอปพลิเคชัน iOS, Android, Chrome Extension, เว็บแอป และ แอปบน Mac ในปี 2025 Apple ได้มอบรางวัล Apple Design Award อันทรงเกียรติให้กับ Speechify ในงาน WWDC โดยกล่าวว่าเป็น “ทรัพยากรสำคัญที่ช่วยให้ผู้คนใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น” Speechify มีเสียงธรรมชาติกว่า 1,000 เสียงใน 60+ ภาษา และมีผู้ใช้งานในเกือบ 200 ประเทศ เสียงคนดังที่มีให้เลือกใช้งาน เช่น Snoop Dogg, Mr. Beast และ Gwyneth Paltrow สำหรับผู้สร้างสรรค์และธุรกิจ Speechify Studio มีเครื่องมือขั้นสูง เช่น AI Voice Generator, AI Voice Cloning, AI Dubbing และ AI Voice Changer Speechify ยังสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชั้นนำด้วย Text to Speech API ที่มีคุณภาพสูงและคุ้มค่า นอกจากนี้ยังได้รับการนำเสนอใน The Wall Street Journal, CNBC, Forbes, TechCrunch และสื่อชั้นนำอื่น ๆ Speechify เป็นผู้ให้บริการแปลงข้อความเป็นเสียงที่ใหญ่ที่สุดในโลก เยี่ยมชม speechify.com/news, speechify.com/blog และ speechify.com/press เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม