Social Proof

ทางเลือกที่ดีที่สุดแทน Babbel

Speechify เป็นโปรแกรมอ่านเสียงอันดับ 1 ของโลก อ่านหนังสือ เอกสาร บทความ PDF อีเมล - ทุกอย่างที่คุณอ่าน - ได้เร็วขึ้น

แนะนำใน

forbes logocbs logotime magazine logonew york times logowall street logo

ฟังบทความนี้ด้วย Speechify!
Speechify

พร้อมที่จะเรียนรู้ภาษาใหม่หรือยัง? ลองดูทางเลือก Babbel ที่ได้รับการจัดอันดับสูงสุดของเราและค้นหาเครื่องมือการเรียนรู้ภาษาที่เหมาะกับคุณ

ทางเลือกที่ดีที่สุดแทน Babbel

Babbel เป็นแอปเรียนภาษายอดนิยมที่มีฟีเจอร์หลากหลายเพื่อช่วยให้ผู้ใช้พัฒนาทักษะภาษา อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์การเรียนรู้ภาษาที่แตกต่าง มีวิธีและเครื่องมือทางเลือกมากมาย ในบทความนี้ เราจะสำรวจทางเลือกต่างๆ ของ Babbel รวมถึงสิ่งที่ดีที่สุด

Babbel คืออะไร?

Babbel เป็นแอปเรียนภาษายอดนิยมที่มีคอร์สในหลายภาษา เช่น สเปน ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี และอีกมากมาย แอปนี้มีฟีเจอร์หลากหลาย เช่น บทเรียนแบบโต้ตอบ การ์ดคำศัพท์ และเทคโนโลยีการรู้จำเสียงพูดเพื่อช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะภาษา

คุณสมบัติที่ดีที่สุดที่ควรมองหาในทางเลือก Babbel

เมื่อค้นหาทางเลือกแทน Babbel มีหลายปัจจัยที่ควรพิจารณา สิ่งแรกที่ควรพิจารณาคือภาษาที่คุณต้องการเรียน ไม่ใช่ทุกแอปเรียนภาษาที่มีคอร์สในทุกภาษา บางแอปอาจมีคอร์สในภาษายอดนิยม เช่น สเปน ญี่ปุ่น รัสเซีย ฝรั่งเศส และเยอรมัน ในขณะที่บางแอปอาจมีคอร์สในภาษาที่ไม่ค่อยนิยม เช่น ฮังการี ดัตช์ เกาหลี สวีเดน หรืออินโดนีเซีย

อีกปัจจัยหนึ่งที่ควรพิจารณาคือสไตล์การเรียนรู้ที่เหมาะกับคุณที่สุด บางแอปมีบทเรียนแบบโต้ตอบที่เน้นไวยากรณ์และคำศัพท์ ในขณะที่บางแอปมีประสบการณ์ที่สมจริงมากขึ้นที่จำลองสถานการณ์ในชีวิตจริง คุณควรมองหาแอปที่มีฟีเจอร์ เช่น เทคโนโลยีการรู้จำเสียงพูด แบบทดสอบ และการทบทวนแบบเว้นระยะเพื่อช่วยให้คุณเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เหตุผลที่ควรลองใช้ทางเลือก Babbel

Babbel อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน เนื่องจากมีข้อจำกัดของตัวเอง นี่คือข้อดีและข้อเสียบางประการของการใช้ Babbel:

ข้อดีของ Babbel

  1. คอร์สที่มีโครงสร้าง — Babbel มีคอร์สที่มีโครงสร้างครอบคลุมไวยากรณ์ คำศัพท์ และทักษะการพูด ทำให้เป็นแพลตฟอร์มการเรียนรู้ภาษาที่ครอบคลุม
  2. เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น — Babbel ถูกออกแบบให้ใช้งานง่ายและนำทางได้ง่าย ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้นที่เพิ่งเริ่มเรียนรู้ภาษาใหม่
  3. หลากหลายภาษา — Babbel มีคอร์สในหลากหลายภาษา รวมถึงภาษายอดนิยม เช่น สเปน ฝรั่งเศส และเยอรมัน รวมถึงภาษาที่ไม่ค่อยมีการสอน เช่น อินโดนีเซียและนอร์เวย์
  4. ราคาไม่แพง — Babbel มีราคาที่ค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มการเรียนรู้ภาษาอื่นๆ โดยมีแผนราคาเริ่มต้นที่ $14.99 ต่อเดือน
  5. แบบโต้ตอบ — คอร์สของ Babbel เป็นแบบโต้ตอบและรวมถึงการฟัง การพูด และการเขียน ช่วยให้ผู้เรียนฝึกฝนทุกด้านของภาษา

ข้อเสียของ Babbel

  1. การฝึกพูดที่จำกัด — แม้ว่า Babbel จะมีการฝึกพูด แต่ก็มีขอบเขตจำกัดและอาจไม่เพียงพอที่จะช่วยให้ผู้เรียนพูดภาษาได้อย่างคล่องแคล่ว
  2. บริบททางวัฒนธรรมที่จำกัด — คอร์สของ Babbel มุ่งเน้นไปที่ไวยากรณ์และคำศัพท์เป็นหลัก ซึ่งหมายความว่าผู้เรียนอาจไม่ได้รับความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับบริบททางวัฒนธรรมของภาษาที่กำลังเรียนรู้
  3. ไม่เหมาะสำหรับผู้เรียนขั้นสูง — คอร์สของ Babbel ถูกออกแบบมาสำหรับผู้เริ่มต้นและผู้เรียนระดับกลางเป็นหลัก ซึ่งหมายความว่าผู้เรียนขั้นสูงอาจไม่พบว่าแพลตฟอร์มนี้ท้าทายเพียงพอ
  4. ไม่ครอบคลุมเท่าแพลตฟอร์มอื่น — แม้ว่า Babbel จะมีคอร์สที่หลากหลาย แต่ก็อาจไม่ครอบคลุมเท่าแพลตฟอร์มการเรียนรู้ภาษาอื่นๆ เช่น Rosetta Stone หรือ Pimsleur
  5. ตัวเลือกการปรับแต่งที่จำกัด — คอร์สของ Babbel มีโครงสร้างและไม่อนุญาตให้ปรับแต่งมากนัก ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับผู้เรียนที่ต้องการมุ่งเน้นไปที่ด้านเฉพาะของภาษาหรือมีความต้องการการเรียนรู้ที่ไม่เหมือนใคร

แอปภาษาทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้เรียนภาษา

หากคุณกำลังมองหาทางเลือกแทน Babbel มีแอปเรียนภาษาอื่นๆ มากมายในตลาดที่มีฟีเจอร์และประโยชน์คล้ายกัน และอาจให้คุณเข้าถึงคอร์สภาษา สไตล์การเรียนรู้ และฟีเจอร์ที่หลากหลายมากขึ้นที่เหมาะกับความต้องการของคุณ แอปภาษาทางเลือกที่ดีที่สุดบางแอปได้แก่:

Duolingo

Duolingo เป็นหนึ่งในแอปเรียนภาษาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและด้วยเหตุผลที่ดี มันมีคอร์สในกว่า 40 ภาษาและใช้วิธีการเรียนรู้ภาษาที่เหมือนเกม Duolingo มีบทเรียนแบบโต้ตอบ แบบทดสอบ และเทคโนโลยีการรู้จำเสียงพูดเพื่อช่วยให้คุณเรียนรู้ภาษาใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แอปนี้มีให้ใช้ฟรี แต่คุณสามารถเลือกใช้เวอร์ชันพรีเมียมที่มีฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น บทเรียนออฟไลน์และการเรียนรู้แบบไม่มีโฆษณา

Memrise

Memrise เป็นแอปเรียนภาษาที่มีคอร์สในหลายภาษา เช่น สเปน ฝรั่งเศส เยอรมัน และอิตาลี แอปนี้ใช้การ์ดคำศัพท์และบทเรียนแบบโต้ตอบเพื่อช่วยให้คุณเรียนรู้คำศัพท์และไวยากรณ์ใหม่ ๆ Memrise ยังมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า "คำที่ยาก" ซึ่งช่วยให้คุณมุ่งเน้นไปที่คำที่คุณพบว่ายาก

Mondly

Mondly เป็นแอปเรียนภาษาที่มีคอร์สในกว่า 40 ภาษา เช่น สเปน ฝรั่งเศส เยอรมัน และจีน แอปนี้ใช้บทเรียนแบบโต้ตอบ ควิซ และเทคโนโลยีการรู้จำเสียงพูดเพื่อช่วยให้คุณเรียนรู้ภาษาใหม่ Mondly ยังมีฟีเจอร์แชทบอทเสมือนจริงที่ให้คุณฝึกทักษะการสนทนาในสถานการณ์จำลองที่เหมือนจริง

Pimsleur

Pimsleur เป็นแอปเรียนภาษาที่มีคอร์สเสียงในหลายภาษา เช่น สเปน ฝรั่งเศส เยอรมัน และอิตาลี แอปนี้ใช้วิธีการที่เน้นบทเรียนเสียงและการทบทวนซ้ำเพื่อช่วยให้คุณเรียนรู้ภาษาใหม่ Pimsleur ยังมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า "Speak Easy" ที่ให้คุณฝึกทักษะการสนทนากับเจ้าของภาษา

Mango Languages

Mango Languages เป็นแอปเรียนภาษาที่มีคอร์สในกว่า 70 ภาษา เช่น สเปน ฝรั่งเศส เยอรมัน และโปรตุเกส แอปนี้ใช้บทเรียนแบบโต้ตอบ ควิซ และเทคโนโลยีการรู้จำเสียงพูดเพื่อช่วยให้คุณเรียนรู้ภาษาใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ Mango Languages ยังมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า "Culture Notes" ที่ให้บริบททางวัฒนธรรมเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจภาษาดียิ่งขึ้น

แอปที่น่าสนใจอื่น ๆ

แอปยอดนิยมอื่น ๆ ที่คุณสามารถใช้เพื่อพัฒนาทักษะภาษาต่างประเทศของคุณ ได้แก่ FluentU ซึ่งใช้การเล่นเกมและอัลกอริทึมที่ไม่เหมือนใครเพื่อทำให้กระบวนการเรียนรู้สนุกยิ่งขึ้น และ HelloTalk ที่ให้การฝึกพูดกับเจ้าของภาษา

Speechify - เครื่องมือเรียนภาษาที่ดีที่สุด

หนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการ เรียนรู้ภาษาใหม่ คือการแช่ตัวในภาษา ซึ่งหมายถึงการล้อมรอบตัวเองด้วยภาษานั้นอย่างต่อเนื่องและสามารถช่วยให้คุณเข้าใจภาษานั้นได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น รวมถึงพัฒนาทักษะการฟังและการพูดของคุณ อย่างไรก็ตาม การแช่ตัวในโลกจริงไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงเจ้าของภาษาหรือโปรแกรมแช่ตัวในภาษา นั่นคือที่ที่เครื่องมืออย่าง Speechify สามารถช่วยได้อย่างมาก

ด้วยเทคโนโลยี text to speech ของ Speechify ผู้ใช้สามารถฟังข้อความใด ๆ ในภาษาที่พวกเขากำลังเรียนรู้ ตั้งแต่บทความข่าวและ สื่อการเรียน ไปจนถึงอีเมลและโพสต์ในโซเชียลมีเดีย ซึ่งช่วยให้ผู้เรียนแช่ตัวในภาษาได้ทุกวัน แม้ว่าจะไม่มีโอกาสเข้าถึงเจ้าของภาษาก็ตาม

โดยการฟังภาษาที่พูด ผู้เรียนสามารถพัฒนาการออกเสียงและทักษะการพูด รวมถึงขยายคำศัพท์และความเข้าใจในภาษา ดาวน์โหลด เวอร์ชันฟรีของแอป Speechify บนมือถือ บนอุปกรณ์ที่คุณชื่นชอบและดูว่ามันสามารถช่วยพัฒนาทักษะภาษาของคุณและทำให้คุณเชี่ยวชาญในภาษาที่คุณต้องการได้อย่างไร

คำถามที่พบบ่อย

แอปเรียนภาษาฟรีมีอะไรบ้าง?

Duolingo, Memrise, Drops, Lingvist และ Rosetta Stone มีแอปฟรีทั้งใน iOS และ Android พร้อมตัวเลือกในการอัปเกรดเป็นการสมัครสมาชิกแบบชำระเงินเพื่อรับฟีเจอร์และทรัพยากรเพิ่มเติม

Busuu คืออะไร?

Busuu เป็นแพลตฟอร์มเรียนภาษาที่มีคอร์สในหลากหลายภาษา เช่น สเปน ฝรั่งเศส เยอรมัน ญี่ปุ่น และอีกมากมาย แพลตฟอร์มนี้ให้ผู้ใช้มีเครื่องมือและทรัพยากรหลากหลายเพื่อช่วยพัฒนาทักษะภาษา เช่น บทเรียนแบบโต้ตอบ แบบฝึกหัดไวยากรณ์ และการฝึกคำศัพท์

italki คืออะไร?

italki เป็นแพลตฟอร์มเรียนภาษาออนไลน์ที่เชื่อมต่อนักเรียนภาษากับครูและติวเตอร์เจ้าของภาษาจากทั่วโลก แพลตฟอร์มนี้มีบทเรียนแบบตัวต่อตัวในกว่า 130 ภาษา รวมถึงภาษาอังกฤษ

มีวิธีการเรียนภาษาอังกฤษแบบไหนบ้าง?

แผนการเรียนภาษาอังกฤษยอดนิยมบางอย่างรวมถึงการฟังวิดีโอ รายการ และภาพยนตร์ภาษาอังกฤษพร้อมกับคำบรรยายในภาษาของคุณ การใช้แอปภาษา การใช้ซอฟต์แวร์ text to speech อ่านหน้าเว็บให้คุณฟังเป็นภาษาอังกฤษ การฟัง พอดแคสต์ ในภาษาอังกฤษ และการจ้างติวเตอร์

Cliff Weitzman

คลิฟ ไวซ์แมน

คลิฟ ไวซ์แมน เป็นผู้สนับสนุนด้านดิสเล็กเซียและเป็น CEO และผู้ก่อตั้ง Speechify แอปพลิเคชันแปลงข้อความเป็นเสียงอันดับ 1 ของโลก ที่มีรีวิว 5 ดาวมากกว่า 100,000 รีวิว และครองอันดับหนึ่งใน App Store ในหมวดข่าวและนิตยสาร ในปี 2017 ไวซ์แมนได้รับการยกย่องในรายชื่อ Forbes 30 under 30 จากผลงานของเขาในการทำให้อินเทอร์เน็ตเข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องในการเรียนรู้ คลิฟ ไวซ์แมน ได้รับการนำเสนอใน EdSurge, Inc., PC Mag, Entrepreneur, Mashable และสื่อชั้นนำอื่น ๆ