Social Proof

วิธีที่ฉันใช้แอป Speechify บน iOS iPhone

Speechify เป็นโปรแกรมอ่านเสียงอันดับ 1 ของโลก อ่านหนังสือ เอกสาร บทความ PDF อีเมล - ทุกอย่างที่คุณอ่าน - ได้เร็วขึ้น

แนะนำใน

forbes logocbs logotime magazine logonew york times logowall street logo
ฟังบทความนี้ด้วย Speechify!
Speechify

ฉันมักจะหลงใหลในเทคโนโลยี โดยเฉพาะเมื่อมันเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันอย่างมีความหมาย หนึ่งในเครื่องมือที่เปลี่ยนแปลงชีวิตฉันมากที่สุดคือแอป Speechify บน iOS ไม่ว่าจะเป็นบน iPhone, iPad หรืออุปกรณ์ Apple อื่น ๆ Speechify ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในกิจวัตรประจำวันของฉัน นี่คือวิธีที่ฉันใช้แอปแปลงข้อความเป็นเสียง (TTS) ที่น่าทึ่งนี้เพื่อทำให้ชีวิตของฉันง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เริ่มต้นกับ Speechify

เมื่อฉันได้ยินเกี่ยวกับ Speechify ครั้งแรก ฉันรู้สึกสนใจในศักยภาพของมันในการแปลงข้อความเป็นเสียงคุณภาพสูง ในฐานะคนที่ชอบทำหลายอย่างพร้อมกัน ฉันเห็นประโยชน์ทันทีจากการฟังเอกสาร หน้าเว็บ และแม้กระทั่งหนังสือแทนการอ่าน ดังนั้นฉันจึงดาวน์โหลดแอป Speechify จาก App Store บน iPhone ของฉัน

การตั้งค่า Speechify

การตั้งค่า Speechify เป็นเรื่องง่าย หลังจากดาวน์โหลดแอป ฉันทำตามคำแนะนำที่ง่ายดายที่แนะนำฉันผ่านฟังก์ชันพื้นฐาน ฉันเชื่อมโยงบัญชี iCloud ของฉันเพื่อให้แน่ใจว่าการตั้งค่าและเอกสารของฉันถูกซิงค์ข้ามอุปกรณ์ iOS ของฉัน แอปยังผสานรวมกับผลิตภัณฑ์ Apple อื่น ๆ เช่น Apple Watch ได้อย่างราบรื่น ทำให้สะดวกยิ่งขึ้น

สำรวจคุณสมบัติของ Speechify

สิ่งแรกที่ฉันทำคือสำรวจเสียงแปลงข้อความเป็นเสียงที่มีให้ Speechify มีเสียงที่ฟังดูเป็นธรรมชาติหลากหลาย รวมถึงเสียงคนดังอย่าง Snoop Dogg ที่เพิ่มความสนุกให้กับประสบการณ์การฟัง ตัวเลือกการปรับแต่งเสียงช่วยให้ฉันเลือกเสียงแปลงข้อความเป็นเสียงที่ดีที่สุดที่ตรงกับความชอบของฉัน

การใช้ Speechify สำหรับการอ่านและการฟัง

เพิ่มประสบการณ์การอ่านของฉัน

ฉันใช้ Speechify เป็นหลักในการฟังหนังสือเสียงและเอกสาร ความสามารถในการปรับความเร็วในการอ่านเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงเกม โดยเฉพาะเมื่อฉันพยายามผ่านเนื้อหาจำนวนมากอย่างรวดเร็ว ความสามารถ AI ของแอปในการแปลงข้อความเป็นเสียงทำให้เสียงฟังดูเป็นธรรมชาติและน่าสนใจ ซึ่งเหมาะสำหรับการฟังเป็นเวลานาน

จัดการภาระงานของฉัน

Speechify มีประโยชน์อย่างมากในการจัดการภาระงานของฉัน ฉันมักจะแปลงไฟล์ PDF, เอกสาร และอีเมลเป็นไฟล์เสียงที่ฉันสามารถฟังได้ขณะเดินทาง ฟังก์ชันนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อฉันขับรถหรือออกกำลังกาย แอปรองรับรูปแบบต่าง ๆ และผสานรวมกับแพลตฟอร์มเช่น Google Docs และ Safari ทำให้มีความหลากหลายสำหรับงานต่าง ๆ

การเข้าถึงและการรวมกลุ่ม

ในฐานะผู้สนับสนุนการเข้าถึง ฉันชื่นชมที่ Speechify ให้บริการแก่บุคคลที่มีความพิการ แอปนี้เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่มีภาวะดิสเล็กเซีย, ADHD หรือความท้าทายในการอ่านอื่น ๆ มันเปลี่ยนการอ่านให้เป็นกิจกรรมที่เข้าถึงได้และสนุกสนานมากขึ้น ส่งเสริมการรวมกลุ่มและโอกาสที่เท่าเทียมกันในการเรียนรู้

การใช้ Speechify ข้ามอุปกรณ์

iOS และอื่น ๆ

แม้ว่าฉันจะใช้ Speechify บน iPhone และ iPad เป็นหลัก แต่ก็ดีที่รู้ว่าแอปนี้ยังมีให้ใช้งานบน Android และ Mac ความเข้ากันได้ข้ามแพลตฟอร์มนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าฉันสามารถใช้ Speechify ได้ไม่ว่าจะอยู่บนอุปกรณ์ใด ส่วนขยาย Chrome เป็นอีกคุณสมบัติที่มีประโยชน์ที่ช่วยให้ฉันแปลงหน้าเว็บเป็นเสียงได้อย่างง่ายดาย

การผสานรวมกับแอปอื่น ๆ

การผสานรวมของ Speechify กับแอปอื่น ๆ ช่วยเพิ่มฟังก์ชันการทำงานของมัน ตัวอย่างเช่น ฉันมักใช้มันกับ Safari เพื่อฟังบทความยาว ๆ หรือเอกสารวิจัย ความเข้ากันได้ของแอปกับ Siri เพิ่มความสะดวกอีกชั้นหนึ่ง ช่วยให้ฉันควบคุมการเล่นและคุณสมบัติอื่น ๆ ด้วยคำสั่งเสียง

ชุมชน Speechify

ฉันยังได้เข้าร่วมชุมชน Speechify ที่ผู้ใช้แบ่งปันเคล็ดลับและเทคนิคในการใช้แอปให้เกิดประโยชน์สูงสุด Cliff Weitzman ผู้ก่อตั้ง Speechify มักจะแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกและอัปเดต ทำให้เป็นชุมชนที่มีชีวิตชีวาและสนับสนุน

สรุปแล้ว แอป Speechify บน iOS ได้ปฏิวัติวิธีที่ฉันบริโภคข้อมูล ตั้งแต่การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานไปจนถึงการทำให้การอ่านเข้าถึงได้มากขึ้น Speechify เป็นเครื่องมือที่หลากหลายและทรงพลัง ไม่ว่าคุณจะมองหาตัวสร้างเสียง AI ที่ดีที่สุดหรือเพียงแค่ต้องการแอปแปลงข้อความเป็นเสียงที่เชื่อถือได้ Speechify ก็คุ้มค่าที่จะสำรวจ เสียงที่มีคุณภาพสูงและฟังดูเป็นธรรมชาติและอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายทำให้เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับใครก็ตามที่ต้องการเพิ่มประสบการณ์การอ่านและการฟังของตน ดังนั้นหากคุณยังไม่ได้ลอง ดาวน์โหลด Speechify จาก App Store วันนี้และค้นพบประโยชน์ด้วยตัวคุณเอง

ลองใช้ Speechify Text to Speech สำหรับ iPhone หรือ iPad

ค่าใช้จ่าย: ทดลองใช้งานฟรี

Speechify Text to Speech เป็นเครื่องมือที่ล้ำสมัยที่เปลี่ยนแปลงวิธีการที่ผู้คนบริโภคเนื้อหาที่เป็นข้อความ ด้วยการใช้เทคโนโลยีแปลงข้อความเป็นเสียงขั้นสูง Speechify เปลี่ยนข้อความที่เขียนให้เป็นคำพูดที่เหมือนจริง ทำให้มีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องในการอ่าน ผู้ที่มีปัญหาทางสายตา หรือผู้ที่ชอบการเรียนรู้ผ่านการฟัง ความสามารถในการปรับตัวของมันทำให้สามารถผสานรวมกับอุปกรณ์และแพลตฟอร์มต่างๆ ได้อย่างราบรื่น มอบความยืดหยุ่นให้ผู้ใช้ในการฟังได้ทุกที่ทุกเวลา

5 คุณสมบัติเด่นของ Speechify TTS:

เสียงคุณภาพสูง: Speechify มีเสียงคุณภาพสูงที่เหมือนจริงหลากหลายภาษา เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การฟังที่เป็นธรรมชาติ ทำให้เข้าใจและมีส่วนร่วมกับเนื้อหาได้ง่ายขึ้น

การผสานรวมที่ราบรื่น: Speechify สามารถผสานรวมกับแพลตฟอร์มและอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เว็บเบราว์เซอร์ สมาร์ทโฟน และอื่นๆ ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้สามารถแปลงข้อความจากเว็บไซต์ อีเมล ไฟล์ PDF และแหล่งข้อมูลอื่นๆ เป็นเสียงได้อย่างรวดเร็ว

การควบคุมความเร็ว: ผู้ใช้สามารถปรับความเร็วในการเล่นตามความต้องการ ทำให้สามารถฟังเนื้อหาได้อย่างรวดเร็วหรือเจาะลึกในจังหวะที่ช้าลง

การฟังแบบออฟไลน์: หนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญของ Speechify คือความสามารถในการบันทึกและฟังข้อความที่แปลงแล้วแบบออฟไลน์ เพื่อให้เข้าถึงเนื้อหาได้อย่างต่อเนื่องแม้ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

การเน้นข้อความ: ขณะที่ข้อความถูกอ่านออกเสียง Speechify จะเน้นส่วนที่สอดคล้องกัน ทำให้ผู้ใช้สามารถติดตามเนื้อหาที่ถูกพูดได้อย่างง่ายดาย การรับข้อมูลทั้งทางสายตาและการฟังพร้อมกันนี้สามารถเพิ่มความเข้าใจและการจดจำสำหรับผู้ใช้หลายคน

Cliff Weitzman

คลิฟ ไวซ์แมน

คลิฟ ไวซ์แมน เป็นผู้สนับสนุนด้านดิสเล็กเซียและเป็น CEO และผู้ก่อตั้ง Speechify แอปพลิเคชันแปลงข้อความเป็นเสียงอันดับ 1 ของโลก ที่มีรีวิว 5 ดาวมากกว่า 100,000 รีวิว และครองอันดับหนึ่งใน App Store ในหมวดข่าวและนิตยสาร ในปี 2017 ไวซ์แมนได้รับการยกย่องในรายชื่อ Forbes 30 under 30 จากผลงานของเขาในการทำให้อินเทอร์เน็ตเข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องในการเรียนรู้ คลิฟ ไวซ์แมน ได้รับการนำเสนอใน EdSurge, Inc., PC Mag, Entrepreneur, Mashable และสื่อชั้นนำอื่น ๆ