1. หน้าแรก
  2. เพิ่มประสิทธิภาพ
  3. เครื่องมือบริหารเวลา

เครื่องมือบริหารเวลา

Cliff Weitzman

Cliff Weitzman

ซีอีโอ/ผู้ก่อตั้ง Speechify

#1 โปรแกรมอ่านข้อความเป็นเสียง
ให้ Speechify อ่านให้คุณฟัง

apple logoรางวัล Apple Design Award 2025
ผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านคน

การจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพเป็นความท้าทายใหญ่ทั้งในชีวิตการเรียนและการทำงาน โชคดีที่ตอนนี้มีเครื่องมือต่าง ๆ ออกแบบมาเพื่อทำให้การจัดตารางเวลา การจัดระเบียบ และการจดจ่อทำได้ง่ายกว่าที่เคย ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเรียนที่ต้องรับมือกับตารางเรียนและเดดไลน์ หรือมืออาชีพที่ต้องดูแลโครงการซับซ้อน บทความนี้รวบรวมเครื่องมือ แอป และแพลตฟอร์มบริหารเวลาชั้นนำที่จะช่วยปรับปรุงการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพ และลดความเครียด. 

Speechify

Speechify ไม่ใช่แอปบริหารเวลาโดยตรง แต่ช่วยประหยัดเวลาได้มากด้วยการเปลี่ยนงานอ่านให้เป็นการฟัง แทนที่จะใช้เวลาหลายชั่วโมงอ่านเอกสารหรืออีเมล ผู้ใช้สามารถอัปโหลดไฟล์หรือคัดลอกข้อความแล้วฟังระหว่างเดินทาง ด้วยกว่า 1,000 เสียงAIเหมือนจริงในกว่า60+ ภาษาและการควบคุมความเร็วในการเล่นเสียงSpeechify ทำให้การมัลติทาสก์ เป็นเรื่องง่าย สำหรับมืออาชีพที่งานล้นและนักเรียน มันคือผู้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพที่เปลี่ยนการอ่านให้เป็นประสบการณ์แบบแฮนด์ฟรีและได้สาระ

Trello

Trello เป็นแพลตฟอร์มการจัดการโครงการเชิงภาพที่ทำงานด้วยกระดาน รายการ และการ์ด ช่วยให้ผู้ใช้วางแผนและจัดระเบียบโครงการ ติดตามความคืบหน้า และทำงานร่วมกับทีม แต่ละการ์ดแทนงานที่สามารถติดป้าย ใส่สี และกำหนดวันครบกำหนดหรือเช็กลิสต์ได้ อินเทอร์เฟซแบบลากแล้ววางทำให้ง่ายต่อการจัดลำดับความสำคัญของงานและเห็นความคืบหน้าได้ทันที ความเรียบง่ายและความยืดหยุ่นของTrello ทำให้เหมาะสำหรับการจัดการกำหนดเวลา มอบหมายความรับผิดชอบ และพาโครงการระยะยาวให้อยู่ตามแผน

MindTools

MindTools มีคลังทรัพยากร กรอบงาน และเครื่องมือออนไลน์มากมายที่ช่วยให้ผู้ใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพ การจัดระเบียบ และการตัดสินใจ รวมถึงเทมเพลตการจัดการเวลา เทคนิคการจัดลำดับความสำคัญ การอบรมภาวะผู้นำ และกลยุทธ์การโฟกัส แทนที่จะเป็นแอปจัดตารางเวลาMindTools ทำหน้าที่เป็นแหล่งทรัพยากรพัฒนาตนเอง สอนให้ผู้ใช้จัดการปริมาณงานได้อย่างมีประสิทธิผล และเพิ่มการรับรู้เรื่องเวลา รวมถึงวินัยในตัวเองให้แกร่งขึ้น. 

Clockify

Clockify เป็นเครื่องมือติดตามเวลาที่ช่วยให้ทั้งบุคคลและทีมรู้ว่าใช้เวลาไปกับงานและโครงการอย่างไร ผู้ใช้สามารถเริ่มและหยุดตัวจับเวลา จัดหมวดหมู่งาน และดูรายงานเวลาแบบละเอียดเพื่อหาจุดที่เสียเวลา สำหรับฟรีแลนซ์ ช่วยให้ออกบิลได้สะดวกขึ้นด้วยการสร้างไทม์ชีตของงานให้อัตโนมัติ สำหรับพนักงานและนักเรียน ช่วยสร้างความรับผิดชอบและทำให้เห็นชัดว่าแต่ละวันเวลาไหลไปกับอะไร ด้วยข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับประสิทธิภาพ Clockify ช่วยให้ผู้ใช้ตัดสินใจเรื่องการจัดตารางเวลาและการจดจ่อได้ดีขึ้น

Todoist

Todoist เป็นแอปรายการสิ่งที่ต้องทำและประสิทธิภาพ ที่ช่วยให้ผู้ใช้รวบรวมงาน จัดระเบียบ และจัดลำดับความสำคัญของงานได้ มีการเตือนซ้ำ โปรเจกต์ใส่สี และการติดตามความคืบหน้า ทั้งหมดเข้าถึงได้ข้ามอุปกรณ์ มุมมอง “วันนี้” และ “กำลังจะมาถึง” ทำให้ง่ายต่อการวางแผนเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว ด้วยการเชื่อมต่อกับ Google Calendar, Outlook และ SlackTodoist เติมโครงสร้างและความชัดเจนให้วันทำงานที่วุ่นวาย สำหรับคนที่ต้องรับผิดชอบหลายบทบาท ความเรียบง่ายของมันช่วยแปลงลิสต์งานที่ดูท่วมท้นให้กลายเป็นแผนประจำวันที่ทำได้จริง

Toggl Track

Toggl Track ช่วยให้ผู้ใช้มองออกว่าใช้เวลาไปกับอะไร ด้วยการติดตามเวลาอัตโนมัติและรายงาน ประสิทธิภาพการทำงาน แบบละเอียด อินเทอร์เฟซเรียบง่ายทำให้เริ่มและหยุดตัวจับเวลาได้รวดเร็ว ไม่ยุ่งยาก Toggl ยังมีกราฟภาพรวมให้เห็นว่าแบ่งเวลาไปที่ไหน ซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับฟรีแลนซ์ ทีม และ นักเรียน ที่ต้องรับมือหลายโปรเจกต์ พร้อมทั้งการแจ้งเตือน การตรวจจับการพัก และการผสานรวมกับแอปอย่าง Asana และ Trello, Toggl Track ทำให้การติดตามเวลากลายเป็นส่วนหนึ่งของเวิร์กโฟลว์ของคุณได้อย่างแนบเนียน

Sunsama

Sunsama เป็นแอปวางแผนประจำวันที่ผสานการจัดการงาน การกำหนดตารางเวลา และการบล็อกเวลาไว้ในพื้นที่ทำงานเดียว ช่วยให้ผู้ใช้วางแผนปริมาณงานประจำวันที่พอดีและทำได้จริง โดยลากงานจากเครื่องมือต่างๆ (เช่น Gmail, Asana หรือ Trello) ลงในมุมมองปฏิทินโดยตรง Sunsama ชวนให้วางแผนอย่างมีจุดหมาย และทบทวนตอนต้น-ท้ายวัน ช่วยลดความเสี่ยงของการหมดไฟ โฟกัสเรื่อง ประสิทธิภาพการทำงาน จึงเหมาะกับคนที่อยากทำงานให้ฉลาดขึ้นโดยไม่รู้สึกล้นมือ

My Hours

My Hours เป็นเครื่องมือติดตามเวลาและรายงานที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ออกแบบมาสำหรับมืออาชีพและทีมที่ต้องการจัดการโปรเจกต์อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้ใช้บันทึกเวลา สร้างรายงานโปรเจกต์โดยละเอียด และวิเคราะห์การกระจายชั่วโมงงานตามลูกค้าหรือกิจกรรม ด้วยคุณสมบัติการแท็ก การตั้งงบประมาณ และการออกใบแจ้งหนี้ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับฟรีแลนซ์หรือธุรกิจที่คิดค่าบริการตามชั่วโมง My Hours ทำให้ผู้ใช้เห็นภาพชัดเจนว่าเวลาไหลไปที่ไหน ช่วยให้ปรับปรุง ประสิทธิภาพการทำงาน ควบคู่ไปกับกำไร

Hubstaff

Hubstaff เป็นเครื่องมือติดตามเวลาทำงานและจัดการ ประสิทธิภาพการทำงาน สำหรับทีมและธุรกิจที่ทำงานระยะไกล ใช้ติดตามเวลา ตรวจสอบระดับกิจกรรม และจับภาพหน้าจอแบบเลือกเปิด เพื่อเพิ่มความรับผิดชอบ Hubstaff ยังมีฟีเจอร์ GPS และการจัดการโปรเจกต์ เหมาะกับทีมเคลื่อนที่หรือพนักงานภาคสนาม สำหรับผู้จัดการ จะได้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้ม ประสิทธิภาพการทำงาน และต้นทุนโปรเจกต์ ฟีเจอร์อัตโนมัติอย่างการจ่ายเงินเดือนและรายงาน ทำให้เป็นเครื่องมือครบวงจรสำหรับจัดการทั้งเวลาและประสิทธิภาพ

Asana

Asana เป็นแพลตฟอร์มจัดการโปรเจกต์และประสานงานเวิร์กโฟลว์สำหรับทีมทุกขนาด ช่วยให้ผู้ใช้แยกโปรเจกต์เป็นงานย่อย มอบหมายความรับผิดชอบ ตั้งเส้นตาย และติดตามความคืบหน้าผ่านไทม์ไลน์และบอร์ดภาพ ฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การติดตามเป้าหมาย ความสัมพันธ์ระหว่างงาน และการผสานรวมกับเครื่องมือ ประสิทธิภาพการทำงาน หลายร้อยรายการ (Slack, Google Drive, Zoom) ทำให้เหมาะกับการทำงานร่วมกัน Asana ช่วยให้ทุกคนรู้ว่าต้องทำอะไร เมื่อไหร่ และงานของตนมีส่วนกับภาพรวมอย่างไร ช่วยให้โปรเจกต์เดินหน้าไม่สะดุด

FAQ

มีเครื่องมือจัดการเวลาอะไรบ้างที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ดีที่สุด?

เครื่องมือจัดการเวลายอดนิยม ได้แก่ Speechify, Trello, Todoist และ Sunsama ส่วน Speechify ช่วยประหยัดเวลา เปลี่ยนงานอ่านยาว ๆ ให้กลายเป็นการฟังแบบแฮนด์ฟรีได้รวดเร็ว

Speechify ช่วยจัดการเวลาได้อย่างไร?

Speechify แปลงข้อความจาก อีเมล รายงาน และ บทความ ให้เป็น เสียง AI ที่สมจริง เพื่อให้ผู้ใช้ทำหลายอย่างไปพร้อมกันและรักษาประสิทธิภาพได้ตลอดวัน

อะไรทำให้ Speechify มีประโยชน์สำหรับมืออาชีพที่งานล้นมือ?

แค่เปลี่ยนจากอ่านเป็นฟัง Speechify ก็ช่วยให้มืออาชีพได้เวลาคืนหลายชั่วโมงที่เคยต้องใช้ไปกับ เอกสาร และ อีเมล.

Speechify ช่วยลดความเครียดในวันทำงานได้ไหม?

แน่นอน, Speechify ช่วยลดภาระทางจิตใจด้วยการให้ผู้ใช้รับข้อมูลผ่านการฟัง ทำให้ชีวิตประจำวันสมดุลขึ้น

มีเครื่องมือจัดการเวลาอะไรบ้างที่ติดตามชั่วโมงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ?

Clockify, Toggl Track และ My Hours ทำให้การติดตามเวลาเป็นเรื่องง่ายขึ้น. 

เพลิดเพลินกับเสียง AI ที่ล้ำสมัยที่สุด ไฟล์ไม่จำกัด และการสนับสนุนตลอด 24/7

ทดลองฟรี
tts banner for blog

แชร์บทความนี้

Cliff Weitzman

Cliff Weitzman

ซีอีโอ/ผู้ก่อตั้ง Speechify

คลิฟฟ์ ไวท์ซ์แมน เป็นผู้ขับเคลื่อนสิทธิผู้มีภาวะดิสเล็กเซีย และดำรงตำแหน่งซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Speechify แอปแปลงข้อความเป็นเสียงอันดับ 1 ของโลก ที่กวาดรีวิว 5 ดาวกว่า 100,000 รายการ และเคยครองอันดับ 1 ใน App Store หมวดข่าวสารและนิตยสาร ในปี 2017 ไวท์ซ์แมนติดโผ Forbes 30 Under 30 จากผลงานผลักดันให้โลกออนไลน์เข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับผู้มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ผลงานของคลิฟฟ์ ไวท์ซ์แมนถูกกล่าวถึงในสื่อชั้นนำอย่าง EdSurge, Inc., PC Mag, Entrepreneur, Mashable และอีกมากมาย

speechify logo

เกี่ยวกับ Speechify

#1 โปรแกรมอ่านข้อความเป็นเสียง

Speechify เป็นแพลตฟอร์ม แปลงข้อความเป็นเสียง ชั้นนำของโลกที่มีผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านคน และได้รับรีวิวระดับ 5 ดาวมากกว่า 500,000 รีวิวในแอปพลิเคชัน iOS, Android, Chrome Extension, เว็บแอป และ แอปบน Mac ในปี 2025 Apple ได้มอบรางวัล Apple Design Award อันทรงเกียรติให้กับ Speechify ในงาน WWDC โดยกล่าวว่าเป็น “ทรัพยากรสำคัญที่ช่วยให้ผู้คนใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น” Speechify มีเสียงธรรมชาติกว่า 1,000 เสียงใน 60+ ภาษา และมีผู้ใช้งานในเกือบ 200 ประเทศ เสียงคนดังที่มีให้เลือกใช้งาน เช่น Snoop Dogg, Mr. Beast และ Gwyneth Paltrow สำหรับผู้สร้างสรรค์และธุรกิจ Speechify Studio มีเครื่องมือขั้นสูง เช่น AI Voice Generator, AI Voice Cloning, AI Dubbing และ AI Voice Changer Speechify ยังสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชั้นนำด้วย Text to Speech API ที่มีคุณภาพสูงและคุ้มค่า นอกจากนี้ยังได้รับการนำเสนอใน The Wall Street Journal, CNBC, Forbes, TechCrunch และสื่อชั้นนำอื่น ๆ Speechify เป็นผู้ให้บริการแปลงข้อความเป็นเสียงที่ใหญ่ที่สุดในโลก เยี่ยมชม speechify.com/news, speechify.com/blog และ speechify.com/press เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม