1. หน้าหลัก
  2. TTS
  3. Speech_to_Text ^6.1.1: พลิกโฉมการสื่อสารยุคดิจิทัล
TTS

Speech_to_Text ^6.1.1: พลิกโฉมการสื่อสารยุคดิจิทัล

Cliff Weitzman

Cliff Weitzman

ซีอีโอ/ผู้ก่อตั้ง Speechify

#1 โปรแกรมอ่านข้อความเป็นเสียง
ให้ Speechify อ่านให้คุณฟัง

apple logoรางวัล Apple Design Award 2025
ผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านคน

Speech_to_Text ^6.1.1 represents a groundbreaking advancement in speech recognition technology. This article delves into its multifaceted features, showcasing how it's transforming user experiences across various platforms.

Speech_to_Text คืออะไร?

เป็นเครื่องมือทรงพลังสำหรับแปลงคำพูดเป็นข้อความ เวอร์ชัน 6.1.1 เพิ่มทั้งความแม่นยำและความเร็ว ทำให้เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย

การตั้งค่า: เริ่มต้นใช้งาน

การติดตั้ง Dependencies และการเริ่มต้นใช้งาน

ขั้นตอนติดตั้งคือเพิ่ม dependencies ที่ต้องใช้ลงในไฟล์โครงการของคุณ pubspec.yaml และเริ่มต้นใช้งาน SDK ในโค้ดของคุณ การตั้งค่านี้จำเป็นทั้งบน iOS และ Android เพื่อให้การผสานรวมลื่นไหล

การกำหนดค่าและสิทธิ์การใช้งาน

การกำหนดค่า Speech_to_Text ^6.1.1 จำเป็นต้องตั้งค่า configurations และ permissions ในแอปของคุณ เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของแต่ละแพลตฟอร์ม เช่น การเข้าถึงไมโครโฟน

คุณสมบัติหลักและการทำงาน

ถอดเสียงแบบเรียลไทม์และการทำงานแบบอะซิงก์

เครื่องมือนี้โดดเด่นเรื่องการถอดเสียงแบบเรียลไทม์ ฟังก์ชัน async ช่วยให้การทำงานไม่บล็อกเธรด ซึ่งสำคัญต่อการคงประสบการณ์ผู้ใช้ที่ลื่นไหล

APIs และโมดูล

Speech_to_Text ^6.1.1 มาพร้อมชุด APIs และ modules ที่ครบเครื่อง นักพัฒนาสามารถนำไปสร้างฟีเจอร์รู้จำเสียงที่เชื่อถือได้ในแอปของตน

การผสานรวมและการใช้งาน

การผสานรวมบน Android และ iOS

ขั้นตอนการผสานรวมแตกต่างกันเล็กน้อยระหว่าง Android และ iOS โดยมี plugins และ SDKs เฉพาะสำหรับแต่ละแพลตฟอร์ม ส่วนนี้มีคู่มือแบบทีละขั้นตอนสำหรับทั้งสองแพลตฟอร์ม

HTML และแอปเว็บ

นอกจากมือถือแล้ว Speech_to_Text ^6.1.1 ยังสามารถผสานเข้ากับแอปเว็บผ่าน HTML และ JavaScript ได้ ช่วยขยายขอบเขตการใช้งานให้กว้างยิ่งขึ้น

ฟีเจอร์ขั้นสูง

การรองรับหลายภาษาและ Locale

เครื่องมือนี้รองรับหลายภาษาและหลากหลาย locale (`en-us`, en-uk เป็นต้น) ทำให้ยืดหยุ่นต่อการใช้งานในแอประดับสากล

การปรับแต่งและการขยาย

นักพัฒนาสามารถปรับแต่งเครื่องมือนี้โดยใช้ผลงานโอเพนซอร์ซจาก GitHub และ pub.dev เพื่อขยายและต่อยอดความสามารถ

แง่มุมทางเทคนิค

ทำความเข้าใจกับอัลกอริทึมและ SRC

เจาะลึกถึง algorithms และซอร์สโค้ด (`src`) ที่ขับเคลื่อน Speech_to_Text ^6.1.1 เพื่อให้เห็นภาพทางเทคนิคเกี่ยวกับการทำงานของการรู้จำเสียง

เมตาดาทาและการทำคำอธิบายประกอบ

เรียนรู้การใช้ metadata และ annotation เพื่อเติมบริบทให้การถอดเสียง มีความหมายและใช้งานได้จริงยิ่งขึ้น

การใช้งานจริงและกรณีใช้งาน

### 5 อันดับการใช้งานจริงและกรณีใช้งานสำหรับการแปลงข้อความเป็นเสียง

ฟีเจอร์การเข้าถึงในแอปบนมือถือ (iOS และ Android):

กรณีใช้งาน: ยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ที่มีความบกพร่องทางการมองเห็น ด้วยการอ่านเนื้อหาในแอปให้ฟัง

การดำเนินการ: นักพัฒนาจะใช้ TTS SDK และ API เพื่อเรียกใช้งานการสังเคราะห์เสียงในแอป สำหรับ iOS อาจต้องใช้ Swift เพื่อ override เมธอดบางส่วนของฟีเจอร์การเข้าถึง ส่วนฝั่ง Android ใช้ Java หรือ Kotlin ก็ได้ ไลบรารีโอเพนซอร์สที่มีบน GitHub หรือ pub.dev สามารถเพิ่มเข้าไฟล์ pubspec.yaml ของโปรเจกต์ได้เลย

แพลตฟอร์มอีเลิร์นนิงและคอร์สออนไลน์:

กรณีใช้งาน: แปลงสื่อการเรียนรู้ดิจิทัลเป็นเสียง เพื่อให้เข้าถึงและรับฟังได้สะดวก

การดำเนินการ: แพลตฟอร์มอีเลิร์นนิงมักเชื่อม TTS API เพื่อสังเคราะห์ข้อความดิจิทัล (เช่น เนื้อหา HTML) เป็นเสียง ฟีเจอร์นี้มักเพิ่มผ่านปลั๊กอินหรือโมดูล ช่วยยกระดับประสบการณ์เรียนรู้ โดยเฉพาะผู้เรียนภาษาอังกฤษหรือผู้ที่มีปัญหาในการอ่าน การจัดการ dependencies ของฟีเจอร์เหล่านี้มักตั้งค่าไว้ในไฟล์ YAML หรือ JSON

ผู้ช่วยและบอตที่รองรับเสียง:

กรณีใช้งาน: ใส่ความสามารถจดจำเสียงและตอบกลับด้วยเสียงลงในผู้ช่วยเสมือน

การดำเนินการ: แอปเหล่านี้ใช้ SDK การรู้จำเสียงควบคู่กับอัลกอริทึม TTS เพื่อประมวลผลคำสั่งผู้ใช้ (รองรับโลเคลต่าง ๆ เช่น en-us) และตอบกลับด้วยเสียง ฟีเจอร์แบบ async ช่วยให้โต้ตอบได้แบบเรียลไทม์ ระบบส่วนมากรันบนเซิร์ฟเวอร์ Linux นักพัฒนามักอ้างอิงเอกสารทางการและบทแนะนำเพื่อให้ติดตั้งใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บริการและเครื่องมือถอดความ:

กรณีใช้งาน: ถอดคำพูดเป็นข้อความแบบเรียลไทม์สำหรับการประชุม บรรยาย ฯลฯ

การดำเนินการ: เครื่องมือเหล่านี้ใช้ API แบบพูด-เป็น-ข้อความเพื่อแปลงภาษาพูดเป็นตัวอักษร พร้อมจัดการสิทธิ์เข้าถึงไมโครโฟน และใช้ตัวจดจำขั้นสูงรองรับสำเนียงและภาษาต่าง ๆ การถอดความมักแนบ metadata และ annotation ซึ่งบางครั้งจัดรูปแบบเป็น XML เพื่อเพิ่มความแม่นยำและบริบทของข้อความ

เครื่องมือพัฒนาและทดสอบการรู้จำเสียง:

กรณีใช้งาน: ทดสอบและพัฒนาแอปการรู้จำเสียง

การดำเนินการ: เครื่องมือเหล่านี้มักใช้ SDK จากบริษัทอย่าง IBM สำหรับ ASR (Automatic Speech Recognition) นักพัฒนามักพึ่งซิมูเลเตอร์เพื่อทดสอบ ซึ่งอาจต้อง override การตั้งค่าและสถานะเริ่มต้น (เช่น isListening) กระบวนการพัฒนาครอบคลุมการจัดการ dependencies และการตั้งค่าในไฟล์ YAML พร้อมเครื่องมือโอเพนซอร์สให้เลือกมากมายบน GitHub การตั้งค่า locale ก็สำคัญต่อการทดสอบแอปในภาษาและภูมิภาคต่าง ๆ

ในแต่ละแอปพลิเคชันเหล่านี้ หัวใจสำคัญคือการผสานเทคโนโลยี TTS และการรู้จำเสียงขั้นสูงอย่างไร้รอยต่อ เพื่อยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ โดยมักอาศัยทรัพยากรโอเพนซอร์สและเอกสารครบถ้วนที่หาได้บนแพลตฟอร์มอย่าง GitHub และ pub.dev.

Speechify Text to Speech

ค่าใช้จ่าย: ทดลองใช้ได้ฟรี

Speechify Text to Speech เป็นเครื่องมือที่พลิกโฉมวิธีเข้าถึงเนื้อหาข้อความ ด้วยเทคโนโลยีแปลงข้อความเป็นเสียงขั้นสูง Speechify เปลี่ยนข้อความให้เป็นเสียงพูดที่สมจริง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้มีภาวะบกพร่องด้านการอ่าน ผู้พิการทางการมองเห็น หรือผู้ที่ชอบเรียนรู้ผ่านการฟัง ความยืดหยุ่นสูงช่วยให้เชื่อมกับอุปกรณ์และแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้อย่างลื่นไหล มอบอิสระให้ผู้ใช้ฟังได้ทุกที่ทุกเวลา

5 ฟีเจอร์เด่นของ Speechify TTS:

เสียงคุณภาพสูง: Speechify มีเสียงหลายภาษา ฟังเป็นธรรมชาติ ใกล้เคียงเสียงคนจริง ให้ประสบการณ์การฟังลื่นไหล เข้าใจง่าย และอินกับเนื้อหาได้มากขึ้น

การผสานรวมที่ราบรื่น: Speechify ทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มและอุปกรณ์หลากหลาย เช่น เว็บเบราว์เซอร์ สมาร์ทโฟน ฯลฯ ผู้ใช้จึงแปลงข้อความจากเว็บไซต์ อีเมล PDF และแหล่งต่างๆ เป็นเสียงได้รวดเร็วทันใจ

ควบคุมความเร็ว: ผู้ใช้ปรับความเร็วการเล่นได้ตามใจ จะไล่เนื้อหาเร็วๆ หรือฟังช้าๆ แบบละเอียดก็ได้

การฟังแบบออฟไลน์: จุดเด่นอย่างหนึ่งของ Speechify คือบันทึกและฟังข้อความที่แปลงแล้วแบบออฟไลน์ได้ ทำให้เข้าถึงเนื้อหาได้ต่อเนื่องแม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต

การเน้นข้อความ: ขณะอ่านออกเสียง Speechify จะไฮไลต์ส่วนที่กำลังอ่านอยู่ ช่วยให้ผู้ใช้ติดตามด้วยสายตาได้ง่าย เมื่อได้ทั้งภาพและเสียงพร้อมกัน ก็ช่วยให้หลายคนเข้าใจและจดจำได้ดีขึ้น

### คำถามที่พบบ่อย

#### ใช้ speech to text ใน Flutter ทำยังไง?

ในการใช้งาน speech to text ใน Flutter ให้เพิ่มแพ็กเกจ speech_to_text จาก pub.dev ลงใน pubspec.yaml จากนั้นเริ่มต้นตัวจดจำเสียงในแอป Flutter ของคุณ ขอ permissions สำหรับไมโครโฟน แล้วใช้เมธอดของแพ็กเกจเพื่อเริ่มฟังและรับผลการถอดเสียง

#### ใช้ speech to text บน Android ยังไง?

บน Android คุณใช้ได้ทั้งความสามารถรู้จำเสียงของระบบหรือผสานไลบรารีภายนอก หากทำแบบเนทีฟ ให้เพิ่ม permissions ที่จำเป็นใน AndroidManifest.xml สร้างและตั้งค่า SpeechRecognizer แล้วจัดการคอลแบ็กแบบ async เพื่อรับข้อความถอดเสียง ส่วนไลบรารีภายนอก ให้ทำตามขั้นตอนการผสานรวมของแต่ละตัว

#### ใช้ text to speech (TTS) ใน Flutter ยังไง?

ใน Flutter ใช้ text to speech (TTS) ได้ผ่านแพ็กเกจ flutter_tts เพิ่มลงใน pubspec.yaml สร้างอินสแตนซ์ TTS แล้วเรียกเมธอด speak เพื่อสังเคราะห์เสียง ปรับภาษา พิตช์ และระดับเสียงได้ตามต้องการ

#### ผู้ช่วยเสียงใน Flutter คืออะไร?

ผู้ช่วยเสียงใน Flutter คือแอปหรือฟีเจอร์ที่ใช้เทคโนโลยีการรู้จำเสียงและ text to speech (TTS) ให้ผู้ใช้โต้ตอบกับแอปด้วยคำสั่งเสียง สามารถสร้างได้ด้วยปลั๊กอินของ Flutter อย่าง speech_to_text สำหรับรับเสียงเข้า และ flutter_tts สำหรับตอบกลับด้วยเสียง

#### เพิ่มการค้นหาด้วยเสียงใน Flutter ยังไง?

ในการเพิ่มการค้นหาด้วยเสียงในแอป Flutter ให้ผสานรวมปลั๊กอิน speech_to_text เพื่อจับคำพูด ตั้งค่าฟังก์ชันการค้นหาที่ทำงานเมื่อการรู้จำเสียงเสร็จสิ้น แล้วนำข้อความที่ถอดเสียงไปใช้ค้นหาภายในแอป

#### ความแตกต่างระหว่าง speech to text กับ text to speech คืออะไร?

Speech to text (STT) คือการแปลงคำพูดเป็นข้อความ ใช้สำหรับการถอดเสียงและสั่งงานด้วยเสียง ส่วน text to speech (TTS) คือการเปลี่ยนข้อความเป็นเสียง ใช้กับแอปอย่างหน้าจออ่านหรือผู้ช่วยเสียง

#### มีคีย์บอร์ด speech to text สำหรับ Android ไหม?

ใช่ อุปกรณ์ Android ส่วนใหญ่มาพร้อมฟีเจอร์แปลงเสียงเป็นข้อความในแป้นพิมพ์อยู่แล้ว ผู้ใช้สามารถแตะไอคอนไมโครโฟนบนแป้นพิมพ์เพื่อพูดแทนการพิมพ์ได้ นอกจากนี้ แอปแป้นพิมพ์จากผู้พัฒนารายอื่นก็รองรับการแปลงเสียงเป็นข้อความเช่นกัน

#### Speech-to-Text API ใน Flutter คืออะไร?

Speech-to-Text API ใน Flutter มีให้ใช้งานผ่านแพ็กเกจของบุคคลที่สาม เช่น speech_to_text บน pub.dev API เหล่านี้ช่วยให้นักพัฒนา Flutter ผสานฟังก์ชันรู้จำเสียงเข้าในแอปได้ รองรับฟีเจอร์อย่างคำสั่งเสียงและการถอดเสียงเป็นข้อความ

เพลิดเพลินกับเสียง AI ที่ล้ำสมัยที่สุด ไฟล์ไม่จำกัด และการสนับสนุนตลอด 24/7

ทดลองฟรี
tts banner for blog

แชร์บทความนี้

Cliff Weitzman

Cliff Weitzman

ซีอีโอ/ผู้ก่อตั้ง Speechify

คลิฟฟ์ ไวท์ซ์แมน เป็นผู้ขับเคลื่อนสิทธิผู้มีภาวะดิสเล็กเซีย และดำรงตำแหน่งซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Speechify แอปแปลงข้อความเป็นเสียงอันดับ 1 ของโลก ที่กวาดรีวิว 5 ดาวกว่า 100,000 รายการ และเคยครองอันดับ 1 ใน App Store หมวดข่าวสารและนิตยสาร ในปี 2017 ไวท์ซ์แมนติดโผ Forbes 30 Under 30 จากผลงานผลักดันให้โลกออนไลน์เข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับผู้มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ผลงานของคลิฟฟ์ ไวท์ซ์แมนถูกกล่าวถึงในสื่อชั้นนำอย่าง EdSurge, Inc., PC Mag, Entrepreneur, Mashable และอีกมากมาย

speechify logo

เกี่ยวกับ Speechify

#1 โปรแกรมอ่านข้อความเป็นเสียง

Speechify เป็นแพลตฟอร์ม แปลงข้อความเป็นเสียง ชั้นนำของโลกที่มีผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านคน และได้รับรีวิวระดับ 5 ดาวมากกว่า 500,000 รีวิวในแอปพลิเคชัน iOS, Android, Chrome Extension, เว็บแอป และ แอปบน Mac ในปี 2025 Apple ได้มอบรางวัล Apple Design Award อันทรงเกียรติให้กับ Speechify ในงาน WWDC โดยกล่าวว่าเป็น “ทรัพยากรสำคัญที่ช่วยให้ผู้คนใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น” Speechify มีเสียงธรรมชาติกว่า 1,000 เสียงใน 60+ ภาษา และมีผู้ใช้งานในเกือบ 200 ประเทศ เสียงคนดังที่มีให้เลือกใช้งาน เช่น Snoop Dogg, Mr. Beast และ Gwyneth Paltrow สำหรับผู้สร้างสรรค์และธุรกิจ Speechify Studio มีเครื่องมือขั้นสูง เช่น AI Voice Generator, AI Voice Cloning, AI Dubbing และ AI Voice Changer Speechify ยังสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชั้นนำด้วย Text to Speech API ที่มีคุณภาพสูงและคุ้มค่า นอกจากนี้ยังได้รับการนำเสนอใน The Wall Street Journal, CNBC, Forbes, TechCrunch และสื่อชั้นนำอื่น ๆ Speechify เป็นผู้ให้บริการแปลงข้อความเป็นเสียงที่ใหญ่ที่สุดในโลก เยี่ยมชม speechify.com/news, speechify.com/blog และ speechify.com/press เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม