1. หน้าแรก
  2. เพิ่มประสิทธิภาพ
  3. แปลเสียงเป็นภาษาอังกฤษ: คู่มือฉบับสมบูรณ์
เพิ่มประสิทธิภาพ

แปลเสียงเป็นภาษาอังกฤษ: คู่มือฉบับสมบูรณ์

อุปสรรคทางภาษาอาจเป็นความท้าทายสำคัญเมื่อจัดการกับเนื้อหาเสียงในภาษาต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นภาษาสเปน ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี...

Cliff Weitzman

คลิฟ ไวซ์แมน

ซีอีโอ/ผู้ก่อตั้ง Speechify

#1 โปรแกรมอ่าน Text to Speech.
ให้ Speechify อ่านให้คุณฟัง

รางวัลออกแบบ Apple 2025
ผู้ใช้กว่า 50 ล้านคน
ทดลองฟรี
ฟังบทความนี้ด้วย Speechify!
speechify logo

อุปสรรคทางภาษาอาจเป็นความท้าทายสำคัญเมื่อจัดการกับเนื้อหาเสียงในภาษาต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นภาษาสเปน ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี โปรตุเกส ดัตช์ รัสเซีย ญี่ปุ่น อาหรับ ฮินดี โปแลนด์ ตุรกี ฟินแลนด์ โรมาเนีย เกาหลี นอร์เวย์ อินโดนีเซีย ทมิฬ หรือไทย คุณอาจพบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องแปลเนื้อหาเสียงเป็นภาษาอังกฤษ ข่าวดีคือมีหลายวิธีในการแปลไฟล์เสียง ไม่ว่าจะเป็นพอดแคสต์ ไฟล์วิดีโอ บทเรียน หรือแม้แต่การบันทึกเสียงจากโซเชียลมีเดีย

การแปลไฟล์เสียงเป็นภาษาอังกฤษ

ไม่ว่าจะเป็นจาก iPhone ไฟล์ .wav หรือรูปแบบอื่น ๆ การแปลไฟล์เสียงเป็นภาษาอังกฤษมักจะมีสองขั้นตอน: การถอดความ (เปลี่ยนเสียงพูดเป็นข้อความ) และการแปล (แปลข้อความที่ถอดความแล้วเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่น)

คุณสามารถใช้เทคโนโลยีการรู้จำเสียงพูดเพื่อถอดความเนื้อหาเสียง หลังจากนั้นใช้บริการแปลข้อความเพื่อแปลการถอดความ ผลลัพธ์สุดท้ายสามารถบันทึกในรูปแบบต่าง ๆ เช่น .srt สำหรับคำบรรยายหรือ .txt สำหรับเอกสารข้อความธรรมดา

มีวิธีแปลไฟล์เสียงหรือไม่?

ใช่ มีวิธี แปลไฟล์เสียง แม้ว่าจะมักจะเป็นกระบวนการสองขั้นตอน:

  1. การถอดความ: ขั้นตอนแรกคือการเปลี่ยนเนื้อหาเสียงเป็นข้อความที่เขียนได้ ซึ่งสามารถทำได้ผ่านบริการหรือซอฟต์แวร์ถอดความหลายแห่ง หลายแห่งใช้เทคโนโลยีการรู้จำเสียงพูดที่ซับซ้อนเพื่อเปลี่ยนคำพูดให้เป็นข้อความได้อย่างแม่นยำ บริการเหล่านี้รวมถึง Rev, Trint และ Temi หรือคุณสามารถใช้บริการถอดความในซอฟต์แวร์เช่น Microsoft Word หรือ Google Docs
  2. การแปล: เมื่อเสียงถูกถอดความแล้ว ข้อความที่ได้สามารถแปลเป็นภาษาที่ต้องการได้ ซึ่งสามารถทำได้ด้วยตนเองโดยนักแปลมืออาชีพ หรือคุณสามารถใช้ซอฟต์แวร์แปลอัตโนมัติเช่น Google Translate, DeepL หรือ Microsoft Translator

ยังมีแอปและซอฟต์แวร์หลายตัวที่ทำให้กระบวนการนี้ง่ายขึ้น โดยให้บริการถอดความและแปลในแพ็คเกจเดียว อย่างไรก็ตาม ควรจำไว้ว่าบริการอัตโนมัติเหล่านี้แม้จะพัฒนาขึ้น แต่ก็อาจไม่สามารถจับความหมายที่ละเอียดอ่อนของภาษา สำเนียง และบริบททางวัฒนธรรมได้อย่างสมบูรณ์ ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของไฟล์เสียงและความแม่นยำที่ต้องการ คุณอาจยังต้องพิจารณาบริการแปลมืออาชีพ

การใช้ Google Translate สำหรับไฟล์เสียง

คุณสามารถใช้ Google Translate สำหรับไฟล์เสียงได้ แต่ควรทราบว่านี่เป็นกระบวนการสองขั้นตอน Google Translate ไม่ได้แปลเนื้อหาเสียงโดยตรง คุณต้องถอดความเสียงก่อน จากนั้นคัดลอกและวางข้อความลงใน Google Translate แพลตฟอร์มนี้รองรับภาษาต่าง ๆ ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการลดอุปสรรคทางภาษา

ฉันจะแปลเสียงจาก iPhone เป็นภาษาอังกฤษได้อย่างไร?

การแปลเสียงจาก iPhone เป็นภาษาอังกฤษสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยแอปต่าง ๆ นี่คือขั้นตอนทั่วไปที่คุณต้องทำตาม:

  1. ดาวน์โหลดแอปแปลภาษา: มีแอปพลิเคชันหลายตัวที่ให้บริการแปลเสียง แอปเช่น iTranslate Voice, Microsoft Translator และ Google Translate สามารถดาวน์โหลดได้จาก App Store
  2. บันทึกหรืออัปโหลดเสียง: เมื่อคุณดาวน์โหลดและเปิดแอปที่เลือกแล้ว ให้มองหาตัวเลือกในการบันทึกหรืออัปโหลดเสียง หากคุณพยายามแปลการสนทนาสด ให้ใช้ตัวเลือกบันทึก หากคุณมีไฟล์เสียงที่เก็บไว้ในอุปกรณ์ของคุณ ให้เลือกตัวเลือกอัปโหลด
  3. ถอดความเสียง: หลังจากที่เสียงถูกบันทึกหรืออัปโหลดแล้ว แอปจะถอดความเสียงเป็นข้อความ กระบวนการนี้เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนภาษาพูดเป็นคำที่เขียนได้
  4. แปลข้อความ: เมื่อเสียงถูกถอดความแล้ว คุณสามารถแปลข้อความเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่น ๆ ที่แอปรองรับได้

จำไว้ว่าถึงแม้แอปเหล่านี้จะสะดวก แต่ก็อาจไม่สามารถจับความหมายที่ละเอียดอ่อนของภาษาได้อย่างสมบูรณ์ ความแม่นยำจะขึ้นอยู่กับความชัดเจนของเสียงและความซับซ้อนของภาษาเป็นหลัก สำหรับการแปลที่เป็นมืออาชีพหรือสำคัญ คุณอาจต้องพิจารณาใช้บริการแปลมืออาชีพ

ฉันจะได้เสียงภาษาอังกฤษจากไฟล์เสียงได้อย่างไร?

การได้เสียงภาษาอังกฤษจากไฟล์เสียงมักจะเกี่ยวข้องกับการถอดความเสียงเป็นข้อความและใช้ซอฟต์แวร์แปลงข้อความเป็นเสียงเพื่อสร้างเสียงภาษาอังกฤษ กระบวนการนี้อาจใช้เวลานานและมีหลายขั้นตอน แต่สามารถเป็นประโยชน์โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เรียนรู้ด้วยการมองเห็นหรือการฟัง นี่คือวิธีการทำ:

  1. การถอดความ: ขั้นแรก ถอดเสียงจากไฟล์เสียงเป็นข้อความ ขั้นตอนนี้สามารถทำได้ด้วยตนเอง (โดยการพิมพ์สิ่งที่ได้ยิน) หรืออัตโนมัติด้วยซอฟต์แวร์ถอดความ มีบริการและแอปพลิเคชันหลายตัว เช่น Temi, Trint หรือ Rev นอกจากนี้ ซอฟต์แวร์อย่าง Microsoft Word และ Google Docs ยังมีฟีเจอร์การพิมพ์ด้วยเสียงในตัว
  2. การแปล: เมื่อคุณมีข้อความที่ถอดความแล้ว คุณจะต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษโดยใช้บริการแปลภาษา Google Translate, DeepL และ Microsoft Translator เป็นเครื่องมือแปลอัตโนมัติที่ได้รับความนิยม
  3. ข้อความเป็นเสียง: หลังจากแปลข้อความเป็นภาษาอังกฤษแล้ว คุณสามารถเปลี่ยนข้อความที่เขียนกลับเป็นเสียงได้โดยใช้ซอฟต์แวร์ข้อความเป็นเสียง เช่น Google's Text-to-Speech, Microsoft's Azure Text to Speech และ Amazon's Polly เป็นตัวอย่างของบริการเหล่านี้

แม้ว่ากระบวนการนี้จะมีประโยชน์ แต่ควรจำไว้ว่าบริการอัตโนมัติอาจไม่สามารถจับความหมายที่ละเอียดอ่อนของภาษาต้นฉบับและการแปลได้อย่างสมบูรณ์ ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของภาษาและความต้องการความแม่นยำของคุณ คุณอาจต้องพิจารณาบริการแปลภาษามืออาชีพ

แอปแปลภาษาสำหรับเนื้อหาเสียง

มีแอปฟรีหลายตัวที่สามารถแปลเนื้อหาเสียงเป็นภาษาอังกฤษแบบเรียลไทม์ ทำให้กระบวนการราบรื่นยิ่งขึ้น ด้านล่างนี้คือซอฟต์แวร์หรือแอปแปดตัวที่ดีที่สุด พร้อมรายละเอียดสั้น ๆ เกี่ยวกับแต่ละตัว:

  1. Google Translate: เครื่องมือที่มีความหลากหลายสูงที่รองรับการแปลหลายภาษา รวมถึงการแปลเสียงเป็นข้อความแบบเรียลไทม์
  2. iTranslate Voice: แอปแปลภาษาแบบเรียลไทม์ที่แปลการบันทึกเสียงเป็นภาษาต่าง ๆ มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้ iOS
  3. Microsoft Translator: แอปฟรีที่ให้บริการแปลเสียงแบบเรียลไทม์ในหลายภาษา นอกจากนี้ยังมีบริการถอดความและรองรับการแปลข้อความ
  4. Speak & Translate: ตัวแปลเสียงและข้อความที่รองรับการแปลเสียงแบบเรียลไทม์มากกว่า 40 ภาษา ใช้ได้สำหรับ iOS
  5. Translate Now: แอปนี้มีบริการถอดความและแปลภาษามากกว่า 100 ภาษา ทำให้เหมาะสำหรับไฟล์เสียงหลากหลายประเภท
  6. SayHi Translate: แอปที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพในการแปลการบันทึกเสียงแบบเรียลไทม์ ใช้ได้ทั้ง iOS และ Android
  7. Transcriber for WhatsApp: แม้ออกแบบมาสำหรับบันทึกเสียงใน WhatsApp แต่แอปนี้สามารถถอดความและแปลเสียงในหลายภาษาได้
  8. Papago: พัฒนาโดย Naver แอปนี้เชี่ยวชาญในภาษาตะวันออกไกลแต่ยังรองรับภาษาอื่น ๆ ด้วย มีบริการแปลและถอดความแบบเรียลไทม์

ฉันสามารถแปลเสียงจากภาษาหนึ่งเป็นอีกภาษาหนึ่งได้หรือไม่?

ใช่ เป็นไปได้ที่จะทำการแปลเสียงจากภาษาหนึ่งเป็นอีกภาษาหนึ่ง โดยทั่วไปจะทำได้โดยการรวมสองขั้นตอน: การถอดความและการแปล นี่คือกระบวนการทั่วไป:

  1. การถอดความ: ขั้นแรก คำพูดในไฟล์เสียงต้องถูกแปลงเป็นข้อความ มีบริการถอดความหลายตัวที่สามารถทำได้ เช่น Rev, Trint และ Temi นอกจากนี้ Google Docs และ Microsoft Word ยังมีฟีเจอร์การพิมพ์ด้วยเสียงในตัว
  2. การแปล: หลังจากที่คุณมีข้อความที่ถอดความแล้ว คุณสามารถแปลเป็นภาษาอื่นได้ สามารถทำได้ด้วยตนเองโดยนักแปลมืออาชีพ หรือใช้เครื่องมือแปลอัตโนมัติเช่น Google Translate, DeepL หรือ Microsoft Translator

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีแอปหลายตัวที่ทำให้ขั้นตอนเหล่านี้ง่ายขึ้น โดยมีฟังก์ชันการถอดความและการแปลในตัว เช่น Microsoft Translator, Google Translate และ iTranslate Voice อย่างไรก็ตาม ควรจำไว้ว่าบริการแปลอัตโนมัติอาจไม่สามารถจับความหมายทางวัฒนธรรมหรือบริบทเฉพาะได้อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะกับภาษาหรือสำเนียงที่ซับซ้อน สำหรับการแปลที่สำคัญมากขึ้น ควรพิจารณาใช้บริการแปลภาษามืออาชีพ

การแปลเสียง YouTube เป็นภาษาอังกฤษ

การแปลเสียงจาก YouTube เป็นภาษาอังกฤษสามารถทำได้โดยใช้ฟีเจอร์คำบรรยายอัตโนมัติของ YouTube ร่วมกับ Google Translate หรือใช้ซอฟต์แวร์ของบุคคลที่สามบางตัวที่สามารถถอดความ แปล และดาวน์โหลดคำบรรยายจาก YouTube

แอปแปลภาษาสำหรับเนื้อหาเสียง

มีแอปฟรีหลายตัวที่สามารถแปลเนื้อหาเสียงเป็นภาษาอังกฤษแบบเรียลไทม์ ทำให้กระบวนการราบรื่นยิ่งขึ้น ด้านล่างนี้คือซอฟต์แวร์หรือแอปแปดตัวที่ดีที่สุด พร้อมรายละเอียดสั้น ๆ เกี่ยวกับแต่ละตัว:

  1. Google Translate: เครื่องมือที่มีความหลากหลายสูง รองรับการแปลหลายภาษา รวมถึงการแปลเสียงเป็นข้อความแบบเรียลไทม์
  2. iTranslate Voice: แอปแปลภาษาแบบเรียลไทม์ที่แปลเสียงบันทึกเป็นภาษาต่าง ๆ เหมาะสำหรับผู้ใช้ iOS เป็นพิเศษ
  3. Microsoft Translator: แอปฟรีที่ให้บริการแปลเสียงแบบเรียลไทม์ในหลายภาษา นอกจากนี้ยังมีบริการถอดเสียงและรองรับการแปลข้อความ
  4. Speak & Translate: แอปแปลเสียงและข้อความที่รองรับการแปลเสียงแบบเรียลไทม์มากกว่า 40 ภาษา ใช้ได้บน iOS
  5. Translate Now: แอปนี้ให้บริการถอดเสียงและแปลภาษามากกว่า 100 ภาษา เหมาะสำหรับไฟล์เสียงหลากหลายประเภท
  6. SayHi Translate: แอปที่ใช้งานง่ายและตรงไปตรงมา โดดเด่นในการแปลเสียงบันทึกแบบเรียลไทม์ ใช้ได้ทั้ง iOS และ Android
  7. Transcriber for WhatsApp: แม้จะออกแบบมาสำหรับบันทึกเสียงใน WhatsApp แต่แอปนี้สามารถถอดเสียงและแปลเสียงในหลายภาษาได้
  8. Papago: พัฒนาโดย Naver แอปนี้เชี่ยวชาญในภาษาตะวันออกไกล แต่ยังรองรับภาษาอื่น ๆ ด้วย ให้บริการแปลและถอดเสียงแบบเรียลไทม์

การแปลเนื้อหาเสียงเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่น ๆ ไม่เคยง่ายเท่านี้มาก่อน ด้วยความก้าวหน้าในเทคโนโลยีการรู้จำเสียงและการแปล ไม่ว่าคุณจะจัดการกับไฟล์เสียงในภาษาสเปน ฝรั่งเศส โปรตุเกส หรือเกาหลี ก็มีเครื่องมือหรือบริการพร้อมช่วยเหลืออยู่เสมอ ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือเหล่านี้เพื่อทำให้เนื้อหาภาษาต่างประเทศเข้าถึงได้และเข้าใจง่ายขึ้น

เพลิดเพลินกับเสียง AI ที่ล้ำสมัยที่สุด ไฟล์ไม่จำกัด และการสนับสนุนตลอด 24/7

ทดลองฟรี
tts banner for blog

แชร์บทความนี้

Cliff Weitzman

คลิฟ ไวซ์แมน

ซีอีโอ/ผู้ก่อตั้ง Speechify

คลิฟ ไวซ์แมน เป็นผู้สนับสนุนผู้มีภาวะดิสเล็กเซียและซีอีโอผู้ก่อตั้ง Speechify แอปพลิเคชันแปลงข้อความเป็นเสียงอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งได้รับรีวิว 5 ดาวมากกว่า 100,000 ครั้ง และครองอันดับหนึ่งในหมวดข่าวและนิตยสารบน App Store ในปี 2017 ไวซ์แมนได้รับการยกย่องในรายชื่อ Forbes 30 under 30 จากผลงานของเขาที่ทำให้อินเทอร์เน็ตเข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องในการเรียนรู้ คลิฟ ไวซ์แมน ได้รับการนำเสนอในสื่อชั้นนำต่างๆ เช่น EdSurge, Inc., PC Mag, Entrepreneur, Mashable เป็นต้น