Social Proof

แอปอ่านหนังสือที่ดีที่สุดสำหรับ ADHD

Speechify เป็นโปรแกรมอ่านเสียงอันดับ 1 ของโลก อ่านหนังสือ เอกสาร บทความ PDF อีเมล - ทุกอย่างที่คุณอ่าน - ได้เร็วขึ้น

แนะนำใน

forbes logocbs logotime magazine logonew york times logowall street logo

ฟังบทความนี้ด้วย Speechify!
Speechify

การอ่านอาจเป็นความท้าทายสำหรับผู้ที่มี ADHD นี่คือรายชื่อแอป ADHD ที่ดีที่สุด รวมถึงแอปอ่านหนังสือที่ดีที่สุดสำหรับ ADHD

แอปอ่านหนังสือที่ดีที่สุดสำหรับ ADHD

การสำรวจโลกของวรรณกรรมและเนื้อหาต่าง ๆ อาจเป็นงานที่ท้าทายสำหรับผู้ที่มีภาวะสมาธิสั้น (ADHD) ซึ่งเป็นความผิดปกติทางพัฒนาการทางสมองที่มักได้รับการวินิจฉัยในวัยเด็กแต่สามารถคงอยู่จนถึงวัยผู้ใหญ่ ทำให้เกิดความท้าทายในการโฟกัส การควบคุมแรงกระตุ้น และความสนใจ ทำให้การอ่านอาจเป็นกิจกรรมที่น่ากลัว อย่างไรก็ตาม การมาของเครื่องมือดิจิทัลได้เปิดยุคใหม่ของการสนับสนุน โดยมีแอปที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้

มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติของ ADHD ประเภทต่าง ๆ อุปสรรคที่เกิดขึ้นในการอ่าน และที่สำคัญที่สุดคือแนะนำแอปอ่านหนังสือที่ดีที่สุดที่ออกแบบมาเพื่อลดปัญหาเหล่านี้ ไม่ว่าคุณหรือคนที่คุณรู้จักจะมีปัญหากับ ADHD เครื่องมือเหล่านี้อาจเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดประสบการณ์การอ่านที่ราบรื่นยิ่งขึ้น

ADHD คืออะไร?

ภาวะสมาธิสั้น (ADHD) เป็นหนึ่งในความผิดปกติทางพัฒนาการทางสมองที่พบมากที่สุดในเด็กทั่วโลก โดยทั่วไปจะได้รับการวินิจฉัยเมื่อเด็กเริ่มเข้าโรงเรียน และมักเป็นภาวะที่คงอยู่ตลอดชีวิต อย่างไรก็ตาม ADHD ในผู้ใหญ่ก็สามารถได้รับการวินิจฉัยในภายหลังได้เช่นกัน สมองของผู้ที่มี ADHD อาจทำให้เด็กหรือผู้ใหญ่มีปัญหาในการโฟกัส ควบคุมการกระทำและพฤติกรรมที่เกิดจากแรงกระตุ้น มีปัญหาในการให้ความสนใจ และอาจไม่สามารถนั่งนิ่งได้

สามประเภทของ ADHD

CDC กำหนด สามประเภทของ ADHD แต่ละประเภทมีอาการของ ADHD ที่แตกต่างกัน

ประเภทที่มีปัญหาด้านการให้ความสนใจเป็นหลัก

ผู้ที่มี ADHD ประเภทนี้จะมีปัญหาในการให้ความสนใจและจะมีอาการเช่น:

  • มีปัญหาในการจัดระเบียบ
  • มีปัญหาในการทำงานให้เสร็จ
  • มีปัญหาในการให้ความสนใจกับรายละเอียด
  • มีปัญหาในการทำตามคำสั่ง
  • มีปัญหาในการติดตามการสนทนา
  • ถูกเบี่ยงเบนความสนใจ
  • ลืมรายละเอียดในกิจวัตรประจำวัน

ประเภทที่มีปัญหาด้านการกระทำและแรงกระตุ้นเป็นหลัก

ผู้ที่มี ADHD ประเภทนี้จะมีปัญหาในการควบคุมแรงกระตุ้นและการเคลื่อนไหว และจะมีอาการเช่น:

  • กระสับกระส่าย
  • พูดมากเกินไป
  • มีปัญหาในการนั่งนิ่งนาน ๆ
  • ในเด็ก มักวิ่ง ปีน กระโดด ฯลฯ
  • รู้สึกไม่สงบ
  • มีปัญหาในการจัดการงาน
  • มีปัญหาในการควบคุมแรงกระตุ้น
  • ขัดจังหวะผู้อื่น
  • หยิบของจากคนอื่น
  • พูดในเวลาที่ไม่เหมาะสม
  • มีปัญหาในการรอคิว
  • มีปัญหาในการฟังคำสั่ง
  • มีการจัดการเวลาที่ไม่ดี
  • มีแนวโน้มที่จะเกิดอุบัติเหตุและบาดเจ็บ

ประเภทผสม

ผู้ที่มี ADHD ประเภทนี้จะแสดงอาการจากทั้งสองประเภทของ ADHD

ทำไม ADHD ทำให้การอ่านยาก

เหตุผลที่ ADHD ทำให้การอ่านยากอยู่ในชื่อ—การขาดสมาธิ ผู้ที่มี ADHD มีปัญหาในการโฟกัสและมีสมาธิ ซึ่งอาจทำให้ยากขึ้นในการติดตามข้อมูลด้วยสายตาและจดจำข้อมูลที่อ่าน

สิ่งนี้สามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อความเข้าใจในการอ่านและความเร็วในการอ่านของบุคคล นอกจากนี้ยังสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและสุขภาพโดยรวมของบุคคลเมื่อพวกเขาพยายามที่จะประสบความสำเร็จ

การศึกษาที่ตีพิมพ์ในปี 2019 พบหลักฐานว่า ADHD มักเกิดร่วมกับความบกพร่องในการอ่านอื่น ๆ ความผิดปกติในการเรียนรู้เหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อทักษะการอ่าน

แอป ADHD ที่ดีที่สุด

มีแอปมากมายที่ช่วยในการจัดการ ADHD ทั้งแอปสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก รวมถึงตัวจับเวลาและการเตือนความจำ การทำแผนที่ความคิด การติดตามโครงการ การจัดระเบียบ รายการตรวจสอบ และอื่น ๆ นี่คือแอปที่ดีที่สุดสำหรับ ADHD:

SimpleMindPro

SimpleMindPro เป็นเครื่องมือสร้างแผนผังความคิดที่ทรงพลัง ช่วยให้ผู้ใช้จัดระเบียบความคิด งาน และไอเดียได้อย่างเป็นภาพ อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและรูปแบบที่ปรับแต่งได้ ช่วยให้ผู้ที่มีภาวะสมาธิสั้นสามารถแยกแยะแนวคิดและงานที่ซับซ้อนออกเป็นส่วนย่อยที่จัดการได้ การมองเห็นแบบนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งในการทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างไอเดียและเพิ่มการจดจำ

Remember the Milk

Remember the Milk เป็นแอปจัดการงานที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างรายการสิ่งที่ต้องทำ ตั้งการเตือน และจัดหมวดหมู่งาน การออกแบบที่เรียบง่ายและฟีเจอร์การแจ้งเตือนช่วยให้ผู้ที่มีภาวะสมาธิสั้นสามารถจัดการความรับผิดชอบได้โดยไม่รู้สึกท่วมท้น การผสานรวมกับแพลตฟอร์มและเครื่องมืออื่น ๆ ของแอปช่วยให้มั่นใจได้ว่างานของผู้ใช้จะถูกซิงค์และเข้าถึงได้ในทุกอุปกรณ์

Due

Due เป็นแอปเตือนความจำและจับเวลา ออกแบบมาเพื่อการตั้งค่าการแจ้งเตือนที่รวดเร็วและง่ายดาย มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีภาวะสมาธิสั้น เนื่องจากมีการเตือนความจำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้แน่ใจว่างานหรือการนัดหมายจะไม่ถูกมองข้าม อินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายและความสามารถในการเตือนซ้ำของแอปทำให้เป็นเครื่องมือสำคัญในการรักษาเส้นทาง

Brain Focus

Brain Focus ใช้เทคนิค Pomodoro ซึ่งเป็นวิธีการจัดการเวลาที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่มีสมาธิพร้อมกับการพักเป็นประจำ สำหรับผู้ที่มีภาวะสมาธิสั้น สิ่งนี้สามารถปรับปรุงสมาธิและช่วยจัดการกับการถูกรบกวน อินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายและการตั้งค่าที่ปรับแต่งได้ของแอปช่วยให้ผู้ใช้ปรับเทคนิคให้เข้ากับความชอบและความต้องการของตนเอง

MindNode

MindNode เป็นแอประดมความคิดแบบภาพที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างแผนผังความคิด ไอเดีย และงานในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและเชื่อมโยงกัน การแสดงผลแบบภาพนี้สามารถช่วยให้ผู้ที่มีภาวะสมาธิสั้นเห็นภาพรวม เชื่อมโยง และจัดระเบียบความคิด ความสามารถในการซิงค์กับคลาวด์ของแอปช่วยให้มั่นใจได้ว่าแผนผังความคิดจะพร้อมใช้งานในอุปกรณ์ต่าง ๆ

Evernote

Evernote เป็นแอปจดบันทึกและจัดระเบียบที่หลากหลาย ช่วยให้ผู้ใช้จับภาพ จัดระเบียบ และค้นหาข้อมูลในอุปกรณ์หลายเครื่อง ฟังก์ชันการค้นหา ระบบแท็ก และการจัดระเบียบบันทึกสามารถมีคุณค่าสำหรับผู้ที่มีภาวะสมาธิสั้น ช่วยในการจัดเก็บและดึงข้อมูลได้อย่างง่ายดาย ด้วยฟีเจอร์เช่นการตัดเว็บและบันทึกเสียง มันสามารถปรับให้เข้ากับรูปแบบการป้อนข้อมูลและความชอบต่าง ๆ

Speechify

Speechify เป็นแอปที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่มีภาวะสมาธิสั้นในรายการนี้ ในฐานะเทคโนโลยีช่วยเหลือ Speechify เป็น แพลตฟอร์มแปลงข้อความเป็นเสียง และเป็นแอปที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ใหญ่และเด็กที่มีภาวะสมาธิสั้น ในฐานะแอปอ่านหนังสือสำหรับผู้ที่มีภาวะสมาธิสั้น Speechify ช่วยให้คุณได้ยินข้อความใด ๆ อ่านออกเสียงด้วยเสียงที่ฟังดูเป็นธรรมชาติ แอปแปลงข้อความเป็นเสียงคุณภาพสูงนี้สามารถช่วยให้ผู้ที่มีภาวะสมาธิสั้นมีสมาธิกับสิ่งที่พวกเขากำลังอ่านได้ดีขึ้น

ลองใช้ Speechify แอปอ่านหนังสือที่ดีที่สุดสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ที่มีภาวะสมาธิสั้น

Speechify ถือเป็นหนึ่งในแอปชั้นนำสำหรับผู้ที่มีภาวะสมาธิสั้น รวมถึงผู้ที่มีภาวะดิสเล็กเซียหรือมีความบกพร่องในการเรียนรู้ ในฐานะแอป มันมีให้ใช้งานบนอุปกรณ์มือถือ รวมถึงสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ทั้งสำหรับ Android จาก Google Play store และ iOS (iPhone และ iPad) จาก Apple App Store นอกจากนี้ยังมีส่วนขยายเว็บเบราว์เซอร์ Chrome ใช้ Speechify เพื่อฟังเอกสาร Microsoft Word ไฟล์ PDF บทความ เว็บเพจ โซเชียลมีเดีย อีเมล หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ และอื่น ๆ

ด้วย Speechify คุณสามารถควบคุมความเร็วในการอ่านและสำเนียงของเสียงแปลงข้อความเป็นเสียงที่ฟังดูเป็นธรรมชาติได้ มีเสียงให้เลือกมากกว่า 130 เสียงในกว่า 30 ภาษา เพื่อให้ผู้ที่มีภาวะสมาธิสั้นทั่วโลกสามารถได้รับประโยชน์จากมัน ผู้ใช้ครั้งแรกจะประทับใจกับความหลากหลายของ Speechify ในฐานะแอปอ่านหนังสือสำหรับผู้ที่มีภาวะสมาธิสั้น

ลองใช้ Speechify ฟรีวันนี้

คำถามที่พบบ่อย

อะไรช่วยให้การอ่านสำหรับผู้ที่มีภาวะสมาธิสั้นดีขึ้น?

การทำความเข้าใจและการจดจำในการอ่านอาจเป็นเรื่องยากเมื่อบุคคลมีปัญหาด้านสมาธิ การจดบันทึกเป็นวิธีที่ดีในการจดจำข้อมูลขณะอ่าน ซึ่งอาจเป็นการจดบันทึกจริงหรือการเน้นข้อความขณะอ่าน การปรับปรุงคำศัพท์ก็มีประโยชน์มากเช่นกัน เช่นเดียวกับการหาสถานที่เงียบสงบปราศจากสิ่งรบกวนในการอ่าน โปรแกรมแปลงข้อความเป็นเสียงเช่น Speechify ก็สามารถช่วยได้อย่างมากสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านสมาธิ

คุณทำให้ข้อความเป็นมิตรกับผู้ที่มีภาวะสมาธิสั้นได้อย่างไร?

แอปแปลงข้อความเป็นเสียงเช่น Speechify สามารถทำให้ข้อความเป็นมิตรกับผู้ที่มีภาวะสมาธิสั้นได้มาก เพราะมันช่วยให้บุคคลสามารถเคลื่อนไหวได้หากพวกเขามีความกระตือรือร้นหรือกระวนกระวายใจ แต่ก็ยังช่วยให้พวกเขาจดบันทึกได้อย่างอิสระขณะฟังข้อความที่ถูกอ่าน

การอ่านสามารถรักษาภาวะสมาธิสั้นได้หรือไม่?

การอ่านสามารถช่วยให้บุคคลที่มีภาวะสมาธิสั้นเอาชนะความยากลำบากและความหงุดหงิดในระดับสังคม การศึกษา และอารมณ์ที่เกิดจากความบกพร่องในการเรียนรู้ได้

วิธีที่ดีที่สุดในการอ่านสำหรับผู้ที่มีภาวะสมาธิสั้นคืออะไร?

เนื่องจากภาวะสมาธิสั้นทำให้เกิดการขาดสมาธิและความยากลำบากในการจดจ่อ รวมถึงการกระวนกระวายใจและความยากลำบากในการนั่งนิ่ง แอปแปลงข้อความเป็นเสียงจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่บุคคลที่มีภาวะสมาธิสั้นสามารถอ่านได้ Speechify เป็นแอปแปลงข้อความเป็นเสียงอันดับหนึ่งสำหรับหลายสภาวะที่ส่งผลต่อการเรียนรู้และการอ่าน รวมถึงดิสเล็กเซีย ออทิสติก และภาวะสมาธิสั้น

แอปอ่านหนังสือสำหรับ ADHD คืออะไร?

Speechify เป็นแอปอ่านหนังสือที่ดีที่สุดสำหรับ ADHD และเป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับผู้ที่มีปัญหาทางสายตา ความบกพร่องในการเรียนรู้ หรือความยากลำบากในการอ่าน

Cliff Weitzman

คลิฟ ไวซ์แมน

คลิฟ ไวซ์แมน เป็นผู้สนับสนุนด้านดิสเล็กเซียและเป็น CEO และผู้ก่อตั้ง Speechify แอปพลิเคชันแปลงข้อความเป็นเสียงอันดับ 1 ของโลก ที่มีรีวิว 5 ดาวมากกว่า 100,000 รีวิว และครองอันดับหนึ่งใน App Store ในหมวดข่าวและนิตยสาร ในปี 2017 ไวซ์แมนได้รับการยกย่องในรายชื่อ Forbes 30 under 30 จากผลงานของเขาในการทำให้อินเทอร์เน็ตเข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องในการเรียนรู้ คลิฟ ไวซ์แมน ได้รับการนำเสนอใน EdSurge, Inc., PC Mag, Entrepreneur, Mashable และสื่อชั้นนำอื่น ๆ