1. หน้าแรก
  2. TTS
  3. การแปลงข้อความเป็นเสียงใน Word สำหรับผู้ใช้ Windows, Mac, Android และ iOS
TTS

การแปลงข้อความเป็นเสียงใน Word สำหรับผู้ใช้ Windows, Mac, Android และ iOS

Cliff Weitzman

คลิฟ ไวซ์แมน

ซีอีโอ/ผู้ก่อตั้ง Speechify

#1 โปรแกรมอ่าน Text to Speech.
ให้ Speechify อ่านให้คุณฟัง

รางวัลออกแบบยอดเยี่ยมจาก Apple ปี 2025
ผู้ใช้กว่า 50 ล้านคน
ฟังบทความนี้ด้วย Speechify!
speechify logo

เทคโนโลยีการแปลงข้อความเป็นเสียง (TTS) ได้เปลี่ยนแปลงวิธีที่เราปฏิสัมพันธ์กับเนื้อหาที่เป็นลายลักษณ์อักษร โดยเฉพาะในซอฟต์แวร์ยอดนิยมอย่าง Microsoft Word ไม่ว่าคุณจะใช้ Windows 10, Mac, Android หรือ iOS ความสามารถในการแปลงข้อความเป็นคำพูดในแอปพลิเคชัน Microsoft Office รวมถึง Word, PowerPoint, Excel, OneNote และ Outlook ได้เพิ่มการเข้าถึงสำหรับบุคคลที่มีความพิการและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสำหรับผู้ใช้ทุกคนอย่างมาก

การเปิดใช้งานการแปลงข้อความเป็นเสียงใน Microsoft Word

  1. การเข้าถึงฟีเจอร์: ใน Word ฟีเจอร์ 'อ่านออกเสียง' สามารถพบได้ภายใต้แท็บ 'ตรวจทาน' ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ซอฟต์แวร์อ่านข้อความในเอกสารของคุณออกเสียง ทำให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบและแก้ไขงานได้ง่ายขึ้น
  2. การปรับแต่งการตั้งค่า: ผู้ใช้สามารถปรับแต่งประสบการณ์ TTS ใน Word ได้ ซึ่งรวมถึงการเลือกเสียง ความเร็วในการอ่าน และแม้กระทั่งการตั้งค่าภาษา ตัวเลือกเหล่านี้สามารถเข้าถึงได้จาก 'แผงควบคุม' บน Windows หรือการตั้งค่าระบบบนแพลตฟอร์มอื่น ๆ
  3. การใช้แถบเครื่องมือเข้าถึงด่วน: สำหรับการใช้งานบ่อย ๆ คุณสามารถเพิ่มปุ่ม 'พูด' ไปยังแถบเครื่องมือเข้าถึงด่วนได้ ซึ่งช่วยให้เปิดใช้งานฟีเจอร์การแปลงข้อความเป็นเสียงได้เร็วขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพ

การรู้จำเสียงและการแปลงข้อความเป็นเสียง

นอกจากการอ่านข้อความออกเสียงแล้ว Microsoft Word ยังมีฟีเจอร์การรู้จำเสียง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถพิมพ์ข้อความลงในเอกสารได้โดยไม่ต้องใช้มือ ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการร่างอีเมลใน Outlook การสร้างสเปรดชีตใน Excel และการจดบันทึกใน OneNote

ฟีเจอร์ขั้นสูงและการเข้าถึง

  1. ผู้อ่านที่ดื่มด่ำ: สำหรับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้ที่มีความบกพร่องในการเรียนรู้ ผู้อ่านที่ดื่มด่ำใน Word มอบสภาพแวดล้อมที่ปราศจากสิ่งรบกวน พร้อมตัวเลือกสำหรับเสียงที่แตกต่างกัน ความเร็วในการเล่น และการเว้นระยะห่างของข้อความ
  2. ทางลัดแป้นพิมพ์: ผู้ใช้สามารถเริ่มหรือหยุดฟีเจอร์อ่านออกเสียงได้อย่างรวดเร็วโดยใช้ทางลัดแป้นพิมพ์ เช่น การกด 'Ctrl' พร้อมกับ 'ลูกศรลง' สามารถเปิดการอ่านเอกสารทั้งหมดหรือข้อความที่เลือกได้
  3. การใช้ TTS ข้ามอุปกรณ์: ฟังก์ชัน TTS ใน Microsoft Office ขยายไปไกลกว่าแค่คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป บนอุปกรณ์ Android และ iOS ผู้ใช้ยังสามารถใช้ฟีเจอร์อ่านออกเสียงและการรู้จำเสียงได้ ทำให้สะดวกในการทำงานกับเอกสารขณะเดินทาง
  4. การปรับแต่งเสียงและความเร็ว: ภายในการตั้งค่า TTS ผู้ใช้สามารถเลือกจากเสียงที่แตกต่างกัน รวมถึงเสียงผู้หญิง และปรับความเร็วของเสียงให้เหมาะกับความชอบในการฟังของตนเอง ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการฟังข้อความออกเสียงในหนังสือเสียงหรือเอกสารยาว ๆ
  5. การเข้าถึงสำหรับทุกคน: การรวมเทคโนโลยีการแปลงข้อความเป็นเสียงใน Microsoft Word แสดงถึงความมุ่งมั่นในการเข้าถึง ไม่เพียงแต่ช่วยเหลือผู้ที่มีความพิการ แต่ยังมอบเครื่องมือที่มีคุณค่าสำหรับผู้ใช้ทุกคนในการประมวลผลข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เทคโนโลยีการแปลงข้อความเป็นเสียงใน Microsoft Word เป็นก้าวสำคัญในการทำให้ข้อมูลเข้าถึงได้มากขึ้นและสถานที่ทำงานมีความครอบคลุมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบเอกสาร การฟังหนังสือเสียง หรือการพิมพ์ข้อความ ฟีเจอร์ TTS ใน Microsoft Office ช่วยให้ทุกคน ไม่ว่าจะใช้อุปกรณ์หรือมีความสามารถใด ๆ มีเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการสื่อสารและการทำงานที่มีประสิทธิภาพ

Speechify การแปลงข้อความเป็นเสียง

ค่าใช้จ่าย: ทดลองใช้งานฟรี

Speechify การแปลงข้อความเป็นเสียง เป็นเครื่องมือที่เปลี่ยนแปลงวิธีที่บุคคลบริโภคเนื้อหาที่เป็นลายลักษณ์อักษร โดยใช้เทคโนโลยีการแปลงข้อความเป็นเสียงขั้นสูง Speechify แปลงข้อความที่เขียนเป็นคำพูดที่เหมือนจริง ทำให้มีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องในการอ่าน การมองเห็น หรือเพียงแค่ผู้ที่ชอบการเรียนรู้ด้วยการฟัง ความสามารถในการปรับตัวของมันทำให้สามารถรวมเข้ากับอุปกรณ์และแพลตฟอร์มที่หลากหลายได้อย่างราบรื่น มอบความยืดหยุ่นให้ผู้ใช้ในการฟังขณะเดินทาง

5 ฟีเจอร์เด่นของ Speechify TTS:

เสียงคุณภาพสูง: Speechify มีเสียงคุณภาพสูงที่เหมือนจริงหลากหลายภาษา ซึ่งทำให้ผู้ใช้มีประสบการณ์การฟังที่เป็นธรรมชาติ ทำให้ง่ายต่อการเข้าใจและมีส่วนร่วมกับเนื้อหา

การรวมเข้ากับแพลตฟอร์มต่าง ๆ: Speechify สามารถรวมเข้ากับแพลตฟอร์มและอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงเว็บเบราว์เซอร์ สมาร์ทโฟน และอื่น ๆ ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้สามารถแปลงข้อความจากเว็บไซต์ อีเมล ไฟล์ PDF และแหล่งอื่น ๆ เป็นเสียงได้อย่างรวดเร็ว

การควบคุมความเร็ว: ผู้ใช้สามารถปรับความเร็วในการเล่นตามความชอบของตนเอง ทำให้สามารถอ่านเนื้อหาได้อย่างรวดเร็วหรือเจาะลึกในอัตราที่ช้าลง

ฟังแบบออฟไลน์: หนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญของ Speechify คือความสามารถในการบันทึกและฟังข้อความที่แปลงแล้วแบบออฟไลน์ ทำให้สามารถเข้าถึงเนื้อหาได้อย่างต่อเนื่องแม้ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

การไฮไลต์ข้อความ: ขณะที่ข้อความถูกอ่านออกเสียง Speechify จะไฮไลต์ส่วนที่สอดคล้องกัน ทำให้ผู้ใช้สามารถติดตามเนื้อหาที่ถูกพูดได้อย่างชัดเจน การรับข้อมูลทั้งทางสายตาและการฟังพร้อมกันนี้สามารถช่วยเพิ่มความเข้าใจและการจดจำสำหรับผู้ใช้หลายคน

คำถามที่พบบ่อย:

  1. จะเปิดการพูดเป็นข้อความใน Word ได้อย่างไร?
    • เปิดเอกสาร Word
    • คลิกที่แท็บ 'หน้าแรก'
    • เลือก 'Dictate' (ไอคอนไมโครโฟน) เพื่อเริ่มการพูดเป็นข้อความ
  2. จะเปลี่ยนภาษาของข้อความเป็นเสียงใน Word ได้อย่างไร?
    • คลิกที่แท็บ 'ตรวจทาน'
    • เลือก 'ภาษา' ในกลุ่ม 'ภาษา'
    • เลือกภาษาที่ต้องการสำหรับข้อความเป็นเสียง
  3. จะเปลี่ยนข้อความเป็นเสียงใน Word ได้อย่างไร?
    • ไฮไลต์ข้อความในเอกสารของคุณ
    • ไปที่แท็บ 'ตรวจทาน' แล้วคลิก 'อ่านออกเสียง'
    • Word จะเริ่มอ่านข้อความออกเสียง
  4. จะให้ Microsoft Word อ่านออกเสียงให้คุณได้อย่างไร?
    • ไฮไลต์ข้อความ
    • คลิกที่แท็บ 'ตรวจทาน'
    • เลือก 'อ่านออกเสียง' เพื่อเริ่มการบรรยาย
  5. จะใช้การพูดเป็นข้อความใน Microsoft Word ได้อย่างไร?
    • เปิด Word
    • คลิกที่แท็บ 'หน้าแรก'
    • เลือก 'Dictate' เพื่อเริ่มแปลงคำพูดของคุณเป็นข้อความ
  6. จะใช้การพูดเป็นข้อความใน Microsoft Word: การเตรียมการ?
    • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไมโครโฟนของคุณเชื่อมต่อและทำงานได้
    • เปิด Word และไปที่แท็บ 'หน้าแรก'
    • เลือก 'Dictate' เมื่อพร้อมที่จะพูด
  7. จะอ่าน PDF ออกเสียงโดยใช้ Microsoft Word ได้อย่างไร?
    • เปิด PDF ใน Word (มันจะถูกแปลงเป็นเอกสาร Word)
    • เลือกข้อความ
    • คลิก 'อ่านออกเสียง' ภายใต้แท็บ 'ตรวจทาน'
  8. ทางลัดสำหรับการพูดเป็นข้อความใน Word คืออะไร?
    • ใช้ 'Alt + ` (ปุ่ม grave accent)' เป็นทางลัดเพื่อเริ่มหรือหยุด Dictate
  9. จะเปลี่ยนเสียงในข้อความเป็นเสียงได้อย่างไร?
    • ไปที่ 'แผงควบคุม' > 'การเข้าถึง'
    • เลือก 'การรู้จำเสียง'
    • เลือก 'ข้อความเป็นเสียง' เพื่อเปลี่ยนการตั้งค่าเสียง

เพลิดเพลินกับเสียง AI ที่ล้ำสมัยที่สุด ไฟล์ไม่จำกัด และการสนับสนุนตลอด 24/7

ทดลองฟรี
tts banner for blog

แชร์บทความนี้

Cliff Weitzman

คลิฟ ไวซ์แมน

ซีอีโอ/ผู้ก่อตั้ง Speechify

คลิฟ ไวซ์แมน เป็นผู้สนับสนุนผู้มีภาวะดิสเล็กเซียและซีอีโอผู้ก่อตั้ง Speechify แอปพลิเคชันแปลงข้อความเป็นเสียงอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งได้รับรีวิว 5 ดาวมากกว่า 100,000 ครั้ง และครองอันดับหนึ่งในหมวดข่าวและนิตยสารบน App Store ในปี 2017 ไวซ์แมนได้รับการยกย่องในรายชื่อ Forbes 30 under 30 จากผลงานของเขาที่ทำให้อินเทอร์เน็ตเข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องในการเรียนรู้ คลิฟ ไวซ์แมน ได้รับการนำเสนอในสื่อชั้นนำต่างๆ เช่น EdSurge, Inc., PC Mag, Entrepreneur, Mashable เป็นต้น

speechify logo

เกี่ยวกับ Speechify

#1 โปรแกรมอ่าน Text to Speech

Speechify เป็นแพลตฟอร์ม แปลงข้อความเป็นเสียง ชั้นนำของโลกที่มีผู้ใช้มากกว่า 50 ล้านคนและได้รับรีวิวระดับห้าดาวมากกว่า 500,000 รีวิวในแอปพลิเคชัน iOS, Android, Chrome Extension, เว็บแอป และ แอปบน Mac ในปี 2025 Apple ได้มอบรางวัล Apple Design Award ให้กับ Speechify ที่ WWDC โดยเรียกมันว่า “ทรัพยากรสำคัญที่ช่วยให้ผู้คนใช้ชีวิตได้ดีขึ้น” Speechify มีเสียงที่ฟังดูเป็นธรรมชาติกว่า 1,000 เสียงในกว่า 60 ภาษาและถูกใช้ในเกือบ 200 ประเทศ เสียงของคนดังที่มีให้เลือกได้แก่ Snoop Dogg, Mr. Beast และ Gwyneth Paltrow สำหรับผู้สร้างและธุรกิจ Speechify Studio มีเครื่องมือขั้นสูงรวมถึง AI Voice Generator, AI Voice Cloning, AI Dubbing และ AI Voice Changer Speechify ยังสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชั้นนำด้วย text to speech API ที่มีคุณภาพสูงและคุ้มค่า ได้รับการนำเสนอใน The Wall Street Journal, CNBC, Forbes, TechCrunch และสื่อข่าวใหญ่ๆ อื่นๆ Speechify เป็นผู้ให้บริการแปลงข้อความเป็นเสียงที่ใหญ่ที่สุดในโลก เยี่ยมชม speechify.com/news, speechify.com/blog และ speechify.com/press เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม