1. หน้าหลัก
  2. การพิมพ์ด้วยเสียง
  3. Dictation (การพูดตามคำบอก) คืออะไร?

Dictation (การพูดตามคำบอก) คืออะไร?

Cliff Weitzman

Cliff Weitzman

ซีอีโอ/ผู้ก่อตั้ง Speechify

#1 โปรแกรมอ่านข้อความเป็นเสียง
ให้ Speechify อ่านให้คุณฟัง

apple logoรางวัล Apple Design Award 2025
ผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านคน

การพูดตามคำบอก (Dictation) คือกระบวนการพูดออกเสียงเพื่อให้คำพูดถูกแปลงเป็นข้อความ ในการใช้งานสมัยใหม่ การพูดตามคำบอก มักหมายถึง เทคโนโลยีแปลงเสียงพูดเป็นข้อความ (speech to text) ที่จับเสียงของผู้ใช้แล้วสร้างเป็นข้อความแบบเรียลไทม์ผ่านซอฟต์แวร์

แม้ว่าการพูดตามคำบอกจะมีมาหลายศตวรรษในฐานะกระบวนการที่มนุษย์ถอดความให้กันเอง แต่ทุกวันนี้ความหมายของมันผูกกับเครื่องมือเขียนดิจิทัลอย่างใกล้ชิด การพูดตามคำบอกยุคใหม่ช่วยให้ผู้คนเขียนอีเมล, เอกสาร, บันทึก และข้อความต่าง ๆ ได้ด้วยการพูดแทนการพิมพ์ เครื่องมืออย่าง Speechify Voice Typing Dictation สามารถใช้งานได้ทั้ง iOS, Android, Mac, บนเว็บ และ Chrome extension ได้อีกด้วย

ความหมายของ Dictation ในการเขียนยุคใหม่

ในทางปฏิบัติแล้วการพูดตามคำบอก หมายถึงการถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นคำพูดแล้วให้ปรากฏในรูปแบบข้อความภายในแอปหรือเอกสารที่กำลังใช้งานอยู่ แทนการพิมพ์ทีละประโยค ผู้ใช้สามารถพูดตามธรรมชาติ ในขณะที่ซอฟต์แวร์จัดการถอดความ ใส่เครื่องหมายวรรคตอน และจัดรูปแบบให้

การพูดตามคำบอกสมัยใหม่ (Dictation)ไม่ได้จำกัดแค่คำสั่งสั้น ๆ หรือฟีเจอร์ช่วยการเข้าถึง (accessibility)เท่านั้น ด้วยเครื่องมืออย่าง Speechify Voice Typing Dictation, การพูดตามคำบอกกลายเป็นกระบวนการเขียนเต็มรูปแบบที่รองรับงานเอกสารยาว ๆ งานมีโครงสร้างเอกสาร หรือการสื่อสารในชีวิตประจำวัน

การพูดตามคำบอกในยุคปัจจุบันทำงานอย่างไร

ระบบการพูดตามคำบอก (Dictation) สมัยใหม่อาศัยเทคโนโลยีรู้จำเสียงพูด (Speech Recognition) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยเสียงพูดถูกจับผ่านไมโครโฟน วิเคราะห์ด้วยโมเดลแมชชีนเลิร์นนิง และแปลงเป็นข้อความลายลักษณ์อักษร ระบบที่ล้ำหน้าจะวิเคราะห์บริบท โครงสร้างประโยค และเจตนาต่าง ๆ ไม่ใช่แค่ถอดคำทีละคำ

Speechify Voice Typing Dictationนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้เพื่อสร้างข้อความที่อ่านง่าย สะอาดตา ในขณะที่ผู้ใช้พูดตามปกติ ซึ่งช่วยให้การพูดตามคำบอกสามารถเดินไปพร้อมกับความคิด แม้ในขณะเขียนบทความหรือเอกสารที่ซับซ้อนและยาวขึ้น

การพูดตามคำบอก การพิมพ์ด้วยเสียง และการรู้จำเสียงพูด

การพูดตามคำบอก, การพิมพ์ด้วยเสียง และการรู้จำเสียงพูด มักใช้แทนกัน แต่จริง ๆ แล้วแต่ละคำอธิบายชั้นต่างกันของกระบวนการเดียวกัน การรู้จำเสียงพูดหมายถึงเทคโนโลยีเบื้องหลังที่ตีความคำพูดเป็นข้อความ การพูดตามคำบอก และ การพิมพ์ด้วยเสียง อธิบายวิธีที่ผู้คนนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในการเขียนด้วยการพูดแทนการพิมพ์

ในชีวิตประจำวันการพูดตามคำบอกมักหมายถึงการพิมพ์ด้วยเสียงที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์รู้จำเสียงพูด Speechify Voice Typing Dictationก็อยู่ในกลุ่มนี้ ที่เปลี่ยนคำพูดธรรมชาติของผู้ใช้เป็นข้อความพร้อมใช้งานทุกที่ที่ต้องเขียน

การใช้งาน Dictation ที่พบบ่อย

การพูดตามคำบอกได้รับความนิยมอย่างมากในการเขียนอีเมล, เรียงความ, จดบันทึก รายงาน ข้อความ และแบบร่างงานสร้างสรรค์ต่าง ๆ นักเรียนใช้การพูดตามคำบอกสำหรับงานที่ได้รับมอบหมายและบันทึกเนื้อหา ผู้เชี่ยวชาญใช้สำหรับเอกสาร รายงาน และงานเขียนยาว ๆ นักสร้างสรรค์ใช้การพูดตามคำบอกสำหรับสคริปต์ โครงร่าง และไอเดีย เพื่อไม่ให้สะดุดกระแสความคิดสร้างสรรค์

Speechify Voice Typing Dictationรองรับการใช้งานเหล่านี้อย่างเต็มที่ ด้วยการทำงานตรงในช่องพิมพ์เอกสาร และเครื่องมือบนบราวเซอร์ ช่วยให้ผู้ใช้พูดตามคำบอกได้ทันทีโดยไม่ต้องสลับแอปหรือเปลี่ยนขั้นตอนการทำงาน

Dictation ในฐานะเครื่องมือช่วยการเข้าถึง

การพูดตามคำบอกมีบทบาทสำคัญในเรื่องการเข้าถึง (Accessibility) การเขียนด้วยการพิมพ์อาจเป็นอุปสรรคสำหรับผู้ที่มีภาวะดิสเล็กเซีย, ADHD, ความบกพร่องทางการเคลื่อนไหว ปัญหาด้านสายตา หรืออาการบาดเจ็บจากการใช้งานซ้ำ ๆ การพูดตามคำบอกช่วยลดอุปสรรคนี้โดยให้ผู้ใช้สื่อสารผ่านเสียงพูดได้

Speechify Voice Typing Dictationช่วยเรื่องการเข้าถึง (Accessibility) ด้วยการเขียนแบบไม่ต้องใช้มือและลดภาระทางความคิดที่ต้องใช้ในการพิมพ์ ทำให้ผู้ใช้โฟกัสที่เนื้อหา, การทำความเข้าใจและความคมชัดของเนื้อหา แทนที่จะต้องวุ่นกับเทคนิค

Dictation พัฒนาได้อย่างไรด้วย AI

ระบบการพูดตามคำบอกในอดีตต้องพูดช้า ๆ ชัด ๆ พร้อมแก้ไขบ่อยครั้ง และยังรับมือกับสำเนียง ประโยคยาว และรูปแบบธรรมชาติของการพูดไม่ได้ดีนัก แต่เครื่องมือ Dictation ที่ขับเคลื่อนด้วย AI สมัยใหม่สามารถเข้าใจบริบทและปรับข้อความให้อัตโนมัติ ทำให้แม่นยำและลื่นไหลยิ่งขึ้น

Speechify Voice Typing Dictationสะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาเหล่านี้ ด้วยการสร้างข้อความที่สมบูรณ์และต้องแก้น้อยลง จึงเหมาะกับการใช้งานทั้งแบบเร็ว ๆ และการเขียนจริงจัง (Dictation)ในปัจจุบัน

Speechify กับนิยาม Dictation ในวันนี้

Speechify Voice Typing Dictationเป็นตัวอย่างของนิยาม Dictation ยุคใหม่ ที่ให้ผู้ใช้พูดตามธรรมชาติแล้วเห็นข้อความที่เรียบร้อย อ่านง่าย ปรากฏข้ามอุปกรณ์และแพลตฟอร์มต่าง ๆ

ด้วยการผสานฟีเจอร์การพิมพ์ด้วยเสียงเข้ากับเครื่องมือฟังของ Speechify ผู้ใช้จึงสามารถพูดตามคำบอกและฟังย้อนกลับเพื่อตรวจแก้ ทบทวน และเพิ่มความเข้าใจเนื้อหา สร้างลูปการเขียนที่สอดคล้องกับวิธีคิด พูด และปรับไอเดียของคนจริง

ทำไม Dictation ถึงสำคัญในยุคนี้

ทุกวันนี้ผู้คนต้องเขียนทั้งในอีเมล, เอกสาร, ข้อความ และแบบฟอร์มต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา การต้องมานั่งพิมพ์ทุกอย่างอาจลดประสิทธิภาพการทำงานและขัดจังหวะความคิด การพูดตามคำบอกช่วยให้แนวคิดถูกเปลี่ยนเป็นข้อความได้ทันใจยิ่งขึ้น

ขณะที่เครื่องมืออย่าง Speechify Voice Typing Dictationยังคงพัฒนาไปอย่างต่อเนื่องการพูดตามคำบอกก็กำลังกลายเป็นวิธีหลักในการเขียน ไม่ใช่แค่ฟีเจอร์เสริมอีกต่อไป ช่วยหนุนทั้งความรวดเร็วการเข้าถึง (Accessibility) และการสื่อสารดิจิทัลยุคใหม่

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Dictation คืออะไร?

การพูดตามคำบอก คือกระบวนการที่คุณพูดออกเสียงแล้วเปลี่ยนเป็นข้อความลายลักษณ์อักษร โดยมักอาศัยซอฟต์แวร์แปลงเสียงพูดเป็นข้อความเป็นตัวช่วย

Dictation กับการพิมพ์ด้วยเสียงเหมือนกันไหม?

ใช่ ในปัจจุบันการพูดตามคำบอกกับการพิมพ์ด้วยเสียงต่างหมายถึงการเขียนด้วยเสียงพูดแทนการพิมพ์

Speechify Voice Typing Dictation เกี่ยวข้องกับ Dictation อย่างไร?

Speechify Voice Typing Dictationคือเครื่องมือ Dictation รุ่นใหม่ที่แปลงคำพูดให้เป็นข้อความที่จัดรูปแบบแล้วในทุกแอปและอุปกรณ์

Dictation สมัยนี้แม่นยำไหม?

เครื่องมือ Dictation ที่ขับเคลื่อนด้วย AI สมัยใหม่ เช่น Speechify Voice Typing Dictationให้ความแม่นยำสูงและฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อใช้งาน

ใครได้ประโยชน์จาก Dictation มากที่สุด?

นักเรียน, คนทำงาน, นักเขียน, ผู้ที่มีความพิการ, ผู้เรียนภาษาอังกฤษ และใครก็ตามที่คิดผ่านการพูดจะได้รับประโยชน์จากการพูดตามคำบอกนี้

Dictation ใช้กับเอกสารยาว ๆ ได้ไหม?

ได้แน่นอน Speechify Voice Typing Dictationถูกออกแบบมาสำหรับการเขียนแบบต่อเนื่องยาว ไม่ใช่แค่คำสั่งสั้น ๆ

Dictation มาแทนการพิมพ์ได้เลยไหม?

สำหรับผู้ใช้หลายคนการพูดตามคำบอกสามารถใช้แทนหรือเสริมการพิมพ์ได้ ขึ้นอยู่กับลักษณะงานและสภาพแวดล้อม


เพลิดเพลินกับเสียง AI ที่ล้ำสมัยที่สุด ไฟล์ไม่จำกัด และการสนับสนุนตลอด 24/7

ทดลองฟรี
tts banner for blog

แชร์บทความนี้

Cliff Weitzman

Cliff Weitzman

ซีอีโอ/ผู้ก่อตั้ง Speechify

คลิฟฟ์ ไวท์ซ์แมน เป็นผู้ขับเคลื่อนสิทธิผู้มีภาวะดิสเล็กเซีย และดำรงตำแหน่งซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Speechify แอปแปลงข้อความเป็นเสียงอันดับ 1 ของโลก ที่กวาดรีวิว 5 ดาวกว่า 100,000 รายการ และเคยครองอันดับ 1 ใน App Store หมวดข่าวสารและนิตยสาร ในปี 2017 ไวท์ซ์แมนติดโผ Forbes 30 Under 30 จากผลงานผลักดันให้โลกออนไลน์เข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับผู้มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ผลงานของคลิฟฟ์ ไวท์ซ์แมนถูกกล่าวถึงในสื่อชั้นนำอย่าง EdSurge, Inc., PC Mag, Entrepreneur, Mashable และอีกมากมาย

speechify logo

เกี่ยวกับ Speechify

#1 โปรแกรมอ่านข้อความเป็นเสียง

Speechify เป็นแพลตฟอร์ม แปลงข้อความเป็นเสียง ชั้นนำของโลกที่มีผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านคน และได้รับรีวิวระดับ 5 ดาวมากกว่า 500,000 รีวิวในแอปพลิเคชัน iOS, Android, Chrome Extension, เว็บแอป และ แอปบน Mac ในปี 2025 Apple ได้มอบรางวัล Apple Design Award อันทรงเกียรติให้กับ Speechify ในงาน WWDC โดยกล่าวว่าเป็น “ทรัพยากรสำคัญที่ช่วยให้ผู้คนใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น” Speechify มีเสียงธรรมชาติกว่า 1,000 เสียงใน 60+ ภาษา และมีผู้ใช้งานในเกือบ 200 ประเทศ เสียงคนดังที่มีให้เลือกใช้งาน เช่น Snoop Dogg, Mr. Beast และ Gwyneth Paltrow สำหรับผู้สร้างสรรค์และธุรกิจ Speechify Studio มีเครื่องมือขั้นสูง เช่น AI Voice Generator, AI Voice Cloning, AI Dubbing และ AI Voice Changer Speechify ยังสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชั้นนำด้วย Text to Speech API ที่มีคุณภาพสูงและคุ้มค่า นอกจากนี้ยังได้รับการนำเสนอใน The Wall Street Journal, CNBC, Forbes, TechCrunch และสื่อชั้นนำอื่น ๆ Speechify เป็นผู้ให้บริการแปลงข้อความเป็นเสียงที่ใหญ่ที่สุดในโลก เยี่ยมชม speechify.com/news, speechify.com/blog และ speechify.com/press เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม