Social Proof

การใช้เทคโนโลยีแปลงข้อความเป็นเสียงสำหรับระบบ IVR: ประโยชน์และข้อควรพิจารณา

Speechify เป็นโปรแกรมอ่านเสียงอันดับ 1 ของโลก อ่านหนังสือ เอกสาร บทความ PDF อีเมล - ทุกอย่างที่คุณอ่าน - ได้เร็วขึ้น

แนะนำใน

forbes logocbs logotime magazine logonew york times logowall street logo

  1. ทำความเข้าใจกับระบบ IVR
    1. ระบบ IVR คืออะไร?
    2. ระบบ IVR ทำงานอย่างไร
    3. การใช้งานทั่วไปของระบบ IVR
  2. เทคโนโลยีแปลงข้อความเป็นเสียง
    1. เทคโนโลยีแปลงข้อความเป็นเสียงคืออะไร?
    2. เทคโนโลยีแปลงข้อความเป็นเสียงทำงานอย่างไร
    3. แปลงข้อความเป็นเสียง vs. ข้อความที่บันทึกไว้ล่วงหน้า
  3. ประโยชน์ของการใช้แปลงข้อความเป็นเสียงในระบบ IVR
    1. ปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้า
    2. ประหยัดค่าใช้จ่าย
    3. ความสามารถในการขยายและความยืดหยุ่น
    4. รองรับหลายภาษา
    5. อัปเดตและเปลี่ยนแปลงได้เร็วขึ้น
  4. ข้อควรพิจารณาเมื่อใช้ Text-to-Speech ในระบบ IVR
    1. คุณภาพเสียงและความเป็นธรรมชาติ
    2. การผสานรวมกับระบบที่มีอยู่
    3. ตัวเลือกการปรับแต่ง
    4. ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
  5. มอบบริการลูกค้าที่ง่ายดายพร้อมลดต้นทุนด้วยเทคโนโลยี TTS ที่ไม่เหมือนใครของ Speechify
  6. คำถามที่พบบ่อย
    1. คำถามที่ 1: บทบาทของ text-to-speech ในระบบ IVR คืออะไร?
    2. คำถามที่ 2: ฉันสามารถปรับแต่งเสียงในระบบ IVR ที่ใช้ text-to-speech ได้หรือไม่?
    3. คำถามที่ 3: text-to-speech ช่วยปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ในระบบ IVR ได้อย่างไร?
ฟังบทความนี้ด้วย Speechify!
Speechify

ในโลกที่เร่งรีบในปัจจุบัน ลูกค้าต้องการวิธีที่รวดเร็วและง่ายดายในการแก้ปัญหา และระบบตอบรับเสียงอัตโนมัติ (IVR) เป็นทางเลือกที่นิยม...

ในโลกที่เร่งรีบในปัจจุบัน ลูกค้าต้องการวิธีที่รวดเร็วและง่ายดายในการแก้ปัญหา และ ระบบตอบรับเสียงอัตโนมัติ (IVR) เป็นทางเลือกที่นิยมสำหรับธุรกิจ คุณรู้หรือไม่ว่าการเพิ่มเทคโนโลยีแปลงข้อความเป็นเสียง (TTS) ในระบบ IVR ของคุณสามารถทำให้มีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น? ในบทความนี้ เราจะสำรวจประโยชน์และข้อควรพิจารณาในการนำ TTS มาใช้ในระบบ IVR ของคุณ

ทำความเข้าใจกับระบบ IVR

หากคุณวางแผนที่จะเปิดศูนย์บริการลูกค้าหรืออัปเกรดระบบโทรศัพท์ที่มีอยู่แล้ว ส่วนนี้เป็นสิ่งที่คุณต้องอ่าน

ระบบ IVR คืออะไร?

ระบบ IVR เป็นระบบจัดการสายโทรศัพท์อัตโนมัติที่โต้ตอบกับผู้โทรผ่าน เสียงที่บันทึกไว้ล่วงหน้า และการกดปุ่มบนแป้นพิมพ์ ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการกับปริมาณการสอบถามจากลูกค้าได้มาก และเป็นวิธีที่สะดวกในการส่งต่อผู้โทรไปยังแผนกหรือเจ้าหน้าที่ที่เหมาะสม

ระบบ IVR เป็นทางเลือกที่นิยมสำหรับธุรกิจที่ต้องการปรับปรุงการบริการลูกค้า โดยการทำงานอัตโนมัติในบางงาน ธุรกิจสามารถลดเวลารอคอยและมั่นใจได้ว่าผู้โทรจะถูกส่งต่อไปยังบุคคลหรือแผนกที่เหมาะสมอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ระบบ IVR ทำงานอย่างไร

ระบบ IVR ทำงานโดยการทักทายผู้โทรและแสดงเมนูตัวเลือก ผู้โทรสามารถเลือกตัวเลือกโดยใช้แป้นพิมพ์หรือใช้เสียงพูดกับ ระบบ TTS ระบบ IVR จะส่งต่อสายไปยังเจ้าหน้าที่หรือแผนกที่เหมาะสม หรือให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้โทรตามการป้อนข้อมูลของพวกเขา

ตัวอย่างเช่น หากผู้โทรเลือกตัวเลือกสำหรับการสอบถามยอดเงินในบัญชี ระบบ IVR อาจขอให้ผู้โทรป้อนหมายเลขบัญชีของตนโดยใช้แป้นพิมพ์ เมื่อป้อนหมายเลขบัญชีแล้ว ระบบ IVR สามารถให้ข้อมูลยอดเงินปัจจุบันแก่ผู้โทร หรือส่งต่อสายไปยังเจ้าหน้าที่บริการลูกค้าหากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

การใช้งานทั่วไปของระบบ IVR

ระบบ IVR สามารถใช้ได้กับการใช้งานที่หลากหลาย (ส่วนใหญ่สำหรับระบบโทรศัพท์) ตั้งแต่การให้บริการตนเองแก่ผู้โทรไปจนถึงการส่งต่อผู้โทรไปยังเจ้าหน้าที่หรือแผนกที่เหมาะสม การใช้งานทั่วไปของระบบ IVR ได้แก่:

  • การจองและการนัดหมาย: ระบบ IVR สามารถใช้เพื่อให้ลูกค้าจองนัดหมายหรือกำหนดบริการ เช่น การนัดหมายทางการแพทย์หรือการซ่อมแซมบ้าน
  • การประมวลผลการชำระเงิน: ระบบ IVR สามารถใช้เพื่อประมวลผลการชำระเงิน เช่น ค่าสาธารณูปโภคหรือการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต
  • การสอบถามและอัปเดตยอดเงินในบัญชี: ระบบ IVR สามารถใช้เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับยอดเงินในบัญชีแก่ลูกค้า รวมถึงให้ลูกค้าอัปเดตข้อมูลบัญชีของตน
  • การติดตามคำสั่งซื้อและการอัปเดตสถานะ: ระบบ IVR สามารถใช้เพื่อให้ข้อมูลอัปเดตแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับสถานะของคำสั่งซื้อ รวมถึงเวลาจัดส่งที่คาดการณ์และหมายเลขติดตาม
  • การขอข้อมูลสินค้าและบริการ: ระบบ IVR สามารถใช้เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการแก่ลูกค้า เช่น ราคาและความพร้อมใช้งาน

โดยรวมแล้ว ระบบ IVR เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับธุรกิจที่ต้องการปรับปรุงการบริการลูกค้า โดยการให้บริการตนเองแก่ลูกค้าและส่งต่อสายไปยังแผนกหรือเจ้าหน้าที่ที่เหมาะสม ธุรกิจสามารถปรับปรุงความพึงพอใจของลูกค้าและลดเวลารอคอย

เทคโนโลยีแปลงข้อความเป็นเสียง

ด้วย API แปลงข้อความเป็นเสียงที่หลากหลาย ทำให้การแปลงข้อความเป็นเสียงที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับแบรนด์ของคุณง่ายกว่าที่เคย

เทคโนโลยีแปลงข้อความเป็นเสียงคืออะไร?

เทคโนโลยีแปลงข้อความเป็นเสียง (TTS) เป็นเทคโนโลยีที่กำลังเติบโตที่แปลง ข้อความที่เขียนเป็นคำพูด ระบบ TTS ใช้การประมวลผลภาษาธรรมชาติและปัญญาประดิษฐ์เพื่อสร้างเสียงพูดที่เหมือนจริงที่ฟังดูเหมือนเสียงมนุษย์

การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี TTS กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในหลายอุตสาหกรรมที่นำมาใช้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า ตัวอย่างเช่น เทคโนโลยี TTS ถูกใช้ในอุตสาหกรรมการแพทย์เพื่อช่วยผู้ป่วยที่มีปัญหาทางสายตาในการอ่านรายงานทางการแพทย์ นอกจากนี้ยังใช้ในด้านการศึกษาเพื่อช่วยนักเรียนที่มีปัญหาในการอ่าน

เทคโนโลยีแปลงข้อความเป็นเสียงทำงานอย่างไร

AI สนทนาได้พัฒนามาไกลมาก และในปัจจุบันมีตัวเลือกที่ปรับแต่งได้มากมายไม่ว่าคุณจะใช้โซลูชันแปลงข้อความเป็นเสียงแบบใด แอปพลิเคชันแปลงข้อความเป็นเสียงทำงานผ่าน การสังเคราะห์เสียง, โดยเริ่มจากการวิเคราะห์ข้อความที่เขียน แยกออกเป็นพยางค์ และกำหนดการออกเสียงที่ถูกต้องสำหรับแต่ละคำ จากนั้นระบบจะสังเคราะห์เสียงโดยใช้เสียงที่ฟังดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งสามารถปรับแต่งให้ตรงกับโทนและเสียงของแบรนด์ของคุณได้

เทคโนโลยีเบื้องหลัง TTS ได้พัฒนามาไกลตั้งแต่เริ่มต้น ด้วยความก้าวหน้าในด้านการเรียนรู้ของเครื่องและปัญญาประดิษฐ์ ทำให้ระบบ TTS สามารถผลิตไฟล์เสียงที่แทบจะแยกไม่ออกจากเสียงมนุษย์ สิ่งนี้ได้เปิดโอกาสใหม่ๆ สำหรับเทคโนโลยี TTS เช่น การใช้ในการสร้างหนังสือเสียงและพอดแคสต์

แปลงข้อความเป็นเสียง vs. ข้อความที่บันทึกไว้ล่วงหน้า

แม้ว่าข้อความที่บันทึกไว้ล่วงหน้าจะเป็นคุณสมบัติมาตรฐานของระบบ IVR แต่เทคโนโลยี TTS มีข้อดีหลายประการเหนือข้อความที่บันทึกไว้ล่วงหน้า ซอฟต์แวร์แปลงข้อความเป็นเสียงสามารถสร้างเสียงได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถเปลี่ยนแปลงสคริปต์ของคุณได้โดยไม่จำเป็นต้องบันทึกข้อความใหม่ นอกจากนี้ ระบบ TTS ยังมอบประสบการณ์ที่เป็นธรรมชาติและน่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับผู้โทร

นอกจากนี้ เทคโนโลยี TTS ยังมีความคุ้มค่ามากกว่าข้อความที่บันทึกไว้ล่วงหน้า เนื่องจากไม่จำเป็นต้องมีการบันทึกในสตูดิโอที่มีค่าใช้จ่ายสูงและนักพากย์เสียง สิ่งนี้ทำให้เป็นโซลูชันที่เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าโดยไม่ต้องใช้งบประมาณมาก

เทคโนโลยีแปลงข้อความเป็นเสียงเป็นตัวเปลี่ยนเกมในโลกของประสบการณ์ลูกค้า ความสามารถในการสร้างเสียงที่เหมือนจริงแบบเรียลไทม์ทำให้เป็นโซลูชันที่หลากหลายซึ่งสามารถใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ เมื่อเทคโนโลยีนี้พัฒนาต่อไป เราคาดว่าจะได้เห็นการประยุกต์ใช้ TTS ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ มากขึ้นในอนาคต

ประโยชน์ของการใช้แปลงข้อความเป็นเสียงในระบบ IVR

TTS บนคลาวด์ในระบบ IVR ได้พิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จในกรณีการใช้งานต่างๆ เนื่องจากมีประโยชน์มากมาย รวมถึง:

ปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้า

ประโยชน์หลักของการใช้ TTS ในระบบ IVR คือการปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า เทคโนโลยี TTS มอบประสบการณ์ที่เป็นธรรมชาติและน่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับผู้โทร ซึ่งช่วยลดโอกาสที่จะเกิดความหงุดหงิดและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า โดยการให้แพลตฟอร์มบริการตนเองที่มีประสิทธิภาพและง่ายดาย ธุรกิจสามารถลดเวลารอและมั่นใจได้ว่าผู้โทรจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรวดเร็ว

ตัวอย่างเช่น ลองนึกภาพผู้โทรที่ต้องการตรวจสอบยอดเงินในบัญชีของตน ด้วยเทคโนโลยี TTS ระบบ IVR สามารถให้ข้อมูลที่ผู้โทรต้องการได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ โดยไม่จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่สด สิ่งนี้ช่วยประหยัดเวลาและความพยายามของผู้โทรและมอบประสบการณ์ที่ดี

ประหยัดค่าใช้จ่าย

การใช้เทคโนโลยี TTS ในระบบ IVR ของคุณสามารถนำไปสู่การประหยัดค่าใช้จ่ายโดยลดความจำเป็นในการใช้เจ้าหน้าที่มนุษย์และลดจำนวนการโทรที่ต้องส่งต่อไปยังเจ้าหน้าที่สด ด้วยการจัดการปริมาณการสอบถามของลูกค้าจำนวนมาก ธุรกิจสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและลดต้นทุนการดำเนินงาน

ตัวอย่างเช่น ธุรกิจที่ได้รับสายจำนวนมากในช่วงเวลาหนึ่งของวันสามารถใช้เทคโนโลยี TTS เพื่อจัดการกับสายเหล่านั้นโดยไม่จำเป็นต้องมีพนักงานเพิ่มเติม สิ่งนี้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านแรงงานของธุรกิจและมั่นใจได้ว่าลูกค้าจะได้รับบริการที่รวดเร็ว

ความสามารถในการขยายและความยืดหยุ่น

เทคโนโลยี TTS ช่วยให้ระบบ IVR สามารถจัดการกับปริมาณการโทรจำนวนมากได้ ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีปริมาณการโทรสูง นอกจากนี้ ระบบ TTS ยังสามารถผสานรวมกับเทคโนโลยีอื่นๆ ได้อย่างราบรื่น เช่น แชทบอทและผู้ช่วยเสียง ซึ่งให้ความยืดหยุ่นมากขึ้นในการขยายข้อเสนอการบริการลูกค้าของคุณ

ตัวอย่างเช่น ธุรกิจที่ต้องการให้ลูกค้ามีตัวเลือกในการโต้ตอบกับแชทบอทสามารถใช้เทคโนโลยี TTS เพื่อมอบประสบการณ์ที่ราบรื่น แชทบอทสามารถสร้างการตอบกลับเป็นข้อความ ซึ่งระบบ TTS สามารถแปลงเป็นเสียงได้ มอบประสบการณ์ที่เป็นธรรมชาติและน่าสนใจสำหรับลูกค้า

รองรับหลายภาษา

เทคโนโลยี TTS ช่วยให้ระบบ IVR สามารถให้การสนับสนุนหลายภาษาแก่ลูกค้าได้ สิ่งนี้ทำได้โดยการจัดเก็บข้อความที่บันทึกไว้ล่วงหน้าในภาษาต่างๆ หรือสร้างเสียงแบบเรียลไทม์โดยใช้ระบบ TTS ที่มีความสามารถหลายภาษา

ตัวอย่างเช่น ธุรกิจที่ให้บริการลูกค้าที่หลากหลายสามารถใช้เทคโนโลยี TTS เพื่อให้การสนับสนุนในหลายภาษา สิ่งนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลและบริการที่ต้องการได้ ไม่ว่าจะมีความสามารถทางภาษาใดก็ตาม

อัปเดตและเปลี่ยนแปลงได้เร็วขึ้น

เทคโนโลยี TTS ช่วยให้ธุรกิจสามารถอัปเดตและเปลี่ยนแปลงสคริปต์ IVR ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่จำเป็นต้องบันทึกข้อความใหม่ โดยการอัปเดตข้อความ ระบบ TTS สามารถสร้างเสียงใหม่แบบเรียลไทม์ เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรวดเร็ว

ตัวอย่างเช่น หากธุรกิจต้องการอัปเดตสคริปต์ IVR เพื่อสะท้อนผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ พวกเขาสามารถเปลี่ยนแปลงข้อความได้ และระบบ TTS จะสร้างเสียงใหม่ในเวลาจริง ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าได้รับข้อมูลที่ทันสมัยที่สุด โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการบันทึกเสียงที่ยาวนาน

สรุปแล้ว การใช้เทคโนโลยี TTS ในระบบ IVR มีประโยชน์หลายประการ รวมถึงการปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้า การประหยัดค่าใช้จ่าย ความสามารถในการขยายและความยืดหยุ่น การสนับสนุนหลายภาษา และการอัปเดตและเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ด้วยการใช้เทคโนโลยีนี้ ธุรกิจสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ในขณะที่ลดต้นทุนการดำเนินงาน

ข้อควรพิจารณาเมื่อใช้ Text-to-Speech ในระบบ IVR

คุณภาพเสียงและความเป็นธรรมชาติ

แม้ว่าระบบ TTS จะสามารถสร้างเสียงที่เหมือนจริงได้ แต่ก็ยังมีความแตกต่างในด้านคุณภาพและความเป็นธรรมชาติ การเลือกใช้ระบบ TTS ที่ให้เสียง AI คุณภาพสูงที่สอดคล้องกับโทนและเสียงของแบรนด์ของคุณเป็นสิ่งสำคัญ

การผสานรวมกับระบบที่มีอยู่

การผสานรวมเทคโนโลยี TTS เข้ากับระบบ IVR ที่มีอยู่ต้องมีการวางแผนและพิจารณาอย่างรอบคอบ สิ่งสำคัญคือต้องมั่นใจว่าระบบ TTS สามารถผสานรวมกับเทคโนโลยีที่มีอยู่ได้อย่างราบรื่นและการเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นไปอย่างราบรื่นสำหรับลูกค้าของคุณ

ตัวเลือกการปรับแต่ง

การเลือกใช้ระบบ TTS ที่มีตัวเลือกการปรับแต่ง เช่น การเลือกเสียงพากย์และการปรับโทนเสียง จะช่วยให้ระบบ TTS สอดคล้องกับความต้องการเฉพาะของแบรนด์ของคุณและมอบประสบการณ์ที่สม่ำเสมอให้กับลูกค้าของคุณ

ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

เมื่อใช้เทคโนโลยี TTS สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาถึงความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ระบบ TTS อาจบันทึกและจัดเก็บข้อมูลลูกค้า ซึ่งควรได้รับการปกป้องตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง หากเป็นไปได้ ควรใช้ระบบ TTS IVR ที่มีความสามารถในการรู้จำเสียงขั้นสูงเพื่อให้ลูกค้าของคุณสามารถยืนยันตัวตนได้

มอบบริการลูกค้าที่ง่ายดายพร้อมลดต้นทุนด้วยเทคโนโลยี TTS ที่ไม่เหมือนใครของ Speechify

ในฐานะเจ้าของธุรกิจ คุณรู้ถึงความสำคัญของการให้บริการลูกค้าที่ดีเยี่ยม แต่คุณก็ต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายเช่นกัน ด้วยเทคโนโลยี text-to-speech ที่ไม่เหมือนใครของ Speechify คุณสามารถทำทั้งสองอย่างได้! เทคโนโลยีล้ำสมัยของเราช่วยให้ลูกค้าของคุณสามารถโต้ตอบกับบริษัทของคุณได้อย่างง่ายดาย ในขณะเดียวกันก็ลดต้นทุนในการให้บริการลูกค้า

เทคโนโลยี TTS ของ Speechify นั้นไม่เหมือนใครจริงๆ ติดตั้งง่าย ใช้งานง่าย และที่สำคัญที่สุดคือมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นให้กับลูกค้าของคุณเมื่อพวกเขาโต้ตอบกับบริษัทของคุณ ด้วย Speechify คุณจะสามารถมุ่งเน้นไปที่การเติบโตของธุรกิจของคุณ ในขณะที่เราดูแลส่วนที่เหลือ

คำถามที่พบบ่อย

คำถามที่ 1: บทบาทของ text-to-speech ในระบบ IVR คืออะไร?

เทคโนโลยี text-to-speech (TTS) ในระบบ IVR (Interactive Voice Response) แปลงข้อความที่เขียนเป็นคำพูด ทำให้ระบบสามารถสื่อสารกับผู้โทรด้วยเสียงได้ สามารถแนะนำผู้ใช้ผ่านตัวเลือกต่างๆ ให้ข้อมูล และอ่านข้อความของระบบ

คำถามที่ 2: ฉันสามารถปรับแต่งเสียงในระบบ IVR ที่ใช้ text-to-speech ได้หรือไม่?

ได้ ระบบ TTS หลายแห่งอนุญาตให้คุณเลือกจากตัวเลือกเสียงต่างๆ และบางครั้งยังสามารถปรับระดับเสียง ความเร็ว และแง่มุมอื่นๆ ของเสียงได้

คำถามที่ 3: text-to-speech ช่วยปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ในระบบ IVR ได้อย่างไร?

TTS สามารถปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ในระบบ IVR ได้อย่างมากโดยให้การตอบสนองด้วยเสียงที่ชัดเจนซึ่งแนะนำผู้ใช้ผ่านระบบ ทำให้ง่ายต่อการนำทางและรับข้อมูลหรือบริการที่ต้องการ

Cliff Weitzman

คลิฟ ไวซ์แมน

คลิฟ ไวซ์แมน เป็นผู้สนับสนุนด้านดิสเล็กเซียและเป็น CEO และผู้ก่อตั้ง Speechify แอปพลิเคชันแปลงข้อความเป็นเสียงอันดับ 1 ของโลก ที่มีรีวิว 5 ดาวมากกว่า 100,000 รีวิว และครองอันดับหนึ่งใน App Store ในหมวดข่าวและนิตยสาร ในปี 2017 ไวซ์แมนได้รับการยกย่องในรายชื่อ Forbes 30 under 30 จากผลงานของเขาในการทำให้อินเทอร์เน็ตเข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องในการเรียนรู้ คลิฟ ไวซ์แมน ได้รับการนำเสนอใน EdSurge, Inc., PC Mag, Entrepreneur, Mashable และสื่อชั้นนำอื่น ๆ